คู่มือดูแลนักเขียนสุดเทพ ตอนที่ 6

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 006

หลิงเหมี่ยวกดเปิดข้อความด้วยความสงสัย
‘สวัสดีครับ ผมคือซูหยาง หลังจากผ่านการทดสอบ ผมตัดสินใจจ้างคุณเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของผม สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้คือเปิดอีเมลของคุณ อ่านสัญญาที่ผมส่งให้คุณอย่างละเอียดหลายๆ ครั้ง หากไม่มีอะไรขัดข้อง ให้เซ็นชื่อและประทับตรา จากนั้นเอาไป…(ที่อยู่) ร้านกาแฟซินอวี่ หลังจากถึงแล้วค่อยติดต่อกันทางโทรศัพท์’
อ่านข้อความจบ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในมือหลิงเหมี่ยวหล่นลงพื้นทั้งอย่างนั้น
“ผัวะ…”
“เฮ้ย บะหมี่แตกหมดแล้ว!” หลิงเหมี่ยวรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองแตกดัง ‘เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ’ เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ว่า…ที่นายต้องสนใจที่สุดตอนนี้น่าจะไม่ใช่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนะ?
จริงด้วย! บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอะไร กำลังจะจากฉันไปไกลแล้ว! งานล่ะ! ฮ่าๆ ฉันกำลังจะได้งานแรกในชีวิตฉันแล้ว คิดๆ ดูแล้วไม่ใช่ตื่นเต้นธรรมดานะเนี่ย!
แต่ว่าความยินดีของหลิงเหมี่ยวไม่ได้คงอยู่นานนัก… ระหว่างทางกลับห้องเช่าโทรศัพท์มือถือของเขาก็ถูกขโมยไปเสียแล้ว!
กลับถึงห้องเช่า หลิงเหมี่ยวซึมอยู่นานกว่าจะรวบรวมความกล้าไปขอยืมเงินจากจี้หลินซี
ซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ อีกทั้งทำซิมการ์ดใหม่ ใจของหลิงเหมี่ยวน่ะ เจ็บหนึบๆ เจ็บจนเขาน้ำตาแทบไหลแล้ว… เงินของเดือนหน้า ก็ถูกใช้ล่วงหน้าไปทั้งอย่างนี้แล้ว
พร้อมด้วยความเศร้า หลิงเหมี่ยวเดินไปด่าไประหว่างทางไปห้องเช่า ตอนที่ผ่านร้านกาแฟซินอวี่ เขาเห็นคนคุ้นเคยคนหนึ่ง
“อวี้หยาง?” หลิงเหมี่ยวรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย “ทำไมเจ้านี่มาอยู่นี่?”
อวี้หยางมองโน้ตบุ๊กอย่างจดจ่อ ไม่ได้สังเกตเห็นสายตาสงสัยนอกกระจกโดยสิ้นเชิง
หลิงเหมี่ยวมองดูอวี้หยาง รู้สึกว่าอวี้หยางในวันนี้และอวี้หยางในความทรงจำของเขาแตกต่างกันมาก
อวี้หยางในความทรงจำ ให้ความรู้สึกเอ้อระเหย อวี้หยางในวันนี้กลับทำให้คนไม่อยากเข้าใกล้
ใบหน้าของอวี้หยางเหมือนกับก้อนน้ำแข็ง สีหน้าที่เข้มงวดก่อตัวเป็นฉากกั้นที่สัมผัสไม่ได้และมองไม่เห็นชั้นหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกภายนอกล้วนถูกฉากกั้นนี้ขวางไว้ นิ้วทั้งสิบของเขาเคาะคีย์บอร์ดอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ความเร็วนั้นทำให้หลิงเหมี่ยวอยากตัดมือทิ้งตงิดๆ ‘สงสัยเหลือเกินว่าชาติที่แล้วเจ้านี่เป็นปลาหมึก!’
นิ้วมือของอวี้หยางนานๆ ครั้งก็หยุดลงบ้าง เมื่อถึงเวลานี้ทุกครั้งเขาจะขมวดคิ้วหนึ่งที ไม่กี่วินาทีให้หลังก็คลายออกมาอีก ต่อจากนั้นนิ้วมือพลิ้วไหวก็ทิ้งเงาเลือนรางไว้
หลิงเหมี่ยวจ้องนิ้วมือของอวี้หยางอย่างเหม่อลอยโดยไม่รู้ตัว บริกรยกกาแฟเดินเข้ามา มองปราดหนึ่งก็เห็นหลิงเหมี่ยวที่ยืนอยู่นอกร้าน บริกรคนนั้นไตร่ตรองอยู่สองวินาที วางกาแฟไว้ข้างมือของอวี้หยางแล้วก็จากไป ก่อนไปยังพิจารณาหลิงเหมี่ยวครู่หนึ่ง
เดินไปถึงเคาน์เตอร์เก็บเงิน บริกรโก้งโค้งพูดเสียงเบาอยู่ข้างหูเจ้าของร้าน แล้วใช้นิ้วมือชี้หลิงเหมี่ยวอีก สายตาของเจ้าของร้านโฉบผ่านตัวหลิงเหมี่ยว สุดท้ายตกไปอยู่บนตัวอวี้หยาง เห็นอวี้หยางดื่มกาแฟอยู่ เขาสั่งคนข้างๆ สองสามคำแล้วเดินไปทางอวี้หยาง
“อวี้หยาง” เจ้าของร้านเรียกอย่างกระฉับกระเฉง อวี้หยางได้ยินเสียงเงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นคนที่มา สีหน้าที่เฉยเมยของเขาละลายทันที มุมปากที่ยกขึ้นอ่อนโยนถึงขีดสุด
“ไม่ได้มาพักใหญ่ๆ แล้วใช่ไหม”
“ไม่ได้มาพักใหญ่ๆ แล้วล่ะ นายก็รู้ถ้าไม่มีธุระอะไรฉันขี้เกียจออกจากบ้าน” ร่างกายอวี้หยางเอนไปข้างหลัง พิงไปบนเก้าอี้ทั้งตัวอย่างระทวย แสงแดดอันอ่อนโยนหยุดอยู่บนบ่าเขา เพิ่มความเกียจคร้านให้หลายส่วน ดวงตาเรียวยาวฉายแววเจ้าเล่ห์ ประหนึ่งสุนัขจิ้งจอกที่กำลังรอเหยื่อของมัน
เจ้าของร้านรู้จักอวี้หยางดีเหลือเกิน เห็นสีหน้าแบบนี้ของอวี้หยางเขาก็รู้ว่า จะมีคนโชคร้ายแล้ว
“ฉันรอคน…” พูดไปได้ครึ่งเดียว จู่ๆ อวี้หยางก็หยุดชะงัก เจ้าของร้านมองไปตามสายตาของอวี้หยาง หลิงเหมี่ยวกำลังหันหลังกลับอย่างลนลาน
“หลิงเหมี่ยว!” อวี้หยางเรียกให้หลิงเหมี่ยวหยุดอย่างเสียงดัง หลิงเหมี่ยวก้มหน้าก้มตาเดินต่อไปข้างหน้าราวกับไม่ได้ยิน
หลิงเหมี่ยวกำลังจะหายไปจากขอบข่ายสายตาอวี้หยางอยู่แล้ว เจ้าของร้านเตือนด้วยความหวังดีว่า “ร้านฉันนี่เก็บเสียงดีมาก เสียงข้างนอกอยู่ข้างในแทบจะไม่ได้ยิน เพราะงั้น…เฮ้ย แก้วที่ตกแตกใบนี้ลงบัญชีนายนะ!”
ก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มได้ยินหรือเปล่า เอาเป็นว่ารอเจ้าของร้านพูดจบ แผ่นหลังของชายหนุ่มก็หายไปนานแล้ว
“เจ้านี่ คงไม่ใช่ตกหลุมรักแล้วหรอกนะ?” เจ้าของร้านคิดแบบนี้ จากนั้นเขาก็พบว่าโน้ตบุ๊กของอวี้หยางไม่ได้ปิด!
“เฮ่อ ยังไงก็ไม่มีอะไรทำ อ่านนิยายแป๊บหนึ่งก่อนแล้วกัน”
เจ้าของร้านยังไม่ทันเลื่อนไปถึงตอนที่ตัวเองอ่านถึง ก็ได้ยินเสียงแผดมาจากหน้าประตูจนฟ้าสะเทือน “เฟิงจี้ ถ้านายกล้าแตะโน้ตบุ๊กฉัน ฉันจะหักขาข้างที่ห้าของนายซะ!”
เฟิงจี้ก็คือชื่อของเจ้าของร้านกาแฟซินอวี่ แต่ว่าหลิงเหมี่ยวรู้จักเฟิงจี้แค่คนเดียว นั่นก็คือพระเอกเรื่อง ‘เพลงมารฝืนลิขิต’
“เฟิงจี้?” หลิงเหมี่ยวพูดออกมาเบาๆ “ชื่อเหมือนพระเอกเรื่อง ‘เพลงมารฝืนลิขิต’ เลย”
“อ้อ ชื่อของพระเอกเรื่อง ‘เพลงมารฝืนลิขิต’ ก็ยืมมาจากเจ้านี่แหละ” อวี้หยางลากหลิงเหมี่ยวเข้ามาในร้าน หลิงเหมี่ยวยังย่อยคำพูดของอวี้หยางไม่หมดก็ถูกอวี้หยางกดลงบนเก้าอี้
“พวกคุณเกี่ยวข้องกับเทพซูยังไงกันแน่?” หลิงเหมี่ยวย่อยคำพูดของอวี้หยางเสร็จก็กดเสียงต่ำถาม
เฟิงจี้เอ่ยอย่างครุ่นคิด “ฉันรู้จักเขาก็เจ็ดแปดปีแล้วมั้ง ส่วนความสัมพันธ์ของฉันกับเขา คนแปลกหน้า… เพื่อนร่วมห้อง… คนรัก… เพื่อน น่าจะเป็นแบบนี้แหละ ใช่ไหมอวี้หยาง?”

คอมเมนต์

Chapter List