บันทึกแปดวาทยะ ตอนที่ 12

Reader Settings

Size :
A-16A+

บทที่ 12 สระน้ำซั่งชิง

หยวนหลิงคลำตอเคราบนคางของตน “ภาพลักษณ์ของข้าถูกการคุมขังสองวันนี้ทำลายย่อยยับสิ้นแล้ว” จากนั้นเขาก็ดมๆ ใต้รักแร้ตน “เหม็นแทบตายจริงๆ”
หยวนหลิงพาเว่ยฉีอวี้ลงจากหมู่ตึกโยวกุยอย่างรวดเร็ว วิชาตัวเบาของเว่ยฉีอวี้ยังไม่เสถียรจึงเอียงซ้ายเอียงขวา ตกหลุมตกบ่อจนต้องตะเกียกตะกายขึ้นเป็นระยะๆ
“เว่ยเยวียน วิชาตัวเบาเจ้าทำไมถึงเอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้ ถ้าเป็นคนเพิ่งหัด ตามเหตุผลก็น่าจะยากตอนเริ่ม แต่ฝีเท้าเจ้าแผ่วเบาเหมือนคนที่ฝึกมานานแล้ว กลับใช้ได้เพียงครู่เดียวก็ควบคุมลมหายใจให้สม่ำเสมอไม่ได้”
เว่ยฉีอวี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด กระทั่งตนเองฝึกวิชาตัวเบาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ คล้ายจะครูพักลักจำเอามาตอนเห็นอาจารย์ลอยตัวบนผิวน้ำ
หยวนหลิงพาเขาไปหยิบห่อสัมภาระแล้วมุ่งหน้าไปยังสระน้ำแห่งหนึ่งในซั่งชิง เขาชี้ไปที่สระแล้วเอ่ยว่า “เว่ยเยวียน นี่คือโรงอาบน้ำกลางแจ้ง ทุกคนต่างก็อาบน้ำที่นี่”
ว่าแล้วก็เลี้ยวเข้าสู่ป่าหินหลังสระน้ำ เลี้ยวไปมาอยู่หลายหนก็ได้ยินเสียงน้ำซู่ซ่า ที่นั่นถึงกับมีน้ำตกขนาดเล็กอยู่ด้วย
หยวนหลิงกระโดดสลับเดินไปตามก้อนหินใต้น้ำตก เบื้องหลังม่านน้ำตกคือสระน้ำใสแจ๋วสระหนึ่ง “ข้าจะบอกให้นะ มีอยู่ครั้งหนึ่งข้าลอบตามจูเยี่ยมา ถึงได้ค้นพบสระอาบน้ำนี้เข้า เจ้านั่นถึงกับมาใช้สถานที่ยอดเยี่ยมแบบนี้อย่างเบิกบานอยู่คนเดียว”
หยวนหลิงถอดเสื้อผ้าของตนออกอย่างลวกๆ เผยให้เห็นรอยแผลตื้นจางบนร่าง แค่สามวันบาดแผลก็ฟื้นตัวพอสมควรแล้ว เขาพุ่งตัวลงสระ ว่ายน้ำไปทางซ้ายทีขวาที ไม่พบจูเยี่ยซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินใหญ่ก้อนไหนแต่อย่างใด
“เจ้าจูเยี่ยนั่น อยู่ในห้องขังตั้งสองสามวัน แต่ถึงกับไม่มาอาบน้ำ แปลกชะมัด เว่ยเยวียน เจ้าลงมาเร็วเข้า”
เว่ยฉีอวี้ได้ยินดังนั้นก็ไม่เกรงใจ เขารีบถอดชุดออก มองหาก้อนหินสะอาดเพื่อวางเสื้อผ้า แล้วสายตาก็พลันเหลือบไปเห็นว่าในซอกหินมีเชือกถักชิ้นหนึ่งตกอยู่จึงหยิบขึ้นมา
หยวนหลิงหยิบเชือกถักสีครามนั่นไปดู “เชือกถักนี่ถักลายดอกตามวิธีท้องถิ่นของสู่จง[1] ที่แท้จูเยี่ยมาถึงก่อนนานแล้ว”
เว่ยฉีอวี้แช่อยู่ในสระอย่างสบายอารมณ์ น้ำในสระนี้ไม่รู้ไหลมาจากใต้ดินหรืออย่างไร ถึงได้อุ่นเล็กน้อยแม้จะอยู่กลางหินผาเย็นเฉียบและอยู่ใต้น้ำตก เหมาะแก่การแช่พอดิบพอดี
หยวนหลิงดำลงในน้ำ ใช้ฝักสบู่ถูเนื้อตัวอย่างพิถีพิถันจนเกิดเป็นฟองผุดพรายก่อนจะโผล่ขึ้นมาเอ่ยว่า “เว่ยเยวียน เจ้ารู้จักหนันสือจิ่นใช่ไหม”
“หนันสือจิ่นคือใครหรือ ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน”
“ก็ศิษย์คนที่สี่ของหวั่งเซิงเหมินฝ่ายใต้ ผู้ที่ชาวยุทธ์เรียกว่าหนันซื่อนั่นอย่างไรเล่า” เว่ยฉีอวี้ฟังแล้วก็กระจ่างแจ้ง ที่แท้ก็เจ้าเด็กซื่อบื้อนั่น เช่นนี้ก็แปลว่าหนันซื่อ แซ่หนัน ชื่อหยาง ชื่อรองสือจิ่น ฉายาหนันซื่อสินะ
เว่ยฉีอวี้ยังไม่ทันตอบ หยวนหลิงก็กล่าวขึ้นอีกว่า “ข้าเห็นสองสามวันนี้เขาพูดคุยกับเจ้า ดูเหมือนสนิทสนมกันดี”
เว่ยฉีอวี้รู้ว่าปิดไม่อยู่จึงตอบตามตรง “ไม่เพียงแค่รู้จัก ข้าถูกเขานี่แหละที่เป็นคนจับตัวข้ามายังหมู่ตึกโยวกุยของหวั่งเซิงเหมิน”
“อ้อ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”
“แล้วเจ้าล่ะ เหมือนจะรู้จักพวกเขาทุกคนดี”
หยวนหลิงพยักหน้าเอ่ยว่า “อยู่ในยุทธภพ จะไม่รู้จักพวกเขาได้อย่างไร ในยุทธภพผู้ใดเล่าไม่รู้จักพวกเขา ทุกคนย่อมต้องรู้จักดี เพราะหนันสือจิ่นผู้นี้ชื่อเสียงเหม็นโฉ่ไปทั่ว
เขาเคยนำกองพลเชียนหนิวของราชสำนักไปกวาดล้างหมู่ตึกเฉิงเต๋อแห่งเขาหนันเยวี่ยกับลัทธิจิ่งซิ่วแห่งเทือกเขากุยโยวจนราบคาบ กระทั่งงานชุมนุมวิจารณ์กระบี่เขาฮว่าซันเมื่อสองปีที่แล้วก็ยังถูกเขานำทหารไปขัดขวาง จับศิษย์สำนักใหญ่จำนวนไม่น้อยไปขังคุกกองตระลาการ ก่อกวนจนชาวยุทธ์อกสั่นขวัญแขวน
ยิ่งกว่านั้นคือปีที่เขาอายุเพียงสิบห้า เขาก็ย่ำไปบนพื้นอันเต็มไปด้วยซากศีรษะ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแม่ทัพขวาแห่งกองพลเชียนหนิวแล้ว” หยวนหลิงเล่าด้วยน้ำเสียงแฝงความรู้สึกเลื่อมใสอยู่พอตัว
เว่ยฉีอวี้ที่เห็นหนันสือจิ่นเป็นแค่เด็กหนุ่มจอมก่อกวน ได้ยินหยวนหลิงเอ่ยถึงเสียงโจษจันเหล่านี้จึงยังไม่ค่อยเชื่อ “เล่าลือกันเกินจริงหรือเปล่า”
“จะเกินจริงไปได้อย่างไร ข้าเห็นเองกับตา สองปีก่อนเขาคุมตัวคนหลายสิบคนกลับเข้าเมืองหลวง เติมคุกกองตระลาการจนเต็มในคราวเดียว กล่าวว่าผิดฐานก่อกวนความเป็นระเบียบเรียบร้อยของราชสำนัก สมควรตาย”
เมื่อก่อนตอนถ่อเรือเคยมีคนเล่าเรื่องมารร้ายแห่งกองพลเชียนหนิวคุมตัวศิษย์สำนักใหญ่หลายสิบคนกลับไปพิจารณาโทษที่เมืองหลวงให้ฟังเช่นกัน ที่แท้ก็หมายถึงหนันซื่อ
“แล้วท่านหนันซันล่ะ เท่าที่ข้าฟัง เหมือนชื่อของนางในยุทธภพจะไม่ค่อยเป็นที่กล่าวถึงนัก” นางไม่ค่อยเป็นที่กล่าวถึงจริง ศิษย์ทั้งสี่คนแห่งสำนักหวั่งเซิงเหมินฝ่ายใต้ ตั้งแต่ศิษย์คนโตสวีจิ้ง ศิษย์คนรองเชียนมี่ ไปจนถึงศิษย์คนที่สี่หนันหยาง มีเพียงศิษย์คนที่สามท่านหนันซันผู้นี้ที่ไม่เคยมีใครเอ่ยถึงมาก่อน
หยวนหลิงครุ่นคิด “ข้าก็ไม่เคยได้ยิน ราวกับก่อนหน้านี้ไม่มีคนผู้นี้อยู่อย่างนั้นแหละ จริงสิ มีเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นข่าวลือหรือเรื่องจริง เล่ากันว่าปีที่ท่านหนันซันอายุสิบหก นางบุกเดี่ยวเข้าไปช่วยมารดาจากฐานที่มั่นใหญ่ของลัทธิมาร โจษจันกันว่าที่นั่นมีงูยักษ์เสือร้าย คาดว่าคงมีส่วนเสริมเติมแต่งอยู่เยอะ”
หยวนหลิงเอ่ยพลางล้างเนื้อล้างตัว หลังขึ้นจากสระก็กลับเป็นคุณชายสูงศักดิ์ผู้สุภาพเรียบร้อยคนเดิม เขาเหวี่ยงเสื้อผ้าเก่าทิ้งตามมุมโดยไม่ใส่ใจ จากนั้นหยิบห่อสัมภาระขึ้น พัดเล่มหนึ่งหลุดออกมา ทันทีที่พัดเล่มนี้โผล่มาเพียงนิดเดียว หยวนหลิงก็ลนลานเก็บ ราวกับซุกซ่อนความลับอันแสนตึงมือไว้
เว่ยฉีอวี้ยินดีทำเป็นมองไม่เห็นและเอ่ยว่า “กลับลานฝึก?”
หยวนหลิงพยักหน้าแล้วออกจากน้ำตกด้วยท่าร่างว่องไวแผ่วพลิ้วโดยมีเว่ยฉีอวี้ตามหลังมาติดๆ ขณะที่ทั้งสองเดินอยู่กลางป่าก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ หยวนหลิงเอ่ยแค่ “ย่ามันสิ มาทำร้ายผู้บริสุทธิ์อีกแล้ว” จากนั้นก็มุดหายไปท่ามกลางแมกไม้โดยไม่เหลือแม้แต่เงา
เว่ยฉีอวี้เพิ่งตั้งท่าจะตามไปก็ถูกคว้าหัวไหล่ไว้ “อย่าเพิ่งไปสิ อุตส่าห์ล่อเขาไปให้พ้นได้ทั้งที ถ้าเจ้าตามไปจะมิเสียเรื่องกันพอดีหรือ”
เสียงนั้นไม่คล้ายชายไม่คล้ายหญิง น้ำคำคล้ายประชดประชัน จำได้ง่ายถึงขีดสุด แค่ฟังก็รู้แล้วว่าคนผู้นี้คือใคร มิใช่ผู้บัญชาการซ้ายเหริ่นจิ่วเริ่นที่แม่นางมี่มี่บอกว่าไม่พบร่องรอยหรอกหรือ
ผู้บัญชาการซ้ายเหริ่นจิ่วเริ่นถามเข้าเป้าทันทีว่า “เว่ยเยวียน ขลุ่ยหยกเรียกวิญญาณของเจ้าเฒ่านั่นอยู่ที่ไหน”
เว่ยฉีอวี้พยายามหันกาย “ผู้บัญชาการซ้าย ข้าไม่รู้เรื่องขลุ่ยหยกบ้าบออะไรของอาจารย์เลยจริงๆ สามเดือนก่อนเจ้าก็เคยถามข้าไปแล้วนี่ ไม่ว่าจะสามเดือนก่อนหรือตอนนี้ ข้าก็ไม่เคยเห็นขลุ่ยที่ทำจากหยกอะไรทั้งนั้น
ข้าเคยเห็นแต่ขลุ่ยผุๆ ที่อาจารย์เหน็บไว้ข้างเอว แต่ขลุ่ยผุพังนั่นเหลาจากลำไม้ไผ่ที่ใช้ถ่อเรือจนเปื่อยแล้ว เสียงก็แหบแตกอีกต่างหาก และขลุ่ยเลานั้น ข้าก็ฝังมันไปพร้อมกับอาจารย์ในป่าหลิวที่อยู่ตรงข้ามดงอ้อแล้วด้วย ถ้าไม่เชื่อเจ้าก็ไปดูสิ เป็นขลุ่ยไผ่ผุพังจริงๆ”
เสื้อผ้าของเหริ่นจิ่วเริ่นใหญ่กว่าตัวคนใส่อยู่บ้าง แลเหมือนประหนึ่งเด็กน้อยผู้สวมชุดผู้ใหญ่มาแสร้งทำท่าทำทางเป็นผู้ใหญ่ เล็บซึ่งยาวผิดปกติของเขาบีบอยู่บนคอเว่ยฉีอวี้ ออกแรงเพียงน้อยนิดก็จิกเข้าเนื้อแล้ว
[1] ‘สู่จง’ ชื่อแคว้นโบราณ ตั้งอยู่ตอนกลางของมณฑลเสฉวนในปัจจุบัน

คอมเมนต์

Chapter List