คู่มือดูแลนักเขียนสุดเทพ ตอนที่ 8
ตอนที่ 008
ซูอวี้หยางเท้าข้อศอกซ้ายมือไว้บนโต๊ะข้างตัว หลังมือเท้าคางไว้ ขาขวาไขว้อยู่บนขาซ้าย มือขวาวางอยู่บนขาขวาอย่างตามสบาย ร่างกายเอียงพิงพนักพิงเก้าอี้เล็กน้อย ทั้งตัวให้ความรู้สึกเอ้อระเหย ยกเว้นดวงตาคู่นั้นที่ฉายแววเจ้าเล่ห์
ความสูงของหลิงเหมี่ยวและซูอวี้หยางห่างกันหนึ่งช่วงใหญ่ แต่ว่าอย่างไรเสียเขาก็ยืนอยู่ ดังนั้นซูอวี้หยางจึงได้แต่จ้องหน้าหลิงเหมี่ยวจากล่างขึ้นบน เขาเก็บความเปลี่ยนแปลงของสีหน้าหลิงเหมี่ยวเข้าไปในตาเขาทั้งหมด
หลิงเหมี่ยวก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือ รอยย่นระหว่างคิ้วยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ นิ้วมือของเขาเลื่อนไปมาบนหน้าจอไม่หยุด ผ่านไปประมาณหนึ่งนาทีเขาถึงเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าเสื้อ
หลิงเหมี่ยวสูดลมหายใจเข้าเนิบๆ ทีหนึ่ง ขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จากนั้นยืนตัวตรงแน่วอยู่หน้าซูอวี้หยาง
ในตาซูอวี้หยางฉายแววสงสัย เมื่อเขากำลังจะเปิดปากถาม หลิงเหมี่ยวก็ตะคอกใส่เขาว่า “ซูอวี้หยาง คุณมันสารเลว!”
อีกครั้งที่ถูกหลิงเหมี่ยวด่าว่าสารเลว ซูอวี้หยางรู้สึกไม่ยุติธรรม ยิ่งกว่านั้นคือความไม่เข้าใจ ‘ฉันปกป้องความเป็นส่วนตัวของตัวเองมันสารเลวยังไง?’
ซูอวี้หยางนั่งตัวตรงขึ้นมาเตรียมถกกับหลิงเหมี่ยว หลิงเหมี่ยวก็แผดเสียงขึ้นมาอีกครั้ง “ซูอวี้หยาง คุณไม่เพียงแต่สารเลวยังปัญญาอ่อนด้วย! คุณใส่ใจความเป็นส่วนตัวของคุณมากไม่ใช่เหรอ? ถ้างั้นที่คุณแท็กผมคืออะไร? คุณไม่รู้ว่าแฟนบางคนอยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณหรือไง? คุณแท็กผมไม่เท่ากับผลักผมไปอยู่แนวหน้าสุดเหรอ? เพราะงั้น…คุณมองหาอะไร? ยังไม่รีบลบโพสต์นั้นออกอีก! ผมจะเปลี่ยนชื่อเวยป๋อเดี๋ยวนี้แหละ!” หลิงเหมี่ยวในตอนนี้ก็เหมือนแมวที่ถูกเหยียบหางตัวหนึ่ง เขาแยกเขี้ยวยิงฟันโบกสะบัดมือจะสั่งสอนคนที่เหยียบหางตัวเองให้หนำใจสักครั้ง
หลิงเหมี่ยวระบายไฟโกรธในท้องออกมา ก่อนจะถอนหายใจออกอย่างหนักหน่วง หน้าอกของหลิงเหมี่ยวขยับขึ้นลงเบาๆ แม้แต่เสียงหายใจก็ได้ยินอย่างชัดเจน ส่วนคำพูดที่พูดออกมาเมื่อครู่ หลิงเหมี่ยวพูดรวดเดียวออกมาโดยไม่ต้องหยุดพักและหายใจ
เทียบกับหลิงเหมี่ยวที่โกรธอย่างควบคุมไม่ได้ ซูอวี้หยางดูแล้วใจเย็นกว่ามาก… สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
ที่จริงซูอวี้หยางเหม่อลอยอยู่… เขารู้สึกว่ามีฝนตกในห้อง ยิ่งกว่านั้นฝนนี้แปลกมาก… ทุกครั้งที่หลิงเหมี่ยวพูดคำหนึ่งก็มีหยดฝนตกอยู่บนหน้าตัวเองหยดหนึ่ง
ฝนหยุดแล้ว ซูอวี้หยางยื่นมือไปปาดโดยปฏิกิริยาตอบโต้อัตโนมัติ รอฝ่ามือเลื่อนผ่านคางซูอวี้หยางถึงตระหนักได้เรื่องหนึ่ง… เฮ้ย นั่นคือน้ำลายของหลิงเหมี่ยว!
ทีนี้ทำจนซูอวี้หยางไม่รู้จะวางมือไว้ไหนดีแล้ว
หลิงเหมี่ยวเห็นความลนลานของซูอวี้หยาง แน่นอนเขาไม่รู้ว่าน้ำลายของตัวเองกระเซ็นเต็มหน้าซูอวี้หยางไปหมด ต่อให้รู้แล้วอย่างมากก็แค่พูดว่า ‘สมน้ำหน้า!’
สายตาของซูอวี้หยางกวาดไปในห้องรอบหนึ่ง เขารู้สึกอยากด่าแม่ตงิดๆ ‘ให้ตาย ไม่คิดว่าไม่มีแม้แต่กระดาษทิชชู!’ ด้วยความจำใจ ซูอวี้หยางจึงได้แต่หยิบเสื้อที่เฟิงจี้วางไว้บนเตียงขึ้นมาเช็ดมือ
“ฮึ” หลิงเหมี่ยวส่งเสียงฮึทีหนึ่ง ส่วนที่ว่า ‘ฮึ’ คำนี้ประกอบไปด้วยอารมณ์อะไรบ้าง ซูอวี้หยางก็ไม่มีอารมณ์ไปคิดแล้ว ‘เอาเป็นว่าไม่ได้หมายถึงอะไรในทางที่ดีก็แล้วกัน’
“ตอนนี้คุณคงเชื่อแล้วนะ?” ซูอวี้หยางถาม
หลิงเหมี่ยวส่งเสียง ‘หึๆ’ ไปสองที พูดอย่างเย็นชาว่า “เชื่อ? เชื่อบ้าน่ะสิ? อวี้หยาง ซูอวี้หยาง ซูหยาง เทพซู เทพที่ผมชอบมากๆๆ คุณหยอกผมเป็นลิงสนุกมากใช่ไหม?” เริ่มแรกหลิงเหมี่ยวยังค่อนข้างใจเย็น เมื่อพูดถึง ‘ซูหยาง’ อารมณ์ก็ขึ้นมาทันที ค่าเดซิเบลที่เพิ่มขึ้นกะทันหัน สั่นสะเทือนจนแก้วหูของซูอวี้หยางเกือบเป็นรู
“ผมไม่มีเจตนาจะล้อคุณเล่น” อารมณ์ของซูอวี้หยางไม่ค่อยแปรปรวนสักเท่าไร เขาลุกขึ้นยืนเตรียมตัวอธิบายให้หลิงเหมี่ยวฟัง จู่ๆ หลิงเหมี่ยวก็ตะโกนทีหนึ่ง “สูงกว่าผมแล้วเจ๋งเหรอ?”
“เอ่อ…” ซูอวี้หยางรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างไม่มีเหตุผล คิดในใจว่า ‘เจ้านี่ โมโหง่ายจริงๆ เลย’
“คุณอ่านสัญญาหรือยัง?” ซูอวี้หยางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วดึงหัวข้อสนทนากลับมา หลิงเหมี่ยวพูดอย่างเฉยเมย “ผมมีเวลาอ่านที่ไหนกัน?”
ซูอวี้หยางเปิดสัญญาออกมา หลังจากวางโน้ตบุ๊กไว้บนโต๊ะแล้วเขาก็พูดกับหลิงเหมี่ยวว่า “คุณลองอ่านสัญญาก่อน”
หลิงเหมี่ยวอ่านสัญญาอย่างละเอียดจนจบ ไม่มีปัญหาอะไรจากนั้นก็ประทับตราเซ็นชื่อ
เซ็นสัญญาเสร็จ หลิงเหมี่ยวไม่รู้สึกยินดีเหมือนที่คิดไว้ น่าจะเพราะได้รับความกระทบกระเทือนจากเรื่องที่อวี้หยางก็คือซูหยางนั่นเอง
……………………..
เมื่อเปิดประตูจี้หลินซีก็เห็นหลิงเหมี่ยวคาบอมยิ้มไปพลางดูโน้ตบุ๊กไปพลาง ดูจากสีหน้าของหลิงเหมี่ยว เขากำลังด่าคนอยู่ในใจ
จี้หลินซีเหลือบมองใบหน้าดำคร่ำเครียดของหลิงเหมี่ยวแล้วถามด้วยความห่วงใยว่า “สัมภาษณ์ไม่ผ่านเหรอ?”
หลิงเหมี่ยวหันหน้ามาค้อนเขาควักหนึ่ง เคี้ยวอมยิ้ม จากนั้นวางคางไว้บนคีย์บอร์ดพูดอย่างหมดอาลัยตายอยากว่า “ยังจำไอ้โรคจิตที่ฉันพูดถึงเมื่อวานได้ไหม?”
“ดูจากที่นายพูดมาเมื่อวาน ต้องมีแปดเก้าส่วนในสิบส่วนที่เขาสนใจนายเข้าแล้ว หรือว่าเขาขอเบอร์โทรศัพท์นายแล้ว?”
“แค่นั้นซะที่ไหนล่ะ” ใบหน้าหลิงเหมี่ยวฉายแววเบื่อหน่ายไปทั้งหน้า “โรคจิตคนนั้นก็คือเจ้านายของฉัน… ท่านเทพซูหยางผู้ลึกลับ… ชื่อจริงซูอวี้หยาง”
“ที่แท้เจ้านายของนายเป็นโรคจิตเหรอเนี่ย!” จี้หลินซีมองหลิงเหมี่ยวอย่างค่อนข้างเห็นใจ ขณะที่หลิงเหมี่ยวซาบซึ้งน้ำมูกไหลเตรียมตัวกอดจี้หลินซีนั้น จี้หลินซีก็แทงเข้าให้ฉึกหนึ่ง “โรคจิตกับโรคจิตช่างสมกันอย่างกับอะไรดี! หลิงเหมี่ยว ดูแลท่านเทพซูหยางให้ดี ไม่แน่เขาอาจรับนายเข้าตระกูลซูก็ได้ วันหน้าต่อให้นายไม่ทำงานก็ไม่ต้องอดตาย”
“ไสหัวไปเลย!” หลิงเหมี่ยวพ่นก้านอมยิ้มออกมา ทิ่มถูกหน้าอกของจี้หลินซีพอดี จากนั้นหล่นเข้าไปในถังขยะอย่างราบรื่น
หลิงเหมี่ยวเคี้ยวอมยิ้มพลางทำเสียงฮึเย็นเยียบว่า “ต่อให้เขาอยากรับฉันเข้าตระกูลซู ก็ต้องดูว่าฉันยอมหรือเปล่า ยิ่งกว่านั้น ไม่แน่ฉันต่างหากที่รับเขาเข้าตระกูลหลิงของฉัน!”
จี้หลินซีมองดูหลิงเหมี่ยวแล้วไม่พูดอะไร แต่ว่าดูจากมุมปากอมยิ้มของเขาแล้ว เขาต้องไว้อาลัยสามวินาทีให้หลิงเหมี่ยวอยู่ในใจแน่นอน
คอมเมนต์