จองจำรัก หัวใจมาเฟีย ตอนที่ 3
จองจำครั้งที่ 3
จองจำครั้งที่ 3
คาลวินออกไปทำงานในช่วงเช้าของวัน จัดการตารางประชุมช่วงเช้าเรียบร้อย ก่อนจะให้เอริคเลื่อนนัดตอนเที่ยงออกไป
“บอสจะไปไหนครับ” เอริคถามเจ้านาย เพราะปรกติแล้วน้อยครั้งที่คาลวินจะเลื่อนตารางงาน
“ฉันต้องบอกนาย?”
บอสก็คือบอส ดวงตาดำสนิทเอียงคอถามทีเล่นทีจริง เอริคก้มหน้าก่อนจะถอยหลังออกจากห้องทำงานใหญ่
“ทางนั้นเป็นยังไง”
เมือประตูปิดลงเอริคต่อสายหาอีสตันผู้ที่โดนบอสทิ้งไว้ให้อยู่เฝ้าคฤหาสน์ อีสตันถอนหายใจก่อนจะตอบกลับมา
(เด็กนั่นขังตัวเองไว้ในห้องตั้งแต่เช้าแล้วเฮีย ใครเรียกก็ไม่ยอมเปิด)
มีแค่สองห้องในคฤหาสน์เท่านั้นที่ไม่มีกุญแจสำรอง ถ้าจะเข้าห้องต้องสแกนลายนิ้วมือบอส หรือกุญแจดอกเดียวที่บอสเก็บไว้
(ไม่มีเสียงตอบรับสักนิด)
“แค่นี้ก่อน” เอริคบอกก่อนจะวางสายผ่านหูฟังบลูทูธ บอสเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึมน่าเกรงขาม
“เตรียมรถ ฉันจะกลับบ้าน”
ยังไม่ทันได้ปริปากพูดอะไร บอสก็ออกคำสั่งทันที เอริคเลิ่กลั่กเดินตามหลังบอสอายุน้อย พร้อมทั้งวอสั่งการลงไปให้ลูกน้องด้านล่างเตรียมรถ
คนขับรถด้านล่างเตรียมรถแทบไม่ทันกับคำสั่งกะทันหัน รถยนต์ประจำตำแหน่งขับมาจอดรอแบบฉิวเฉียด เอริคถอนลมหายใจก่อนจะเดินไปเปิดประตูเบาะหลังให้คนเป็นเจ้านาย ตามด้วยการพาตัวเองขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับ ปรกติแล้วถ้าอยู่ฮ่องกงเอริคจะเป็นคนขับรถให้บอสเอง แต่ถ้ามาทำงานต่างประเทศเราจะจ้างคนขับรถพิเศษมาทำหน้าที่แทน
การจราจรติดขัดทำให้กว่าจะกลับถึงคฤหาสน์ก็กินเวลาไปเกือบสามสิบนาที เอริคลงมาเปิดประตูรถให้เจ้านาย แต่ต้องขมวดคิ้วกับเสียงที่ดังก้องในคฤหาสน์
“หนวกหูซะจริง!”
เสียงของคาลวินทำให้คนขับรถย่นคอด้วยความกลัว คาลวินอายุยังน้อยแต่มีแรงกดดันมากเหลือเกิน ขนาดเอริคอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กยังรู้สึกหวาดหวั่น
“เสียงดังอะไร อีสตัน” เอริคที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ก่อนเอ่ยถาม หน้าห้องตอนนี้มีแต่คนมุงเต็มไปหมด
“ป้าดาบอกว่าได้เสียงดังมาจากในห้อง เรียกหลายครั้งแล้วไม่ตอบกลับมาเลยเฮีย” จะพังเข้าไปก็ไม่ได้ ห้องนี้ระบบความปลอดภัยแน่นหนาเพราะมันเป็นห้องแฝดเชื่อมต่อกับห้องบอส
“ถอยออกไปให้หมด!”
เสียงขรึมออกคำสั่ง ลูกน้องในบ้านถอยร่นแหวกทางให้ คาลวินสแกนลายนิ้วมือก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องตัวเอง แล้วตรงไปเปิดประตูทางเชื่อมกับห้องของธารา
…
“เอริค! ตามหมอ!!” คาลวินเสียงกร้าวออกมาจากในห้อง ให้เอริครีบต่อสายโทรศัพท์เรียกหมอโดยด่วน แต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับให้ทันท่วงทีอย่างที่ใจต้องการ จึงตะเบ็งเสียงสั่งอีกครั้ง “เร็ว!!!”
“ครับ!” อีสตันตอบรับแทน “เร็วดิเฮีย”
“กูรีบอยู่!”
เอริคกับอีสตันเถียงกันหงุมหงิม ก่อนที่หมอจะรับสาย เอริครีบสั่งคนรถให้ไปรับหมอมาที่คฤหาสน์ คาลวินเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าวิตกแบบที่ลูกน้องไม่เคยเห็น ก่อนจะเรียกป้าดาเข้าไปในห้อง
ตอนที่คาลวินเปิดประตูเข้ามา ธาราตัวขาวซีดนอนสลบอยู่บนพื้นห้อง ที่หัวมีเลือดไหลออกมา คาลวินตื่นตระหนกเล็กน้อยตะโกนให้เอริครีบตามหมอ เขาอุ้มร่างบางมาวางบนเตียง ก่อนจะออกไปตามป้าดาแม่บ้านให้เข้ามาช่วยทำความสะอาดและเช็ดตัวให้ธารา
“ตายแล้ว”
ป้าดาอุทานออกมาตอนเห็นกองเลือดและสภาพของธารา เสื้อเชิ้ตสีขาวกับผ้าปูสีครีมที่พึ่งถูกเปลี่ยนเมื่อคืนมีแต่รอยเลือดสีแดงสด ตัวธาราร้อนดั่งไฟ
ไม่นานหมอที่สั่งให้คนรถไปรับก็มาถึง หมอเข้ามาพร้อมกับเอริคและอีสตัน แต่ลูกน้องคนสนิทกับโดนคาลวินไล่ออกจากห้องผ่านสายตา
หมอตรวจอาการธาราและทำแผลที่ศีรษะให้ แผลไม่ได้ใหญ่มาก แต่ปล่อยไว้นานทำให้เลือดไหลออกมาเยอะ แผลตามตัวก็ถูกรักษาด้วยเช่นกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งช่องทางด้านหลังที่บวมช้ำ
“ผมจัดยาให้แล้วนะครับ แผลที่ศีรษะไม่น่าเป็นห่วง ส่วน… แผลที่อื่นต้องงดพักก่อนนะครับ”
คาลวินพยักหน้าเข้าใจ ส่วนคนฟังอีกคนรีบก้มหน้า ถึงป้าดาจะแก่แล้วแต่ก็ยังเขินอายกับเรื่องพวกนี้
อีสตันเป็นคนไปส่งหมอกลับ พร้อมกับกำชับปิดปากให้เงียบ หมอเองก็เคยรักษาครอบครัวนี้มาหลายปี รู้ดีต้องทำตัวอย่างไร
ไม่พูด ไม่รู้ ไม่เห็น
คาลวินสั่งให้ป้าดาทำความสะอาดห้องใหม่อีกครั้ง ส่วนธาราถูกอุ้มให้ไปนอนที่ห้องเขา เสื้อผ้าของธาราถูกเปลี่ยนด้วยฝีมือคาลวิน เก้ ๆ กัง ๆ เพราะไม่เคยทำให้ใคร มีแต่ลูกน้องคอยจัดหาให้ทั้งนั้น
ทำไมต้องเป็นห่วง
คาลวินปัดความรู้สึกนั้นออกไป นกน้อยเป็นแค่สัตว์เลี้ยงยามว่าง เขาเพิ่งจะจับมาขังไว้ในกรง ยังไม่ได้เล่นสนุกนักเลย จะปล่อยให้ตายเร็วแบบนี้ไม่ได้
ร่างสูงนั่งลงบนโต๊ะทำงานของตัวเอง หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาอ่านงานเอกสาร เขาต้องอยู่ที่นี่อีกประมาณสามเดือน เพราะโพรเจกต์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ถ้าเด็กคนนี้ทนอยู่ได้ถึงสามเดือน เขาจะปล่อยตัวไป
…
ธาราขยับตัวเล็กน้อย ความหนักอึ้งที่ศีรษะและความเจ็บปวดตามร่างกาย ทำให้ริมฝีปากบางเผลอร้องออกมาเพราะถูกความเจ็บปวดเล่นงาน
“อ้ะ โอ๊ย!”
“ตื่นแล้วเหรอ”
คาลวินละสายตาจากงานตรงหน้าหันไปมองเด็กหนุ่มที่กำลังนอนพักร่างกายอยู่บนเตียง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่ไร้เสียงใด ๆ ตอบกลับ
“ฉันถาม ไม่ได้ยิน?”
“…” ธาราหลบหน้าหนีโดยไม่ปริปากพูดคำใด
“อวดดี”
มือใหญ่บีบเข้าที่แก้มของธารา ออกแรงบีบให้ธาราหันมาเผชิญหน้า ดวงตาสีน้ำตาลสวยแข็งกร้าวไร้ไยดี คาลวินปล่อยมือออกจากแก้มของธารา ผละออกอย่างแรงจนร่างบางหน้าสะบัด
ปัง!!!
เสียงปิดประตูดังสนั่นทำเอาธาราสะดุ้งโหยง คล้อยหลังคาลวินออกจากห้อง ดวงตาสีน้ำตาลก็ปล่อยให้น้ำตาสีใสไหลรินอาบแก้ม เจ็บปวดไปทุกส่วนของร่างกาย ไม่เว้นแม้กระทั่งหัวใจ
ธาราถูกพาตัวกลับมาไว้ที่ห้องเดิม ขาเรียวขาวถูกโซ่ตรวนยาวคล้องไว้ไม่ให้ไปไหน คาลวินสั่งให้ป้าดาเป็นคนดูแลและบังคับให้ธารากินข้าวและกินยา ถ้าธาราไม่กินป้าดาจะต้องเดือดร้อน
“เชื่อป้าเถอะค่ะ กินข้าวเถอะนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
เอ่ยขอบคุณเสียงแผ่วเบาก่อนจะอ้าปากินอาหารที่ป้าดาเป็นคนป้อน พอมองดูป้าดาแล้ว ทำให้ธารานึกถึงแม่ตัวเองขึ้นมา
เอ็นดูและยิ้มอย่างใจดี
อีกด้านหนึ่ง คาลวินที่กำลังนั่งอ่านเอกสารที่ให้เอริคไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับเด็กหนุ่ม หนี้สินของภูผาเพิ่มขึ้นได้ยังไง ในเมื่อเจ้าตัวยังอยู่ที่นี่ คาลวินไล่เปิดอ่านเอกสารทุกหน้าก่อนจะได้คำตอบ
…
ฝาแฝด…
ดูเหมือนว่าลูกน้องของเขาจะจับลูกหนี้มาผิดตัว
“ภูผาอยู่ที่ไหน”
“ห้องใต้ดินของบ่อนครับ” เอริคตอบเจ้านาย
“ไปที่นั่น”
คาลวินลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนจะหยิบเสื้อสูทมาสวมใส่ เขาจะไปที่นั่น ไปทวงหนี้ที่บ่อนด้วยตัวเอง ถ้ามันไม่มีปัญญาจ่าย คนที่นอนอยู่ที่นี่ก็ต้องเป็นคนชดใช้แทน
คอมเมนต์