ปรุงรักเติมใจ คุณชายไฮโซ ตอนที่ 3-4

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 3-4 การพบเจอ (3)

หลังจากบิดขี้เกียจจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น ดูอีก็ขยับเพื่อคลายกล้ามเนื้อซ้ำ ก่อนจะนึกขึ้นได้อีกรอบว่าเมื่อวานตัวเองยังไม่ได้อาบน้ำ เขาเลยเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย งานพิเศษของเขามีชุดยูนิฟอร์ม แม้จะโพกผ้าคาดศีรษะไว้ตอนทำงานจึงไม่ได้มีกลิ่นติดมากนัก แต่บางครั้งกลิ่นเนื้อก็รบกวนอยู่บ้าง นั่นทำให้ดูอีค่อนข้างไม่ชอบใจ
ขณะกำลังถอดชุดออกแล้วพาดกับไม้แขวนเสื้อ และตั้งท่าเตรียมถอนชั้นใน ประตูห้องน้ำกลับเปิดออก
“โอ๊ย ห้องน้ำ!”
“อ๊ากก!!”
หัวใจแทบหลุดจากอกเพราะยอนปรี่เข้ามาในห้องน้ำแล้วเปิดฝาชักโครกเตรียมปลดภาระเบา คนตัวเล็กเลยหยุดถอดชั้นใน พยายามตั้งสติแล้วลูบอกให้ตัวเองคลายความตกใจ หายใจเข้าออกลึกๆ
“อ้าว เจ้าบื้อ ยืนทำอะไร ไม่มีมารยาทเลยนะ”
จริงๆ คนไม่มีมารยาทคือคุณต่างหากครับ ดูอีอยากจะพูดแบบนั้น แต่พูดไปก็คงเข้าไม่ถึงอีกฝ่ายอยู่ดี รู้ดีด้วยว่าคงถูกเมินไม่สนใจอะไรเหมือนกัน เขายืนมองจนกระทั่งยอนจัดการธุระเรียบร้อยด้วยสายตางุนงงปนความไม่พอใจ
“อะไร ไม่พอใจหรือไง”
ร่างสูงกระตุกยิ้ม ก่อนจะเปิดน้ำแล้วดันเจ้าของห้องออกนิดหน่อยเพื่อแทรกตัวเข้าไปล้างมือตรงอ่างล่างหน้า รู้ดีแล้วยังถามทำไมอีกก็ไม่รู้…
“โคตรแคบเลย”
หลังจากล้างมือเสร็จแล้ว ยอนก็มองไปรอบๆ ห้องน้ำที่ตอนนี้เต็มแน่นจนอึดอัด ทั้งๆ ที่เข้ามายืนด้วยกันแค่สองคน จากนั้นก็สะบัดน้ำใส่หน้าคนยืนนิ่งแข็ง
“อ๊ะ!”
หลับตาพร้อมถอยหนีด้วยความตกใจ แต่ก็ทรงตัวเอาไว้ไม่ได้จนทำให้ลื่นหงายหลัง สาเหตุคงเป็นเพราะก่อนหน้านี้ยอนเพิ่งอาบน้ำแล้วปล่อยให้คราบสบู่เลอะพื้นไปทั่ว ต้องล้มกระแทกพื้นแน่เลย… ร่างบางคิด แต่ยอนคว้าแขนของดูอีไว้ได้ทันเวลาพอดี
“เจ้าโง่ แค่นี้ก็หลบไม่ได้ เฮ้อ…จึ๊ๆ”
ดูอีคว้าไหล่ของคนดึงแขนเพื่อช่วยชีวิตแน่น ก่อนจะร้องโอดโอยแล้วพยายามตั้งตัวยืนตรง นึกว่าจะหัวฟาดพื้นจนเอาชีวิตไม่รอดซะแล้ว
“แล้วนี่แขนผู้ชายเหรอ”
ยอนจับต้นแขนเล็กนุ่มนิ่มของอีกคนพลางแสยะยิ้ม ดูอีหมดความมั่นใจและกำลังอ้าปากเตรียมเถียงว่าตัวเองทั้งผ่านการเข้ากรมทหาร แถมยังทำงานพิเศษมาอีกสารพัด ร่างกายแข็งแรงเข้าขั้นแข็งแรงดีเยี่ยมมากๆ ด้วย แต่ชายหนุ่มกลับหยอกด้วยการกดศีรษะแรงๆ แล้วเดินออกจากห้องน้ำไป พูดทิ้งท้ายว่าต่อไปให้ระวังมากกว่านี้ น้ำเสียงไม่สมกับเป็นเจ้าตัวเลยสักนิด
กินอะไรผิดสำแดงหรือเปล่านะ…
จริงๆ ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าอีกฝ่ายกินแต่ของที่เขาเป็นคนทำให้ ดูอีเลยได้แต่เกาศีรษะแกรกๆ อย่างไม่เข้าใจ
มื้อเช้าวันนี้เป็นอิงลิชเบรกฟาสต์แบบง่ายๆ ซึ่งนั่นคือความคิดของยอน แต่คนออกมาซื้อวัตถุดิบเพื่อทำอาหารเช้ากลับลำบากแทบตาย เพราะถึงจะเสนออิงลิชเบรกฟาสต์ แต่ดันบอกว่าหิวเลยอยากกินข้าวด้วย
ไหนจะต้องใช้วัตถุดิบดีๆ สำหรับทำผักสลัด ยืนสั่งให้ใช้มันฝรั่งเหลือจากจิมทักเมื่อวานมาทำมันฝรั่งทอดให้บ้างล่ะ ไหนจะทอดไข่โดยมีผู้ชายนิสัยเสียยืนกำกับอยู่ข้างๆ ว่าชอบแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ หรือจะเป็นการครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรให้ยอนสามารถกินขนมปังอบแอบเกรียมๆ ของซูเปอร์มาร์เก็ตได้
เขาเรียนรู้ทุกอย่างจนพอทำได้ดี จากการทำงานพิเศษและการเข้ากรมเป็นทหาร แต่กลับต้องมาถอนหายใจกับความยากลำบากในการทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จ
ทั้งขนมปังไม่อร่อย ทั้งขาดการฝึกฝน ใครผ่านมาได้ยินเข้าคงคิดว่าเขาฝันอยากเป็นเชฟ ดูอีนิ่งคิดระหว่างฟังยอนประเมินคะแนนให้อาหารที่เขาทำให้กินเมื่อช่วงสาย เมื่อจัดการเก็บล้างจานเรียบร้อยก็ล้างมือ จากนั้นก็เดินมานั่งหน้าโต๊ะเพื่อเตรียมอ่านหนังสือสอบ ส่วนผู้ชายอีกคนก็นั่งยิ้มกว้างอยู่ข้างๆ เหมือนรอจังหวะนี้อยู่แล้ว
“นี่ ไหนลองพูดตามสิ อาจารย์ครับ~”
เอาจริงๆ นะ หมอนี่ไม่มีทางอยู่คนเดียวได้แน่นอน
ยอนเปลี่ยนช่วงเวลาน่าเบื่อไม่มีอะไรทำเวลาอยู่ในห้องมาใช้แกล้งดูอีเพื่อสร้างความสนุกสนานให้ตัวเอง แต่ถึงอย่างไรก็ช่วยติวข้อสอบไปด้วย และไม่ต้องบอกก็คงเดาได้ว่าอาหารทั้งสามมื้อของแต่ละวัน ก็มาจากฝีมือดูอีที่ต้องเข้าครัวคอยทำให้คนว่างงานกิน
ยิ่งในวันอาทิตย์และวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันหยุดในการทำงานพิเศษของดูอี ผู้บริหารบริษัทลูกของเฮซเอสกรุ๊ปจึงหาเรื่องมาโจมตีคนตัวเล็กทั้งวันเพื่อคลายเครียด ไม่เข้าใจว่าผู้บริหารนิสัยเสียคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ และถ้าหากคนรู้จักมาเห็นคงได้เดาะลิ้นอย่างไม่เชื่อสายตาแน่นอน ถึงยอนจะค่อนข้างชอบเดาะลิ้นทำท่ายียวนกวนประสาทเป็นประจำ แต่ก็พูดได้เลยว่าอีกฝ่ายปฏิบัติตัวกับดูอีแบบโคตรเด็กจริงๆ
ฮายอนเคยโมโหแล้วเอาไปลงกับของใช้ หรือจะเป็นการเรียกตัวนักแสดงมาด่าทอต่อหน้า ยกขาขึ้นมาพาดบนโต๊ะตอนประชุมผู้บริหาร สะบัดปลายคางออกคำสั่งกับคนอายุมากกว่าและไม่สนใจใยดี แต่ตอนนี้สิ่งที่ทำอยู่คือติวสอบให้รุ่นน้อง พออีกฝ่ายทำผิดก็หัวเราะคิกคักแล้วล้อว่าเป็นเจ้าเด็กบื้ออย่างขบขัน ถ้าคนรู้จักมาเห็นคงได้ขนลุกขนพองกับสภาพนี้ของยอนแน่นอน
คนอวดเก่งมาตั้งแต่เกิดนั่งช่วยรุ่นน้องติวข้อสอบ ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง แถมยังใส่ชุดเทรนนิ่งไซซ์ไม่เข้ากับตัวเองอีกต่างหาก แม้ฟ้าจะถล่ม โลกจะสลาย ก็ไม่น่าเกิดขึ้นได้ด้วยซ้ำ
แต่เจ้าตัวก็ไม่สนใจหรอกว่าถ้ามีคนรู้จักมาเห็นแล้วจะคิดอย่างไรต่อ ยอนใช้ชีวิตไม่ต่างจากถูกคุมขังอยู่ในบ้านของคนไม่รู้จัก โทรศัพท์มือถือก็พัง คล้ายถูกเลี้ยงดูอย่างอิสระ มัวแต่ยุ่งอยู่กับความเพลิดเพลินตรงหน้าจนลืมไปแล้วว่าเคยก่นด่ามาก่อน ผ่านช่วงสุดสัปดาห์ด้วยการใช้ชีวิตแบบเป็นกันเอง สบายๆ ไม่ต่างจากเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้

และในที่สุดก็ถึงวันจันทร์ที่เฝ้ารอคอย
“ถ้าได้ต่ำกว่าเอบวก นายโดนแน่”
มากกว่าเอบวก ก็มีแค่เอบวกอย่างเดียวแล้วไหมล่ะ… ดูอีปล่อยให้ยอนพูดข่มขู่อยู่อย่างนั้น แล้วออกมาจากห้องเพื่อเตรียมสอบวิชาสำหรับวันจันทร์ เขาเดินทางไปมหาวิทยาลัยด้วยความตื่นเต้นมากกว่าปกติ
กว่าผลการสองรอบนี้จะออก ก็ต้องรอช่วงเดือนมกราคมนู่น แต่พอพ้นวันนี้ พวกเราก็ไม่ได้เจอกันแล้ว เขาจะมารู้ได้ยังไงเล่า ดูอีหลุดหัวเราะหลังจากเป็นกังวลและกลัวว่าถ้าผลการเรียนออกมาไม่ดีจริงๆ อาจถูกยอนตีตายก็ได้ เกรดออกมาดีก็ดีสิ ถือว่าเป็นเรื่องดีๆ ของชีวิตอีกอย่างแล้วกัน
ซึ่งดูอีก็สามารถทำข้อสอบได้มากกว่าปกติ คิดว่าการติวของยอนคงได้ผลดีเยี่ยมไม่แพ้โน้ตแนวข้อสอบที่ว่านั่น เขาตอบได้หมดทุกข้อแม้แต่ข้อเขียน ขณะส่งข้อสอบให้อาจารย์และเดินออกมาจากห้องเรียน ก็คิดกับตัวเองว่าถ้าหากทำได้แบบนี้ ผลสอบก็คงจะออกมาดีแน่นอน
วิชาต่อไปเป็นช่วงบ่าย เขาเริ่มสอบช่วงเช้าตอนสิบโมงและเสร็จตอนเที่ยง ยังมีเวลาว่างอีกสี่ชั่วโมงก่อนสอบวิชาเสรี จะแวะกลับห้องเลยก็ดูจะเสียเวลาเกินไปหน่อย ดูอีจึงเลือกร้านสะดวกซื้อสำหรับมื้อกลางวันในรอบหลายวัน เขาเตรียมอาหารกลางวันไว้ให้ยอนแล้ว อีกฝ่ายคงตระเตรียมกินเองได้… ขอแค่ไม่กินถ้วยเข้าไปด้วยก็พอแล้ว
ดูอีเคี้ยวข้าวปั้นสามเหลี่ยมเข้าไปเต็มคำ พลางคิดภาพยอนหยิบกับข้าวและเครื่องเคียงจากตู้เย็นออกมากินมื้อกลางวันไปด้วย
เขาใช้เวลาที่เหลือไปกับการทบทวนเนื้อหาอยู่ในห้องสมุด และเข้าสอบตอนสี่โมงตรง แทบกระอักเลือดตายกับการต้องใช้สมองเรียบเรียงความคิดลงไปในข้อสอบแบบวิเคราะห์ เพราะวิชาเสรีเรียนเกี่ยวกับปรัชญา ถึงดูอีจะได้รับการติวสอบจากยอน แต่นั่นเฉพาะกับวิชาของคณะเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงวิชาเสรีด้วย
เหตุผลการวิพากษ์ทฤษฎีสิทธิมนุษยชนยุคสมัยปัจจุบันของ Emmanuel Levinas แล้วจบด้วยการทุ่มสมองเขียนเกี่ยวกับหลักจริยธรรมต่างๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงอาจารย์แจ้งว่าหมดเวลาสอบแล้ว ร่างกายของเขาเองก็เริ่มเมื่อยล้าหลังจากเขียนทุกอย่างลงไปอย่างเต็มที่
ไม่รู้ว่าทำได้ดีไหม แล้วก็ไม่ได้คิดด้วยว่าผลการเรียนจะออกมาเป็นแบบไหน หลังจากสอบเสร็จทั้งสองวิชา ดูอีรีบกลับห้องทันที แต่ก็ไม่ลืมแวะร้านประจำเพื่อซื้ออเมริกาโน่แบบเทคเอาท์สองแก้ว แล้วก็นึกได้ระหว่างทางว่าต้องไปเอาชุดมาให้ยอนด้วย คนตัวเล็กจึงรีบเดินไปร้านซักรีดทันที รับถุงพลาสติกมาจากเจ้าของร้านซักที่ทำการพับจัดเก็บไว้ให้อย่างดี จนหวาดเสียวไปด้วยว่ากาแฟจะหกตามไหม
ในที่สุดผู้ชายคนนี้ก็จะกลับแล้ว
พอเปิดประตูแล้วยื่นเสื้อผ้าให้ หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อย ยอนก็คงไปจากที่นี่สินะ… ทั้งโล่ง ทั้งใจหาย แต่คนเราพบเจอเพื่อจากลาเป็นเรื่องปกติ แต่ถึงอย่างไรดูอีก็ยังแอบเสียดายอยู่ดี
เขากดรหัสประตูเข้าห้องด้วยความกระวนกระวาย แล้วเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสภาพเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดศีรษะอยู่ในห้อง
“ส่งเสื้อมา”
ดูอีค่อยๆ วางกาแฟลง ก่อนจะส่งเสื้อผ้าที่ซักรีดจนหอมฟุ้งให้ยอน
“ทำข้อสอบได้ไหม”
เอ่ยถามเสียงแข็งระหว่างเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวเดิมแต่ซักใหม่แล้วไปด้วย ร่างบางพยักหน้าตอบรับเพราะไม่ได้มีข้อไหนติดขัด หรือทำไม่ได้เป็นพิเศษอยู่แล้ว ยอนจึงยิ้มมุมปาก มั่นใจดีนี่เจ้าหนู
ชายหนุ่มโยนชุดเทรนนิ่งที่ตัวเองใส่มาหลายวันทิ้งไว้ลวกๆ บนพื้นห้อง ตอนนี้ฮายอนดูเท่และภูมิฐานกว่าเดิมมากๆ เมื่ออยู่ในชุดสูทอย่างเป็นทางการ และชุดเข้ารูปก็ยิ่งทำให้รูปร่างสูงสมส่วนของอีกฝ่ายเด่นชัด ไหล่กว้างดูแข็งแกร่ง เจ้าตัวใช้มือจัดทรงผมและลงท้ายด้วยการถามความเห็นของอีกคน
“เป็นไง”
จะเป็นไงล่ะ ก็ดูดีเป็นธรรมดา…
“ก็…ดู ดู… โอเค…ครับ”
“ฉันก็รู้แหละ”
รู้แล้วถามทำไม ดูอีคิดพร้อมกับมองยอนหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วเดินไปทางชั้นวางรองเท้า เป็นคนอะไรทำตามใจตัวเองอย่างเดียวจริงๆ
“ฉันไปแล้วนะ อยู่ดีๆ ล่ะ”
“ผม…”
พอเห็นอีกฝ่ายตั้งท่าเตรียมจากไปทันทีเมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็พอเข้าใจความรู้สึกของคนตัดไม้ในเรื่อง [A Fairy and A Woodcutter] ได้บ้างแล้ว แต่ก็ซื้อของมาแล้ว อย่างไรก็ควรให้ก่อนออกไป ดูอีจึงหยิบแก้วอเมริกาโน่เทคเอาท์ออกมาแล้วยื่นให้
“มี…กาแฟ…”
ยอนยังไม่รับกาแฟแก้วนั้น แต่กลับจ้องหน้าดูอีนิ่งๆ จนทำให้คนโดนจ้องต้องดึงหมวกแก๊ปลงมาให้ปิดยิ่งกว่าเดิมเพราะรู้สึกเขินขึ้นมา ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะกลับมาทำหน้านิ่งๆ ถึงได้หยิบกาแฟมาจากเจ้าของห้อง
“ไปจริงๆ ล่ะ”
ฮายอนเปิดประตูเดินออกไปแล้ว เป็นการก้าวเดินอย่างสบายใจ เหมือนไม่มีติดขัดหรือเสียดาย ก็แน่ล่ะ… ถ้าเสียดายสิ น่าแปลกกว่า
ดูอีจึงถอนหายใจหนักๆ กับประตูที่ปิดลง ก่อนจะหันเข้ามาในห้องแล้ววางกระเป๋าลงบนโต๊ะ เสียงอีกฝ่ายเดินลงบันไดยังได้ยินเข้ามาถึงในห้อง เขาเลยแอบเปิดมองผ่านหน้าต่างบานเล็กๆ เมื่อเดินออกจากอาคาร ยอนก็ก้าวไปตามทางเดินอย่างมั่นคง
คนตัวเล็กทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้หลังแอบมองยอนเดินไปจนสุดสายตาผ่านหน้าต่าง จากนั้นก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเพื่อเตรียมสอบวิชาต่อไป เรื่องสนุกจบลงแล้ว… ดูอีค่อยๆ กลับมาสู่จุดเดิมอีกครั้ง หลังจากชีวิตพลิกผันไปชั่วขณะเพราะผู้ชายชื่อฮายอน
ผ่านมานานแล้วกับการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น เขาเคยชินกับการอยู่ตัวคนเดียว แต่คำว่าเคยชินมันก็ไม่ได้มีความหมายในแง่ดี สำหรับดูอีแล้ว ยิ่งอยู่คนเดียวมากแค่ไหน เขายังมีความหวังอันแรงกล้าว่าสักวันจะได้อยู่ร่วมกับใครสักคน
นานมากแล้วที่ไม่ได้สนุกแบบนี้…
เขาปลอบตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนท่าเป็นคว่ำหน้าลงบนโต๊ะเพื่อใช้เวลาปลอบประโลมความเหงาสักพัก ยิ่งสัมผัสถึงร่องรอยใครอีกคน ดูอียิ่งรู้สึกเหงากว่าครั้งไหนๆ ที่เคยเป็นมา

คอมเมนต์

Chapter List