ข้ามมิติลิขิตรักคุณชายจอมป่วน ตอนที่ 1-10
เล่มที่ 1 ตอนที่ 10 ฉันจะแต่งเขาเป็นภรรยา
เมื่อเย่ฝานเดินออกมาจากร้านขายยาจีน ก็ถูกฝูงชนมุงดูทันที คนที่มุงดูอยู่นั้นก็ไม่กล้าเอะอะโวยวายมากมาย ได้แต่แอบชี้ไม้ชี้มือไปทางเขา และพูดกันไปว่า “เขาทำร้ายผู้หญิง”
“คุณชายเย่ คุณชายเย่” เฉียนอวี้เร่งฝีเท้าจนตามเย่ฝานทัน
เย่ฝานมองเฉียนอวี้แวบหนึ่ง แล้วถามว่า “มีธุระอะไร?”
ไม่กี่วันมานี้เจียงไห่หลินวุ่นวายอยู่กับเรื่องตามหาสมุนไพรบำรุงร่างกาย แน่นอนว่าเรื่องนี้รู้ถึงหูเฉียนอวี้เข้าจนได้ เมื่อถูกเฉียนอวี้ถามเช่นนั้น เจียงไห่หลินก็เลยต้องบอกเรื่องอายุขัยที่ถูกบั่นทอนลงมาอย่างจนใจ เรื่องนี้ทำให้เฉียนอวี้เสียขวัญเป็นอย่างมาก เพราะเย่ฝานเคยบอกไว้ว่า เขาได้รับกลิ่นอายอสูรมากกว่าเจียงไห่หลินเสียอีก ถ้าเช่นนั้นอายุขัยของเขาย่อมต้องสั้นลงกว่าเจียงไห่หลินแน่ๆ
“ใบสั่งยาที่คุณให้กับพี่รอง ผมใช้บ้างได้ไหมครับ” เฉียนอวี้เอ่ยถาม
“ได้สิ!” เย่ฝานตอบกลับ
เฉียนอวี้มองเย่ฝานแล้วถามว่า “คุณชายเย่ อายุขัยของผมจะสั้นลงมากน้อยแค่ไหนครับ!”
เย่ฝานตบไปที่ไหล่ของเฉียนอวี้พลางพูดว่า “ทำใจให้สบาย ก็แค่ครึ่งปี ครึ่งปีเท่านั้น เพียงชั่วลัดนิ้วมือทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว” ในภพที่แล้ว ผู้ฝึกตนขั้นจินตันในสำนักของเขา พอเข้าฌานฝึกยุทธ์ครั้งหนึ่งก็กินเวลาหลายปีเลยทีเดียว
เฉียนอวี้ “…”
“คุณชายเย่ หากผมดื่มน้ำสมุนไพรนั่นแล้ว น่าจะอยู่ได้นานขึ้นใช่ไหมครับ! หรือว่าคุณเขียนในสั่งยาที่มีตัวยาคุณภาพสูงกว่านี้ได้ไหม เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาครับ”
เย่ฝานครุ่นคิดจากนั้นตอบกลับไปว่า “นายใช้ยาตัวเดียวกับเจียงไห่หลินนั่นแหละ ตอนนี้ร่างกายนายยังอ่อนแอ หากใช้ยาคุณภาพสูงกว่านี้ จะรับไม่ไหวเอา อีกอย่างช่วงนี้คงต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนนะ”
เฉียนอวี้พยักหน้าแล้วตอบว่า “ครับ ครับ ผมจะเชื่อฟังคุณทุกอย่างครับ”
“เมื่อกี้ผมเห็นคุณ… ไปแสดงฤทธิ์เดชมาหรือครับ”
เย่ฝานเอามือเท้าเอว แล้วพูดว่า “ยัยคนไม่รู้ความ หากไม่ตบซะบ้างก็ไม่รู้ถึงฤทธิ์เดชของฉัน”
ในสำนักเมฆคราม เย่ฝานนับว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถฝึกตน แต่เหล่าลูกศิษย์ในสำนักเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาต่างก็แสดงความเคารพและนอบน้อม ยัยเด็กนั่นกลับกล้าใส่ร้ายป้ายสีเขา หล่อนเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของคุณชายเย่ ช่างน่ารังเกียจจริงๆ
เฉียนอวี้ “…” ข่าวลือที่ว่าคุณชายเย่เป็นคนขี้ขลาดตาขาวนั้น คงจะเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง
“แต่ยังไงการทำร้ายผู้หญิงมันก็ไม่ดีนะครับ”
“ถ้าไม่ใช่เพราะยัยเด็กนั่นมันสารเลว ใครอยากจะตบกันเล่า” เย่ฝานตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ
เฉียนอวี้ “…”
เฉียนอวี้และเย่ฝานกำลังเดินอยู่บนถนนซึ่งเต็มไปด้วยร้านขายยาจีน
เหล่าคุณชายตระกูลดังทั้งหลาย กำลังห้อมล้อมเด็กหนุ่มในชุดขาวคนหนึ่ง
เย่ฝานหยุดฝีเท้าในทันใด เขาจ้องมองชายหนุ่มในชุดขาวที่อยู่ท่ามกลางผู้คน โดดเด่นดังหงส์ในหมู่กา เขาเอ่ยถามด้วยท่าทางจริงจังว่า “เขาคือใครกัน!”
“เขาคือคุณชายไป๋อวิ๋นซีแห่งตระกูลไป๋ ที่มาที่ไปของเขาไม่ธรรมดา อย่าเข้าไปยุ่งด้วยจะดีกว่าครับ” เฉียนอวี้ตอบกลับ
เย่ฝานกะพริบตาแล้ว แล้วถามด้วยความตื่นเต้น “เขาดูดีมากเลย! ฉันจะแต่งเขาเป็นภรรยา”
เฉียนอวี้มองเย่ฝานด้วยใบหน้าตกใจแล้วพูดว่า “คุณชายเย่ หัวใจผมไม่ค่อยแข็งแรง คุณอย่าทำให้ผมตกใจแบบนี้สิครับ…”
หากอยู่ในเมืองชาง เฉียนอวี้ยังพอจะมีปากมีเสียงบ้าง แต่ที่นี่เป็นเมืองหลวง เขาเองก็ช่วยอะไรมากไม่ได้ ไป๋อวิ๋นซีเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในกลุ่มลูกหลานนักการเมือง ไป๋อวิ๋นซีมาเยือนเมืองหลวง คุณปู่ของเฉียนอวี้ยังต้องติดตามมาคารวะ
ไป๋อวิ๋นซีเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง ตั้งแต่เล็กจนโตเขาได้เลื่อนชั้นเรียนสูงกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะอายุเพียง 18 ปี แต่เขาก็จบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากต่างประเทศแล้ว และยังได้บริหารกลุ่มธุรกิจเจาซีกรุ๊ป ทั้งตัวเขาเองและครอบครัวต่างก็ทำให้ผู้คนตกตะลึงไปตามๆ กัน
เย่ฝานมองเฉียนอวี้แวบหนึ่งแล้วถามไปว่า “ฉันแค่อยากแต่งเขามาเป็นภรรยา ทำไมถึงทำให้นายตกใจล่ะ”
เฉียนอวี้ “…เพราะว่าคุณชายไป๋ไม่ชอบคนแบบคุณหรอกครับ”
เย่ฝานเอียงศรีษะแล้วเอ่ยถาม “ทำไมล่ะ? ฉันทั้งหล่อเหลาและสง่างาม ฉลาดปราดเปรื่องเหนือผู้ใด สติปัญญาก็เฉียบแหลมขนาดนี้”
เฉียนอวี้ “…” คุณชายเย่จะรู้ไหมว่าชื่อเสียงของคุณไม่ดีขนาดไหน! เที่ยวผู้หญิง ไม่รักความก้าวหน้า เป็นลูกที่ไม่เอาไหน แถมเมื่อครู่ก็เพิ่งจะรังแกน้องสาวของตัวเองด้วย
“คุณชายไป๋ชอบคนที่ร่ำรวย และมีความสามารถ” เฉียนอวี้กล่าว
เย่ฝานถามกลับด้วยความสงสัย “ยังไงที่เรียกว่าร่ำรวย?”
“อย่างน้อยบ้านต้องรวย มีเงินเป็นหมื่นล้าน”
“แล้วยังไงที่เรียกว่ามีความสามารถ?” เย่ฝานถามต่อ
“ผู้ที่สามารถเข้าไปเด็ดหัวข้าศึกท่ามกลางกองทัพนับหมื่น ราวกับหยิบของในถุงย่าม[1]” เฉียนอวี้พูดโพล่งออกมาโดยไม่ทันคิด
เย่ฝานพยักหน้าพลางพูดว่า “เข้าใจแล้ว”
เฉียนอวี้ “…”
เย่ฝานจ้องมองไป๋อวิ๋นซีอย่างไม่ละสายตา ไป๋อวิ๋นซีเหมือนจะรู้สึกตัวจึงหันไปมองทางเย่ฝานแวบหนึ่ง เย่ฝานรีบโบกมือให้กับไป๋อวิ๋นซีด้วยความตื่นเต้น
เฉียนอวี้เห็นเย่ฝานออกอาการตกหลุมรักแบบนั้น เขารู้สึกร้อนตั้งแต่เท้าขึ้นมาทั้งตัว ใบหน้าก็พลันแดงก่ำไปหมด เวรกรรมแท้ๆ! เย่ฝานไม่รู้สึกขายหน้าหรืออย่างไร เขาเองยังรู้สึกอับอายไม่น้อย จู่ๆ เฉียนอวี้ก็รู้สึกว่าเย่ฝานในแบบเคร่งขรึมจริงจัง ยังดูดีกว่านี้มาก
ไป๋อวิ๋นซีหัวเราะ ถามผู้ที่เดินข้างกายเขาว่า “ผู้ชายที่ดูตลกๆ คนนั้นเป็นใครกัน!”
“ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ” เลี่ยวเหอที่เดินอยู่ข้างกายไป๋อวิ๋นซีไม่สนใจที่จะบอกเขาว่า ชายคนนั้นคืออดีตคู่หมั้นของเลี่ยวถิงถิง
“ช่างเถอะ”
ไป๋อวิ๋นซีขึ้นรถและจากไปอย่างสง่างาม
เย่ฝานเอียงศีรษะ พูดอย่างอิ่มอกอิ่มในว่า “เขากำลังสนใจฉันอยู่”
เฉียนอวี้มองเย่ฝานแวบหนึ่ง แล้วฝืนใจถามว่า “คุณชายเย่ คุณดูจากตรงไหนว่าคุณชายไป๋สนใจคุณครับ!”
“ก็เมื่อกี้เขาส่งยิ้มให้ฉัน นายไม่เห็นเหรอ?” เย่ฝานตอบกลับอย่างไม่เข้าใจ
เฉียนอวี้ “…” หากไม่ใช่เพราะที่ผ่านมาเขาขับไล่ผีร้ายออกจากร่างของซ่งป๋อฮุยได้สำเร็จ เขาอยากจะพาเจ้าหมอนี่ไปโรงพยาบาลบ้าเสียตอนนี้เลย เป็นคนแบบไหนกันนะ!
“คุณชายเย่ครับ” ตอนนี้ก็สายมากแล้ว คุณชายไป๋ก็กลับไปแล้ว ถ้างั้นให้ผมเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อนะครับ” เฉียนอวี้รวบรวมสติคืนมา แล้วถามเย่ฝานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เย่ฝานพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้สิ!” ฉันเพิ่งไปเจอร้านอาหารรสชาติไม่เลวอยู่หนึ่งร้าน พวกเราไปกินที่นั่นก็ได้
“ร้านอาหารอะไรเหรอครับ” เฉียนอวี้ถามอย่างสนอกสนใจ
“ราเมนหลันโจว”
เฉียนอวี้ “…” เย่ฝานจะช่วยเขาประหยัดเงินหรือยังไง? ถึงแม้จะจ่ายเงินแทนซ่งป๋อฮุยไปสิบล้านหยวน จนทำให้ช่วงนี้เขาขัดสนเงินทองอยู่บ้าง แต่ยังไงก็มีเงินเลี้ยงอาหารแพงๆ สักมื้อได้อยู่แล้ว
………………………………………………………………………………………………..
[1] เป็นคำที่ใช้เปรียบเปรยถึงความสามารถของบุคคลในนิยายเรื่องสามก๊ก คือ เตียวหุย นักรบจอมพลัง ผู้บ้าดีเดือดและมุทะลุดุดัน ที่สามารถต่อสู้กับข้าศึกได้นับหมื่น และเด็ดหัวศัตรูได้ง่ายเหมือนหยิบของในถุงย่าม
คอมเมนต์