ข้ามมิติลิขิตรักคุณชายจอมป่วน ตอนที่ 1-7
เล่มที่ 1 ตอนที่ 7 ผู้หลงใหลในศาสตร์ลี้ลับ
วันต่อมา
ใต้สะพานลอยมีรถหรูหลายคันเร่งเครื่องพุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจอดเบื้องหน้าแผงลอยของเย่ฝาน
อาจารย์หยวนมองเห็นเจียงไห่หลินเดินลงมาจากรถหรู ก็ลูบเคราที่คางแล้วแอบคิดในใจว่า : ตนนั้นเป็นผู้หยั่งรู้อนาคตจริงๆ คาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคุณชายพวกนี้ต้องกลับมาหาเรื่องเย่ฝานในสักวันหนึ่ง เจ้านักต้มตุ๋นขายยันต์นั่น ติดหนี้บุญคุณตนจริงๆ
“พี่สอง คนที่พี่พูดถึงคนนั้นล่ะ?” เฉียนอวี้เอ่ยถามหลังจากเดินหาจนทั่วแล้ว
เจียงไห่หลินขมวดคิ้วแล้วตอบกลับ “เหมือนเขาจะไม่มานะ”
เฉียนอวี้ถามอย่างร้อนใจ “เขาไม่มา? ทำไมเขาถึงไม่มาล่ะ?”
เจียงไห่หลินตอบกลับด้วยใบหน้างุนงง “ฉันก็ไม่รู้ เขาอาจติดธุระด่วนก็ได้”
เฉียนอวี้พูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน “แล้วจะทำยังไรกันเล่า? พวกเราน่ะรอได้ แต่พี่ใหญ่คงรอไม่ได้แน่ๆ!”
เจียงไห่หลินกัดฟันแล้วพูดว่า “นายอย่าเพิ่งโวยวายสิ! เขาไม่มา พวกเราไปตามหาเขาก็ได้นี่ ฉันรู้สึกเหมือนเคยเห็นเขาที่ไหนแต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกสักที”
อาจารย์หยวนเฝ้ามองคุณชายเจ้าของรถหรูเหล่านั้นที่กำลังกระวนกระวายจนหาทางออกไม่ได้ จึงรู้ว่าพวกเขาไม่ได้จะมาหาเรื่องแต่อย่างใด แต่จะมาพบเย่ฝานเพื่อขอความช่วยเหลือ ทำให้อาจารย์หยวนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
“พี่สอง คนคนนั้นดูออกว่าบนตัวพี่มีกลิ่นอายภูตผี ฟังก็รู้แล้วว่าต้องเป็นยอดฝีมือ! ทำไมพี่ถึงไม่ขอนามบัตรหรือเบอร์โทรติดต่อเขาไว้ล่ะ”
เจียงไห่หลินกลอกตามองบนแล้วพูดว่า “ก็ฉันไม่ได้คิดไปมากกว่านั้นนี่? ใครใช้ให้หมอนั่นทำท่าทางเหมือนพวกสิบแปดมงกุฎเล่า ยอดฝีมือที่ไหนจะเปิดแผงขายของไปด้วย แทะไก่ทอดไปด้วย! มันน่าขายหน้าจะตาย!”
เย่ฝานไม่รู้เลยว่า ในขณะที่เขานอนหลับอย่างสบายอยู่บนเตียงนั้น อาจารย์หยวนได้ถูกคุณชายเหล่านั้นซักไซ้ไล่เลียงไปแล้วไม่รู้กี่รอบ
ในที่สุด อาจารย์หยวนที่ถูกถามจนแทบคลั่งก็นึกสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้
“คุณบอกว่าหมอนั่นมีหลานชายที่เรียนหนังสืออยู่แถวนี้งั้นเหรอ?” เจียงไห่หลินถาม
อาจารย์หยวนพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ เด็กคนนั้นนั่งรถหรู แถมยังมีบัตรที่มีเงินเป็นล้านหยวน ต้องเป็นลูกผู้ดีมีตระกูลแน่ๆ น่าจะหาตัวได้ไม่ยาก”
เจียงไห่หลินพาอาจารย์หยวนไปยังโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในละแวกนั้นด้วยความรวดเร็ว
เจียงไห่หลิน เฉียนอวี้และจูจ้งชิวต่างอยู่ในตระกูลที่มีอิทธิพล เหล่าคุณชายตระกูลใหญ่จะขอตรวจสอบข้อมูลสถานะนักเรียน แน่นอนว่าครูใหญ่ก็ไม่อยากจะเข้ามาขัดขวาง
“เด็กคนนี้แหละ” ไม่นานอาจารย์หยวนก็ค้นเจอข้อมูลสถานะนักเรียนของอู่หาวเฉียง
“เด็กคนนี้ใช่ไหมที่คุณพูดถึง!”
อู่หาวเฉียงเป็นหลานคนโตของตระกูลอู่ ชื่อเสียงย่อมเป็นที่รู้จักมากกว่าเย่ฝาน
“คุณบอกว่าอู่หาวเฉียงเป็นหลานของอาจารย์ อย่างนั้นอาจารย์คงไม่ใช่…” เฉียนอวี้เบิกตาโตเนื่องจากเรื่องดังกล่าวมันช่างยากที่จะเชื่อ
เจียงไห่หลินเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน “ฉันว่าแล้วเชียว ว่าทำไมถึงคุ้นหน้าคนขายยันต์คนนั้นเหลือเกิน ที่แท้ก็เป็นเขา”
เฉียนอวี้รีบส่ายหน้าพลางพูดว่า “นายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ที่หมายถึงน่ะมันคือเย่ฝานนะ!”
เฉียนอวี้เคยสบประมาทเย่ฝานอยู่ไม่น้อย เย่ฝาน เจ้าหมอนั่นเกิดในตระกูลที่สูงศักดิ์แท้ๆ ตระกูลฝั่งแม่ก็ยิ่งใหญ่ แต่กลับถูกลูกของเมียน้อยรังแกจนมีสภาพแบบนี้ แน่นอนว่าเรื่องนี้สาเหตุหลักมาจากพ่อของเขาที่ลำเอียงรักลูกไม่เท่ากันด้วย แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นเพราะเย่ฝานนั้นขี้ขลาด ไม่มีความทะเยอทะยานด้วยเหมือนกัน
เมื่อเย่ฝานก้าวลงมาจากรถ ก็ถูกรถหรูสามคันจอดล้อมเอาไว้
เจียงไห่หลินเดินลงมาจากรถหรูมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของเย่ฝาน แล้วพูดว่า “คุณชายเย่ คุณยังจำผมได้ไหม?”
เย่ฝานพยักหน้าและตอบกลับอย่างใจเย็นว่า “เมื่อสองวันก่อนนายมาซื้อยันต์ของฉันไปหลายใบ แต่ขอโทษด้วยฉันไม่รับของคืนหรอกนะ”
เจียงไห่หลินหัวเราะแห้งๆ พลางพูดว่า “ผมไม่ได้จะมาคืนสินค้าหรอกครับ คือผมมีเรื่องจะขอให้คุณช่วยต่างหาก”
เย่ฝานจ้องไปที่เจียงไห่หลินอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “กลิ่นอายภูตผีบนตัวนายอ่อนลงมากแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรงแล้วล่ะ”
ทันใดนั้นเย่ฝานก็ใช้นิ้วชี้ไปที่เฉียนอวี้พลันพูดว่า “นายนี่มันยังไงกันนะ เหมือนกับว่าไปสัมผัสกับภูตผีมา บนตัวของนายมีกลิ่นอายอสูรแรงมาก หรือว่านายมีความรักกับผี ถึงได้เข้าไปพัวพันกับภูตผีอย่างนี้”
เจียงไห่หลินได้ยินคำพูดของเย่ฝานแล้วรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เจียงไห่ลั่วมีงานอดิเรกชอบศึกษาพวกศาสตร์ลี้ลับ บันจี้จัมพ์ ปีนเขา โต้คลื่น กิจกรรมเล่านี้พวกเขาล้วนเคยเล่นมาแล้ว จึงอยากจะหาสิ่งแปลกใหม่ทำบ้าง
พวกเขาได้ยินมาว่าในสุสานของเมืองเล็กๆ ที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง กลางดึกจะมีภูตสาวในชุดแดงออกมาร่ายรำ จึงได้นัดหมายกันไปที่นั่นเพื่อไปดูภูตสาวตนนั้น ปรากฏว่าพวกเขาได้เห็นผีอย่างที่ใจคิดจริงๆ และซ่งป๋อฮุยลูกพี่ของพวกเขาก็คือหนึ่งในสี่คนที่เจอผีและโดนผีสิงเข้าให้
ทว่าการเชิญผีมานั้นง่าย แต่จะไล่ไปนั้นช่างยากเย็น หลังจากที่ซ่งป๋อฮุยถูกผีสาวเข้าสิงก็มักจะป่วยไข้และพูดจาแปลกๆ บางครั้งก็หัวเราะน่าเกลียดน่ากลัว บางครั้งก็ร้องเพลงขึ้นมา
เจียงไห่หลินและพวกพาไปหาหมอดูและซินแสมาหลายท่าน แต่ก็ยังหาวิธีแก้ไม่ได้
หลังจากที่เจียงไห่หลินซื้อยันต์จากเย่ฝานกลับไป เขาใช้ไปหนึ่งแผ่นแล้วรู้สึกดีขึ้นจึงนำไปให้ซ่งป๋อฮุยลองใช้ เขาพบว่ายันต์ออกฤทธิ์ได้ดีในระดับหนึ่ง ซ่งป๋อฮุยมีสติฟื้นคืนกลับมาได้บ้าง แต่เหมือนกับจิตวิญญาณของเขากำลังต่อสู้กับวิญญาณตนนั้นอยู่
“คุณชายเย่พูดเล่นใช่ไหม ผมจะรักกับผีได้ยังไง” เฉียนอวี้เต็มไปด้วยความละอายใจ เรื่องไปตามหาผีกลางดึกนั้นเป็นความคิดของเขาเอง พอซ่งป๋อฮุยเกิดเรื่อง คนตระกูลซ่งต่างก็เกลียดเขาเข้ากระดูกเลยทีเดียว
เมื่อรู้ว่ายันต์ที่เจียงไห่หลินซื้อมาใช้แล้วได้ผล เฉียนอวี้จึงรีบเอายันต์ให้กับซ่งป๋อฮุยได้ลองใช้
ยันต์นั้นใช้ได้จริง แต่ในระหว่างที่ใช้ภูตผีอาจสัมผัสได้ว่าโดนกระทำ จึงยิ่งทำร้ายร่างกายของเขาหนักขึ้น ดังนั้นบนตัวของเฉียนอวี้จึงมีกลิ่นอายอสูรรุนแรงขนาดนี้
“พวกนายมาหาฉันเพื่ออะไร?” เย่ฝานดึงถุงขนมถุงใหญ่ในรถออกมา 4 ถุง
เจียงไห่หลินรีบเดินเข้าไปช่วยถือของ
เย่ฝานซื้อโยเกิร์ต ช็อคโกแลต มันฝรั่งทอดและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาเต็มทั้ง 4 ถุงนั้น เจียงไห่หลินจึงรู้สึกหนักอยู่ไม่น้อย
มีคนช่วยถือของให้แบบนี้ แน่นอนว่าเย่ฝานย่อมต้องชอบใจอยู่แล้ว อย่างที่รู้ว่าคุณชายเย่ในชาติภพก่อนนั้น ถึงแม้จะไม่สามารถฝึกตนได้ แต่ด้วยชาติกำเนิดของเขานั้นไม่ธรรมดา สำนักจึงได้ให้สาวใช้ 2 คนและผู้ติดตามอีก 2 คนแก่เขา
คอมเมนต์