ฉันเกลียดนาย ฉันรักนาย ตอนที่ 10

Reader Settings

Size :
A-16A+

รักนายครั้งที่ 10

หยางไป่ชวนมือกุมหน้าแล้วเงยขึ้น งุนงงนิดหน่อย
“หน้านายไม่เป็นไรนะ” โหยวเปิ่นเฉาไม่สนใจเจี่ยงเมิ่งอวิ๋น เบี่ยงตัวข้ามเธอมาถามหยางไป่ชวน
ที่จริงใบหน้าของหยางไป่ชวนรู้สึกร้อนนิดหน่อย แต่เขาจะเสียศักดิ์ศรีไม่ได้ เขาจึงลดมือลงทันทีและพูดว่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้ว”
เจี่ยงเมิ่งอวิ๋นหันกลับมาเมื่อได้ยิน “ถ้างั้นไป่ชวนมาลองซ้อมสักท่อนดีไหม พวกเราอยากได้คนลองแสดงดูว่าเป็นยังไง”
“เจี่ยงเมิ่งอวิ๋น”
ก่อนที่หยางไป่ชวนจะทันได้พยักหน้า โหยวเปิ่นเฉาพูดขึ้นก่อน น้ำเสียงไม่พอใจนัก “ผมเธอฟาดโดนหน้าเขา เธอจะไม่ขอโทษหน่อยเหรอ”
สีหน้าของเจี่ยงเมิ่งอวิ๋นนิ่งอึ้ง หยางไป่ชวนอยากจะพูดช่วยเธอ แต่ไม่รู้ว่าทำไมสุดท้ายก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และไม่พูดอะไร
โชคดีที่เจี่ยงเมิ่งอวิ๋นอึกอักอยู่เพียงครู่เดียว เธอตอบรับทันที โดยกะพริบตาปริบๆ ใส่หยางไป่ชวนพลางพูดว่า “ขอโทษนะไป่ชวน เมื่อกี้ไม่ทันระวัง แต่ฉันรู้ว่านายคงไม่ถือหรอก ใช่ไหม”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ฉันไม่ถือหรอก ต้องซ้อมบทย่อหน้าไหนเหรอ” หยางไป่ชวนพยักหน้า เขาเหลือบมองโหยวเปิ่นเฉาด้วยหางตา โหยวเปิ่นเฉามองมาด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งจริงด้วย หยางไป่ชวนตกใจก่อนจะรีบหันหน้าตรงทันที
ในที่สุดเขาก็กลับมาเป็นปกติ เขาไม่ต้องการให้โหยวเปิ่นเฉาออกหน้าช่วยอีกแล้ว ใครก็ได้ที่ไม่ใช่โหยวเปิ่นเฉา การต่อสู้เพื่อนรักจอมปลอมนี้ดำเนินมานานมากแล้ว ตั้งแต่เรื่องแบรนด์เสื้อผ้าไปจนถึงเรื่องแฟน มีเพียงเรื่องเจี่ยงเมิ่งอวิ๋นเท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกถึง “ความพ่ายแพ้” อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อาจเป็นเพราะเรื่องความรู้สึกนั้นลึกลับซับซ้อน และไม่มีทางจบแบบเสมอกันทั้งสองฝ่ายได้
แต่เขาไม่อยากแพ้ เขารู้สึกว่าหลังจากพ่ายแพ้ในครั้งนี้ การต่อสู้สิบปีของพวกเขาอาจจบลงไปด้วย เขาไม่ต้องการให้การต่อสู้นานกว่าทศวรรษนี้ต้องจบลงแบบไม่มีผลลัพธ์ ดังนั้นเขาจึงอาศัยจังหวะตอนที่เจี่ยงเมิ่งอวิ๋นยังไม่ตอบ ชิงพูดก่อนว่า “ถ้าไงเรามาต่อบทกันก่อนดีไหม”
คนรอบข้างได้ยินก็เริ่มส่งเสียงโห่ร้องทันที หัวเราะเชียร์ให้เจี่ยงเมิ่งอวิ๋นตอบรับเขา ไม่รู้ว่าเจียงซานหายไปไหนในตอนนี้ ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องก่อกวนอย่างแน่นอน ตอนนี้ปลอดเจียงซาน มีเพียงหลิวอวิ่นที่ดูไม่ค่อยมีความสุขตรงนั้น แต่เธอไม่สำคัญอะไร คนส่วนใหญ่ต่างก็แซวทั้งสองคนอย่างเฮฮา
ถูกที่ถูกเวลา
ในที่สุดรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยางไป่ชวน
“ฉันเขียนบทเองเลยคุ้นกับบทนี้อยู่แล้ว เราสองคนซ้อมก่อนแล้วกัน”
เมื่อเห็นรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าหยางไป่ชวน โหยวเปิ่นเฉาก็ลุกขึ้นยืน สีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่น้ำเสียงของเขาก็ยังสงบ
การออกตัวอย่างคาดไม่คาดฝันของโหยวเปิ่นเฉา ทำให้ทุกคนที่อยู่โดยรอบตะลึง ต่างไม่เข้าใจว่าบรรยากาศที่กำลังดูเข้าด้ายเข้าเข็มนั้น จู่ๆ ก็มีผู้ชายอีกคนเข้ามาแทรกได้อย่างไร แต่พวกเขาก็สนใจสามคนนี้อย่างเงียบๆ
แม่เลี้ยง เจ้าชาย ซินเดอเรลลา
เห็นได้ชัดว่าภาพยนตร์ที่มีคนสามคนต้องมีหนึ่งคนที่ไม่มีชื่อแซ่ หรือไม่ก็เป็นตัวร้าย ดังนั้นพวกเขาจึงคาดเดาอย่างตื่นเต้นว่านี่อาจเป็นเรื่องราวที่ชายสองคนต่อสู้เพื่อแย่งหญิงคนเดียวกัน สีหน้าของโหยวเปิ่นเฉาดูแย่ อาจเป็นเพราะเขาเห็นว่าคู่แข่งของเขากำลังจะถูกจับคู่กับเจี่ยงเมิ่งอวิ๋น
ทุกคนนึกว่าสิ่งที่ตัวเองเดาคือคำตอบสุดท้าย แม้แต่หยางไป่ชวนก็รู้สึกเช่นนั้นในตอนนี้ แต่มีเพียงเจี่ยงเมิ่งอวิ๋นเท่านั้นที่รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอสักนิด เธอมองโหยวเปิ่นเฉากระโดดออกมาอย่างสงบ ในใจรู้สึกโล่งอก
ความรักศักดิ์ศรีของเธอทำให้อยากจะพูดอะไรสักอย่างเพื่อทำลายจินตนาการของคนอื่น แต่เมื่อเห็นผู้หญิงคนอื่นๆ ดูท่าทางอิจฉาตาร้อน สุดท้ายเธอจึงเม้มปากแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นพวกนายสองคนมาซ้อมฉากสุดท้ายคู่กันดู”
หยางไป่ชวนเห็นว่าหนีไม่พ้น จึงลุกขึ้นยืนแล้วลากโหยวเปิ่นเฉามาด้านข้าง เขายิ้มให้กับเจี่ยงเมิ่งอวิ๋นและคนอื่นๆ ก่อนพูดว่า “ทุกคนรอก่อน ฉันมีอะไรจะพูด”
จากนั้นรีบหันหน้ามา พูดเสียงเบา “นี่มันเรื่องอะไรกัน”
พอพูดจบเขาก็จ้องโหยวเปิ่นเฉา อยากดูว่าเขาจะพูดอะไร ใครจะรู้ว่าโหยวเปิ่นเฉาสงบนิ่งสุดๆ และไม่มีท่าทางสำนึกผิดสักนิด เขาพูดอย่างเป็นธรรมชาติว่า “ฉากของเราสองคนเป็นฉากไฮไลท์ของเรื่อง ไม่ดีเหรอที่จะทำความคุ้นเคยกับบทเสียหน่อย”
หยางไป่ชวนจ้องเขม็งไปที่โหยวเปิ่นเฉา สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย หยางไป่ชวนอยากจะอ่านใจเขาให้ออก แต่คนตรงหน้าเป็นเหมือนทะเลสาบที่ไร้ก้น ผ่านไปหนึ่งนาทีเขาจึงเป็นฝ่ายยอมแพ้ และหันกลับมาพูดด้วยความหงุดหงิด “ได้ ฉันซ้อมคู่โหยวเปิ่นเฉาก่อนก็ได้”
โหยวเปิ่นเฉาหันกลับมามองหน้าทุกคนแล้วพูดว่า “ซ้อมของพวกเราก่อน”
“องค์ชาย พระองค์เสด็จมาบ้านของหม่อมฉัน มีเรื่องอะไรหรือเพคะ” หยางไป่ชวนอ่านตามบท
“แม่นางคนงาม…” โหยวเปิ่นเฉาหยุด ดูเหมือนจะขัดเขินเล็กน้อย ก่อนพูดต่อว่า “คุณผู้หญิง ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องที่จะให้เจ้าช่วย งานเต้นรำที่จัดขึ้นเมื่อคืนก่อน ข้าได้พบกับสาวสวยที่เป็นคู่เต้นของข้า นางสวยจนข้าอดไม่ได้ที่จะตกหลุมรักนาง ข้ารักนาง เป็นความรักที่หนักแน่นมั่นคงดั่งหินผา”
หลังจากโหยวเปิ่นเฉาจบประโยคอันแปลกประหลาด คนรอบข้างก็หัวเราะคิกคัก หยางไป่ชวนรู้สึกอึดอัดอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าความอับอายเรื่องเสื้อผ้าผู้หญิงที่เขาลืมไปแล้วจะย้อนกลับมาอย่างกะทันหัน เขากัดฟันอ่านบทต่อไปว่า “ถ้างั้นหม่อมฉันขออวยพรให้พระองค์ รักแท้นั้นหายาก”
“แต่ข้าหาตัวนางไม่พบ นางรีบร้อนจากไป เหลือเพียงรองเท้าแก้วที่งดงามข้างหนึ่ง ไม่ง่ายเลยที่จะตามหานางด้วยรองเท้าแก้วนี้ แต่ข้ายินดีที่จะลองเพื่อนาง ข้าอยากจะบอกนางด้วยตัวเองว่าข้ารักนาง ข้าอยากสบตาคู่งามนั้นแล้วบอกนาง…” โหยวเปิ่นเฉาพูดไปได้ครึ่งทาง ก่อนเขาจะพูดประโยคถัดไปก็ถูกขัดจังหวะโดยเจี่ยงเมิ่งอวิ๋น “หยุดก่อนๆ หยางไป่ชวนสีหน้าของนายมันไม่ค่อยถูกนะ”

คอมเมนต์

Chapter List