คู่มือดูแลนักเขียนสุดเทพ ตอนที่ 14
ตอนที่ 014
หลิงเหมี่ยวเทของที่ไหม้ในกระทะลงถังขยะ แล้วรองน้ำเย็นจากนั้นวางกระทะกลับลงบนเตา “หวังว่ายังล้างออกนะ”
พูดจบ หลิงเหมี่ยวหันหลังจะไป ซูอวี้หยางก้าวเดียวข้ามไปอยู่หน้าหลิงเหมี่ยวขวางหลิงเหมี่ยวไว้ “เสี่ยวเหมี่ยว ฉันหิว”
ฟังคำพูดเกือบจะออดอ้อนของซูอวี้หยาง หลิงเหมี่ยวหัวโตเป็นสองเท่า
“อย่ามาทำให้ผมสะอิดสะเอียน” หลิงเหมี่ยวตีมือของซูอวี้หยางทิ้ง จากนั้นกลับห้องครัวลวกบะหมี่ให้ซูอวี้หยางชามหนึ่ง
ซูอวี้หยางกินบะหมี่อย่างเงียบๆ มิหนำซ้ำยังกินแบบทีละเส้นทีละเส้น หลิงเหมี่ยวดูอยู่ข้างๆ แค้นที่ไม่อาจเปิดรูบนศีรษะซูอวี้หยางสักรูหนึ่งแล้วเทบะหมี่ลงไป
ซูอวี้หยางค่อยๆ เคี้ยวค่อยๆ กลืน หลิงเหมี่ยวนั่งอยู่ข้างๆ เตรียมตัวอ่านนิยาย จากนั้นเขาพบว่าท่านเทพบางท่านวันนี้ไม่ได้อัพโหลดอีกแล้ว จึงอดบ่นสองสามคำไม่ได้
“ทำไมเหรอ?” ซูอวี้หยางถาม
“ไม่มีอะไร” หลินเหมี่ยววางท่า ‘ผมไม่อยากสนใจคุณ’
ซูอวี้หยางเจอตอ เขาจึงเปลี่ยนหัวข้อเสีย “เสี่ยวเหมี่ยว บะหมี่ที่เธอทำรสชาติไม่เลว”
“บะหมี่ที่ผมทำ…” หลิงเหมี่ยวนึกอะไรขึ้นได้ทันที เขาถามว่า “คุณไม่กล้าเข้าใกล้เตาไฟไม่ใช่เหรอ? ทำไมวันนี้ถึงลงมือเองล่ะ?”
“ฉัน…” ซูอวี้หยางพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง
หลิงเหมี่ยวกัดฟัน ท่าทางเหมือนรู้แจ้งขึ้นมาโดยฉับพลัน เขายกชามบะหมี่หน้าซูอวี้หยางขึ้นมา ทำท่าจะเทลงถังขยะ “ซูอวี้หยาง คุณไม่แกล้งผมวันหนึ่งก็ไม่สบายใช่ไหม? ในเมื่อนิสัยเราเข้ากันไม่ได้แบบนี้ ผมว่าผมลาออกดีกว่า”
ซูอวี้หยางรีบกันบะหมี่ไว้ ส่วนหลิงเหมี่ยวฉวยโอกาสที่ซูอวี้หยางวางชามเดินไปถึงหน้าประตูแล้ว
“เสี่ยวเหมี่ยว!”
ได้ยินเสียงเรียกของซูอวี้หยาง หลิงเหมี่ยวหยุดฝีเท้าลง แต่เขาไม่ได้หันกลับไป หลิงเหมี่ยวพูดเสียงเย็นชาว่า “ซูหยาง คุณสบายใจได้ ผมไม่แพร่งพรายข้อมูลใดๆ ของคุณออกไปหรอก”
ซูอวี้หยางอธิบายว่า “ฉันไม่กล้าเข้าใกล้เตาไฟเป็นเรื่องจริง วันนี้ฉันหิวมากถึงได้ทำใจกล้าลองดู ผลลัพธ์เธอก็เห็นแล้ว…ของในกระทะไหม้หมดแล้ว”
ที่จริงความคิดที่แท้จริงของซูอวี้หยางคือแบบนี้ ‘หลิงเหมี่ยวสามารถควบคุมไฟไว้ในกำมือได้ ไม่มีเหตุผลที่ฉันทำไม่ได้นี่นา?’
ความจริงพิสูจน์แล้วว่า เขาไม่ไหวจริงๆ
“คุณสั่งเดลิเวอรี่ไม่เป็นหรือไง?” หลิงเหมี่ยวรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองก็คือลูกโป่ง ขอเพียงซูอวี้หยางพูดมากขึ้นประโยคหนึ่ง เขาก็จะระเบิดดัง ‘ปัง’
“เฮ่อ ก็ฉันกินของที่เธอทำจนชิน กินของเดลิเวอรี่ไม่ลงแล้วไม่ใช่เหรอไง? ยิ่งกว่านั้น ฉันกินของเดลิเวอรี่มาสามปีแล้ว ขืนกินอีกก็อาเจียนแล้ว” ซูอวี้หยางเคี้ยวบะหมี่พลางพูดอย่างน้อยใจมาก
“รีบๆ กิน ผมยังต้องล้างชามอีก” หลิงเหมี่ยวค้อนซูอวี้หยางทีหนึ่งแล้วนั่งอ่านนิยายบนโซฟา
ซูอวี้หยางใช้ความเร็วที่ช้าที่สุดกินบะหมี่ หลิงเหมี่ยวดูชามของซูอวี้หยางเป็นครั้งคราว พบว่าน้ำซุปจะหมดแล้ว บะหมี่ยังเหลืออยู่ชามเบ้อเร่อ
เดาได้ว่าซูอวี้หยางจงใจถ่วงเวลาตัวเอง หลิงเหมี่ยวฮึเย็นเยียบทีหนึ่งแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก
หลิงเหมี่ยวกดเปิดนิยายของซูอวี้หยางด้วยความเคยชิน พบว่าวันนี้ไม่ได้อัพโหลด ขณะที่เขากำลังจะทวงถาม ถึงนึกขึ้นได้ว่าอัพโหลดของวันนี้ถูกตัวเองลบทิ้งไปแล้ว!
“ซูอวี้หยาง!” จู่ๆ หลิงเหมี่ยวก็เรียกขึ้นมา ซูอวี้หยางตกใจจนทำตะเกียบตกพื้น
ซูอวี้หยางเงยหน้ามองมาทางหลิงเหมี่ยว หลิงเหมี่ยวเดินไปเดินมาอย่างร้อนรน ในสายตาทั้งสำนึกผิดทั้งหงุดหงิด ซูอวี้หยางขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เขาลุกขึ้นโอบไหล่สองข้างของหลิงเหมี่ยวไว้แล้วถามว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”
เสียงอันสุขุมของซูอวี้หยางปลอบประโลมใจที่ลนลานของหลิงเหมี่ยว เพียงแค่มองดูดวงตาที่ห่วงใยของซูอวี้หยาง หลิงเหมี่ยวรู้สึกว่าตัวเองต่ำทรามมากทันที ตามมาด้วยความคิดพร้อมถูกซูอวี้หยางไล่ออก หลิงเหมี่ยวอ้ำอึ้งว่า “ผมลบอัพโหลดวันนี้ของคุณไปแล้ว”
“อ้อ ไม่เป็นไร” น้ำเสียงของซูอวี้หยางเผยให้เห็นสี่คำ… ฉันไม่สนใจ แต่ว่าหลิงเหมี่ยวฟังแล้วกลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ‘พระเจ้า นี่คือความสงบก่อนพายุฝนจะมาใช่ไหม!’
มองดูความเร็วในการกินบะหมี่ของซูอวี้หยาง หลิงเหมี่ยวหวังแค่ให้เขาช้าอีกนิด ช้าลงอีกนิด ทางที่ดีกินไม่มีวันหมดได้ยิ่งดี!
“ไม่กินแล้ว” ซูอวี้หยางดันชามไปไว้หน้าหลิงเหมี่ยว “ล้างชาม แล้วมาที่ห้องหนังสือ”
ซูอวี้หยางทิ้งประโยคนี้ไว้แล้วกลับเข้าห้องหนังสือไป หลิงเหมี่ยวแข็งทื่อไปทั้งตัว ประหนึ่งนอกจากลูกตาแล้วไม่ว่าส่วนไหนในร่างกายเขาก็ขยับไม่ได้ทั้งนั้น
“หลิงเหมี่ยว เข้ามา!” ซูอวี้หยางออกคำสั่ง หลิงเหมี่ยวเหมือนของเล่นที่ไขลานไว้ทันที เขากุลีกุจอวิ่งเข้าไป ขณะที่เปิดประตูก็ชะงักอีกแล้ว ‘นี่คือห้องหนังสือของซูอวี้หยาง ซูอวี้หยางชอบผู้ชาย เราก็เป็นผู้ชาย เขาคงไม่คิดจะ…’
ไม่รู้ซูอวี้หยางเปิดประตูตั้งแต่เมื่อไร เห็นหลิงเหมี่ยวทำท่าทางเหมือนจะถูกคนทำอะไรอย่างว่า เขาก็โมโหอย่างไร้สาเหตุ ซูอวี้หยางตบศีรษะหลิงเหมี่ยวอย่างแรงทีหนึ่ง ตะคอกว่า “คิดเหลวไหลอะไรอยู่ รีบเข้ามาแก้ต้นฉบับแล้วอัพโหลดซะ!”
เพราะว่าหลิงเหมี่ยวแก้ต้นฉบับออนไลน์ ดังนั้นต้นฉบับหลังจากแก้ไขจึงไม่มีเอกสารเก่าเก็บไว้
ห่างจากเวลาศูนย์นาฬิกาไม่เท่าไรแล้ว ปริมาณงานสองหมื่นตัวก็ไม่น้อย เห็นไฟล์ที่อยู่ตรงหน้า หลิงเหมี่ยวอยากตัดมือทิ้งตงิดๆ แต่ว่าเขาประสบการถูกลงโทษเพราะหุนหันพลันแล่นมาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นเขาแก้ต้นฉบับอย่างว่าง่ายดีกว่านะ
หลิงเหมี่ยวแก้รอบแรก ซูอวี้หยางแก้รอบที่สอง จากนั้นอัพโหลด ภายใต้การร่วมมือกันของทั้งสองคน ในที่สุดสองหมื่นตัวก็อัพโหลดเสร็จก่อนศูนย์นาฬิกา
ตอนสุดท้ายอัพโหลดเสร็จสิ้น ใจที่บิดไว้แน่นของซูอวี้หยางถึงคลี่ออกมาได้
“หลิงเหมี่ยว…” ซูอวี้หยางคิดจะให้หลิงเหมี่ยวกลับบ้าน กลับพบว่าหลิงเหมี่ยวนอนหลับอยู่บนเตียงแล้ว
คอมเมนต์