ฉันเกลียดนาย ฉันรักนาย ตอนที่ 6

Reader Settings

Size :
A-16A+

รักนายครั้งที่ 6

โชคดีที่ตอนนี้ทุกคนกินข้าวกันเสร็จแล้ว จึงมีคนจำนวนมากเดินมา เจี่ยงเมิ่งอวิ๋นจึงไม่ได้สนใจสีหน้าของหยางไป่ชวน เธอโบกมือทักทายผู้มาใหม่
สักพักใหญ่ทุกคนถึงได้เงียบ และยืนล้อมวงเข้ามา เจี่ยงเมิ่งอวิ๋นกระแอม ผมหางม้าสูงสะบัดอย่างสดใสและพูดว่า “ฉันเลือกบทละครแล้ว เรื่องซินเดอเรลลา ทุกคนมีความเห็นว่าไงบ้าง”
หยางไป่ชวนเพิ่งจะทำสิ่งผิดพลาด ในตอนนี้จึงจำเป็นต้องแสดงความภักดี เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็เริ่มพยักหน้าโดยไม่คิดแล้วพูดว่า “ฉันไม่มีปัญหา”
เจี่ยงเมิ่งอวิ๋นพยักหน้า ทันทีที่เธอกำลังจะพูดต่อก็ถูกผู้หญิงคนอื่นขัดจังหวะ “เดี๋ยวก่อนเจี่ยงเมิ่งอวิ๋น เธอไม่เคยปรึกษาพวกเรามาก่อนเลยนะ”
หยางไป่ชวนได้ยินจึงหันไปมองหญิงสาวที่พูด หน้าตาเธอไม่ได้โดดเด่นนัก แต่ผิวขาวมาก บวกกับรูปร่างที่สูง จึงทำให้ดูน่ากลัวอยู่บ้าง หยางไป่ชวนพอจำเธอได้ เธอชื่อหลิวอวิ่นเรียนอยู่ห้อง 6 เพิ่งเปิดเทอมได้ไม่นาน ไม่รู้ว่าเธอไปได้ QQ ของเขามาจากไหน หลังจากเพิ่มเพื่อนกันแล้ว ก็คุยกันแค่สองสามครั้ง เขาไม่ค่อยสนใจและตอบเธอไปแบบไม่ใส่ใจนัก สุดท้ายก็ไม่ได้คุยกันต่อ
เขาขมวดคิ้วและกำลังจะอ้าปากพูดช่วยเจี่ยงเมิ่งอวิ๋น แต่โหยวเปิ่นเฉาซึ่งเงียบมาตลอดกลับพูดตัดหน้าเขาว่า “เธอคุยกับฉันแล้ว ฉันคิดว่าดีก็เลยเห็นด้วย”
หยางไป่ชวนพลาดโอกาสที่จะทำให้เทพธิดาพอใจ โหยวเปิ่นเฉายังพูดไม่ทันจบเขาก็พูดว่า “แล้วเธอมีความเห็นอย่างอื่นไหม”
ก่อนที่โหยวเปิ่นเฉาจะเปิดปากพูด หลิวอวิ่นยังไม่ยอมอยู่ แต่ได้ยินหยางไป่ชวนก็พูดสำทับขึ้นอีก เธอจึงไม่พูดอะไรต่อ เหลือบมองหยางไป่ชวนแล้วมองไปที่พื้น พูดเสียงเบา “ฉันไม่มีปัญหา”
สิ่งที่ทำให้เธอผิดหวังคือ หยางไป่ชวนไม่ได้สนใจเธอ อย่างมากที่สุดก็คือเขาแอบบ่นในใจว่าผู้หญิงคนนี้นี่ช่างอ่อนไหวจริงๆ จากนั้นหันกลับมาแล้วเริ่มคุยกับเจี่ยงเมิ่งอวิ๋น “เมิ่งอวิ๋น ตอนนี้โอเคแล้ว”
เจี่ยงเมิ่งอวิ๋นจ้องไปที่หญิงสาวด้วยท่าทางเหนือกว่า เธอสะบัดหางม้าราวกับไก่โต้งที่เพิ่งจะชนะการชนไก่มา พยักหน้าแล้วพูดว่า “งั้นเรามาเลือกตัวละครกัน”
หยางไป่ชวนยิ้มร่าแล้วพูด “ฉันเป็นเจ้าชายนะ ฉันอยากเป็นเจ้าชาย”
เขาเป็นคนที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในห้อง 5 แม้ว่าการเสนอตัวเองนั้นอาจจะดูหน้าด้านหน้าทนไปเสียหน่อย แต่โชคดีที่ทุกคนกำลังอารมณ์ดี เพื่อนในห้องจึงเห็นด้วย แต่เมื่อเขาหันหน้ากลับไปก็เห็นว่าใบหน้าของเจี่ยงเมิ่งอวิ๋นดูไม่ดีนัก
เขาเหลือบไปมองด้านข้างอีกครั้ง ทันใดนั้นก็เห็นคนที่เงียบมาตลอด สีหน้าของเขาคนนั้นดูไม่แยแส ไม่แม้แต่จะมองพวกเขาด้วยซ้ำ ราวกับว่าการสนทนานี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา
ถ้าไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยจริงๆ ก็คงดี หยางไป่ชวนคิด เห็นได้ชัดว่าความกังวลของเขาในเวลานี้นั้นไม่จำเป็นเลย
“โหยวเปิ่นเฉา นายอยากเล่นเป็นอะไร”
หลังจากถูกเรียกชื่อ โหยวเปิ่นเฉาถึงได้มีปฏิกิริยา เขาหันหน้ามายิ้มเล็กน้อยและตอบว่า “ฉันยังไงก็ได้”
น่าเบื่อ
หยางไป่ชวนเบะปาก ในใจรู้สึกว่าโหยวเปิ่นเฉาแกล้งทำ ถ้าไม่สนใจอะไรจริงๆ แล้วทำไมถึงเข้ามายุ่งเรื่องนี้ด้วย
น่าเบื่อสุดๆ
“ในเมื่อทุกคนไม่มีอะไรเสนอแนะเป็นพิเศษ งั้นพวกเรามาจับฉลากเลือกตัวละครกันเถอะ”
สุดท้ายก็ตัดสินใจใช้การจับสลากเพื่อเลือกตัวละคร อันที่จริงหยางไป่ชวนรู้อยู่แก่ใจว่าเจี่ยงเมิ่งอวิ๋นทำแบบนี้เพื่อใคร แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่เข้าใจคือการจับสลากสามารถตัดสินทุกอย่างได้จริงเหรอ ทำไมผู้หญิงถึงยอมมอบทุกอย่างไว้กับโชคชะตาแต่กลับไม่ยอมเชื่อในตัวเอง
ข้อสรุปนี้ทำให้เขารู้สึกหดหู่ใจ โหยวเปิ่นเฉาซึ่งบังเอิญยืนอยู่ข้างเขาสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหยางไป่ชวน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ยื่นฉลากที่เพิ่งได้รับไปข้างหน้าหยางไป่ชวน
“พวกเรามาเปลี่ยนกัน”
หยางไป่ชวนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “อะไรนะ”
“นายไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องโชคร้ายหรอกเหรอ”
“…แล้วยังไงล่ะ!”
หยางไป่ชวนจ้องไปที่โหยวเปิ่นเฉา จ้องไปจ้องมาก็เริ่มรู้สึกผิด พวกเขาเล่นเกมด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อมีการจับฉลากวางเดิมพันกัน เขาจะแพ้และได้สิ่งที่แย่ที่สุดเสมอ กลุ่มเด็กที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็กมักจะชวนเขาเดิมพันและรังแกเขาทุกครั้ง ตรงกันข้ามกับโหยวเปิ่นเฉาซึ่งเป็นผู้ชนะเสมอ
“ฉลากที่อยู่ตรงหน้านายอาจเป็นเจ้าชายก็ได้นะ ไม่เอาจริงเหรอ” โหยวเปิ่นเฉาที่ดูไม่ได้รำคาญอะไรพูดต่อ
“…ฉันเอา”
หยางไป่ชวนพูดจบก็โยนฉลากที่เขากำแน่นในมือไปให้โหยวเปิ่นเฉาและคว้าฉลากในมือของอีกฝ่ายมา
ตอนนี้ผู้คนรอบๆ ส่วนใหญ่รู้บทบาทของตนแล้ว เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนยังคงวุ่นวายกันอยู่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง
หยางไป่ชวนเริ่มรู้สึกประหม่า ความประหม่านี้เกิดขึ้นเร็วมากจนไม่กล้าเปิดฉลากดู เขาลองถามคนอื่นๆ พบว่าไม่มีใครได้รับฉลากที่เป็นเจ้าชาย เขาจึงเปิดฉลากออกดูอย่างมีความสุข
“แม่เลี้ยง”
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้ยินเสียงเจี่ยงเมิ่งอวิ๋นพูดอยู่ไม่ไกลนัก “เปิ่นเฉา นายได้เป็นเจ้าชาย ดีจังเลย ฉันได้เป็นซินเดอเรลล่า!”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความช็อกหรืออย่างไร แต่หยางไป่ชวนรู้สึกว่าหัวใจของเขาตอนนี้กลับไม่มีความวุ่นวาย ที่จริงเขาอยากจะหัวเราะออกมาด้วยซ้ำ คำถามของเขาก่อนการจับฉลากมองกลับไปตอนนี้ช่างน่าหัวเราะเยาะ นี่เป็นเหตุผลที่เจี่ยงเมิ่งอวิ๋นยอมปล่อยให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของโชคชะตามากกว่าที่จะตัดสินใจด้วยตัวเอง
แท้จริงแล้วเขาคือเขาเป็นเทพเจ้าแห่งความโชคร้าย แน่นอนที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลย
“ไป่ชวน!”
หยางไป่ชวนเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าโหยวเปิ่นเฉาที่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงหน้าเขาตั้งแต่ตอนไหน “นายอยากเปลี่ยนกลับมั้ย”
“ไม่ต้องหรอก” หยางไป่ชวน สูดหายใจเข้าลึกๆ “แม่เลี้ยงก็ดีเหมือนกัน ยังไงก็ได้เป็นคนที่สร้างปัญหาระหว่างเจ้าชายกับซินเดอเรลล่า ไม่เลว ไม่เลว แค่ไม่รู้ว่าฉันจะใส่อะไรดี คงไม่ต้องใส่เสื้อผ้าผู้หญิงหรอกมั้ง ฮ่าๆ”
“นาย…” โหยวเปิ่นเฉาดูกังวลนิดหน่อย แต่เขาไม่ใช่คนที่รับมือกับสถานการณ์นี้ได้ดี เขาไม่ใช่คนที่แสดงความรู้สึกได้เก่งนัก
เวลาพอดีกับที่เจี่ยงเมิ่งอวิ๋นเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “ถึงเวลาพวกเราจะไปเช่าเสื้อผ้ากัน แล้วก็จะช่วยนายแต่งหน้าด้วย ไม่น่าเกลียดแน่นอน วางใจได้เลย!”
หยางไป่ชวนซึ่งกำลังรอโหยวเปิ่นเฉาพูดต่อ ก็รีบตอบคำพูดของเทพธิดาทันที “แต่ฉันแมนขนาดนี้ มันต้องดูแปลกมากแน่เลย”
“นั่นเป็นเพราะนายไม่รู้จักเวทมนตร์ทั้งสี่แห่งเอเชีย ความน่ากลัวของการแต่งหน้าไง”
โหยวเปิ่นเฉามองคนสองคนที่คุยกันต่อหน้าเขา รู้สึกหงุดหงิด เขากำฉลากที่มีคำว่าเจ้าชายในมือของเขา แรงบีบที่มากเกินไปทำให้มันทิ่มทั้งมือและหัวใจของเขาจนเจ็บปวด
เขารู้สึกว่าหยางไป่ชวนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ดูแปลกไป เหมือนน้ำอัดลมที่ถูกวางทิ้งไว้นาน หลังจากฟองแก๊สซ่าหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงความหวานดั้งเดิมเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในขวดอย่างเหนียวแน่น
“หยางไป่ชวน ฉันจะถามอีกครั้ง จะเปลี่ยนไม่เปลี่ยน”
หยางไป่ชวนหยุดบทสนทนากับเจี่ยงเมิ่งอวิ๋นชั่วคราวแล้วยิ้มให้เขา “ไม่เปลี่ยน ไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิงไซส์ขนาดนายหรอก”
ในที่สุดฟองอากาศลูกสุดท้ายน้ำอัดลมแก้วนี้ก็ลอยออกไป
______________
*”เวทมนตร์ทั้งสี่แห่งเอเชีย” หมายถึงการผ่าตัดเปลี่ยนเพศในประเทศไทย ศัลยกรรมความงามในเกาหลี ศัลยกรรมแต่งหน้าในญี่ปุ่น และการผ่าตัด PS ในประเทศจีน เวทมนตร์ทั้งสี่แห่งเอเชียได้รับความนิยมในแพล็ตฟอร์มออนไลน์ของจีนในเดือนพฤษภาคม 2015

คอมเมนต์

Chapter List