ปรุงรักเติมใจ คุณชายไฮโซ ตอนที่ 1-2
ตอนที่ 1-2 การพบเจอ (1)
ดูอีสัมผัสได้ว่าเสียงรอบตัวไม่ได้ผ่านลอยไปกับสายฝนเหมือนทุกครั้ง ร่มก็หลุดจากมือทันทีเพราะโดนผู้ชายตรงหน้าขยุ้มคอเสื้อ ดูอีตัวเปียกชุ่มไปหมดเนื่องจากฝนตกกำลังตกกระหน่ำ
อีกฝ่ายก็ไม่มีร่มในมือเช่นกันและมีสภาพไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่ อยากรู้ว่าคิดอะไรอยู่กับการยืนกลางสายฝนหนักๆ แบบนี้ ดูอีมองผู้ชายตรงหน้าด้วยสายตาหวาดหวั่น และหลังจากเขย่าร่างกายบอบบางของเขาจนตัวสั่นคลอน อีกฝ่ายก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดรูปๆ หนึ่งให้ดู
“นายเห็นไอ้หมอนี่แถวนี้ไหม”
“คะ…ครับ?”
“เฮ้ย หูหรือรูตูดกันแน่วะ พูดแค่นี้ทำไมฟังไม่รู้เรื่อง มีลูกตาก็แหกดู! มีสมองก็คิดซะ! เคยเห็นไอ้เวรนี่แถวนี้ไหม”
“ไม่…ไม่รู้เลย เลยครับ”
“แน่นะ”
“คะ…ครับ”
“แน่ใจ”
ดูอีพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นเมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจ เขาไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร คิดแค่ว่าอยากคว้าร่มที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นขึ้นมาแล้ววิ่งกลับบ้านให้เร็วที่สุด เพราะแค่ทุกวันนี้ก็เหนื่อยแทบแย่แล้ว ไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับเรื่องประหลาดอะไรอีก
“เวรเอ๊ย แล้วไอ้บ้านี่มันวิ่งหนีไปไหนวะ!”
ชายนิรนามดันตัวเขาออกจนเกือบจะเรียกว่าผลักให้พ้นทาง ก่อนจะหันหลังกลับแล้วก้าวยาวๆ ออกไปอย่างรวดเร็ว มั่นใจมากว่าคงกำลังตามหาคนในรูปภาพนั้นอยู่ ร่างกายเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนกองอยู่กับพื้นหลังถูกผลักจนล้มลง ดูหนาวเหน็บมาก ดูอีหยิบร่มที่ปลิวห่างออกไปด้วยแรงลมขึ้นมา แล้วก้าวเดินกลับบ้านต่อในเส้นทางเดิม
กระเป๋าของเขาไม่กันน้ำ และนั่นส่งผลให้หนังสือเรียนเปียกทั้งหมด คนตัวเล็กรู้สึกเศร้าขึ้นมาเมื่อคิดว่ากว่าจะจัดการตากหนังสือพวกนี้ให้เรียบร้อย ก็คงกินเวลานอนเข้าไปอีก จากนั้นก็รีบเดินหนีทันที เพราะขนลุกแทบแย่หลังได้ยินเสียงตะโกนแว่วมาจากที่ไกลๆ ว่าถ้าเจอจะฆ่าให้ตาย
ดูอีตัวเปียกโชก ไหล่สั่นระริก เดินอย่างระแวดระวังทุกอย่างรอบตัวแล้วตรงดิ่งกลับห้อง รับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าวันนี้บรรยากาศรอบๆ อาคารที่พักต่างจากเมื่อวาน ทั้งผู้ชายคนที่เจอก่อนหน้านี้ รวมถึงรอบๆ ข้างตอนนี้ด้วย สัมผัสได้ถึงความวุ่นวายและมองเห็นสิ่งประหลาดบางอย่างโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่อย่างไรก็ต้องรับรู้ แม้ใจจะไม่ได้อยากรู้เห็นนัก เพราะเขาอยากรู้ว่านี่มันคือเรื่องอะไรกันแน่
กลับมาในปัจจุบันอีกครั้ง หน้าหอพักของเขายังมีฝนตกหนักราวกับมีรอยรั่วบนฟ้า ทว่ากลับมีผู้ชายผมสีน้ำตาลอ่อนและมีภาพลักษณ์ไม่เข้ากับบรรดาขยะคนหนึ่ง นอนสลบไสลอยู่บนกองถุงขยะสีดำ
เขาก็สงสัยว่าตัวเองมองเห็นพื้นที่บริเวณหน้าหอพักผ่านบรรยากาศขมุกขมัวแบบนี้ได้อย่างไร คนที่นอนสลบอยู่ดูตัวสูงใหญ่ แต่บนหน้าเล็กๆ มีรอยแผลตรงมุมปากและเลือดก็ยังไหลไม่หยุด หมดสติไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้จัดการน้ำขังในรองเท้าหนัง สภาพดูไม่ได้เข้าขั้นแย่ขนาดนั้น แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่สภาพของอีกฝ่ายหรอก…
ดูอีมั่นใจ เพราะคนคนนี้หน้าเหมือนผู้ชายในรูปที่เห็นในโทรศัพท์มือถือเมื่อครู่นี้เลย
ใช่ ต้องเป็นคนเดียวกันแน่นอน ผมสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าที่แม้จะหลับตาอยู่ก็คาดเดาได้ไม่ยากว่าค่อนข้างหล่อเหลา ไม่ต่างจากรูปภาพนั้น ไม่สิ เขามั่นใจมาก มากพอให้ยืนครุ่นคิดต่อสักพัก
ไม่คิดว่าผู้ชายคนที่เพิ่งเจอก่อนหน้านี้จะเป็นฝ่ายเดียวกับคนที่สลบตรงหน้าอยู่ มันน่าแปลกกับการมีสภาพเหมือนถูกทำร้าย แถมยังมาสลบจมกองขยะอีก ควรทำยังไงดีนะ เรียกรถฉุกเฉินดีไหม แต่ถ้าทำแบบนั้น ผู้ชายคนก่อนหน้านี้ก็จะต้องรู้ อีกอย่างคนคนนี้ก็ดูจะบาดเจ็บหนักด้วย…
ดูอีไม่สบายใจเพราะคิดว่าหากปล่อยทิ้งไว้ให้ผ่านข้ามคืนในสภาพแบบนี้ ก็คงไม่พ้นต้องจบลงด้วยความตายแน่นอน เขาอยากเดินเข้าห้องตัวเอง แต่เท้ามันกลับไม่ยอมขยับจากที่เดิม
บางทีร่างกายอาจจะตัดสินใจได้แล้ว คนตัวเล็กถอนหายใจ ถึงอย่างไรบ้านเขาก็อยู่ตรงหน้า คงจะดีกว่าการปล่อยให้อยู่ข้างนอก เขากะพริบตาสองครั้งก่อนจะเบิกตาขึ้น จากนั้นก็ปรับกระเป๋าสะพายให้มาอยู่ด้านหน้า ก่อนจะเดินไปคว้าร่างเปียกชุ่มด้วยน้ำฝนแล้วพยุงให้ลุกขึ้น ดูอีกัดฟันแน่นเพราะต้องออกแรงยกตัวผู้ชายที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองและหนักกว่าที่คิดเพียงคนเดียว
เขาสบายใจขึ้นบ้างเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจใกล้ๆ ใบหู พยายามแบกร่างหนักๆ ด้วยความทุลักทุเลจนกระทั่งเดินขึ้นบันไดถึงชั้นสี่ ก่อนจะโยนคนบนหลังเข้าไปในห้องของตัวเอง เขาไม่ได้ตั้งใจโยนอีกฝ่ายทิ้งอย่างรุนแรงแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ฝืนตัวเองไม่ไหวเพราะความหนักอึ้งจากการเปียกชุ่มด้วยน้ำฝน
หลังจากถอดรองเท้าหนังอุ้มน้ำออกให้อย่างยากลำบาก ตามด้วยการดันขายาวๆ ให้เข้าไปด้านในประตูบานเล็กแล้ว ดูอีก็ปิดประตูห้อง เขาพยายามปลุกให้รู้สึกตัว แต่กลับไม่มีการตอบรับกลับมาเลยสักนิด เนื้อตัวคนนอนสลบเริ่มเย็นชืดเนื่องจากตากฝนมาเป็นเวลานาน ส่วนใบหน้านั้นก็เริ่มบวมช้ำคล้ายถูกทุบตีทำร้ายมาอย่างหนัก แถมยังซีดเซียวจนน่ากลัวว่าจะหมดลมหายใจในอีกไม่ช้า
จะโอเคหรือเปล่านะ เริ่มคิดว่าการช่วยอีกฝ่ายขึ้นมาอยู่บนห้องแทนเรียกรถฉุกเฉินมารับ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก ก่อนจะทำการจัดการเสื้อผ้าฝังกลิ่นขยะเหม็นรุนแรงออกจากตัวคนสลบไม่รู้เรื่องราว
คงต้องทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นก่อน… ดูอีเปิดเครื่องทำความร้อนคล้ายเพิ่งนึกได้ พอพื้นเริ่มอุ่นขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย เขาก็หยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาสะบัดแล้ววางลงใกล้ๆ ผู้ชายที่ตัวเองเพิ่งช่วยชีวิตขึ้นมา
จากนั้นก็ลองเปิดดูลิ้นชักเพื่อค้นดูว่ามีอะไรพอจะเอามาใส่ให้อีกฝ่ายได้บ้าง ก็เจอชั้นในยังไม่ได้แกะใช้งานที่ซื้อมาเก็บไว้เพื่อเป็นการฉลองเปิดเทอม อย่างน้อยก็ยังดี คิดพลางโยนมันทิ้งไว้ก่อน แล้วหันไปดึงร่างอ่อนปวกเปียกอิงตัวอยู่กับชั้นวางรองเท้าหน้าประตูเกินครึ่งตัวให้เข้ามาด้านในห้อง
ร่างกายเปล่าเปลือยของแขกไม่ได้รับเชิญ และไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวปรากฏให้เห็นผ่านสายตา หลังถอดเสื้อผ้าเปียกชื้นออกจนหมดทั้งตัว ก็มานั่งรู้สึกผิดเพราะทำให้อีกฝ่ายต้องมาเปลือยร่างให้คนไม่รู้จักเห็น ดูอีใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวให้ ก่อนจะไล่เช็ดพื้นบริเวณที่เปียกน้ำ จากนั้นก็ตั้งใจว่าจะถอดเสื้อผ้าออกหมดเพื่อทำความสะอาดส่วนล่างให้ด้วย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสัดส่วนของช่วงกลางลำตัวที่มีชั้นในแบบแนบชิดกับเนื้อหนังปกปิดอยู่
“ขอ…ขอโทษนะครับ”
แม้แต่ของพี่ชายแท้ๆ เขายังไม่เคยได้จับหรือสัมผัสมาก่อน ก็เลยรู้สึกเขินอายแปลกๆ กับการต้องมาสัมผัสของของคนที่ไม่เคยรู้จักกันสักนิด แต่จะให้ปล่อยอวัยวะสำคัญแบบนี้ทิ้งไว้ให้เปียกชื้นอยู่จุดเดียวก็คงไม่ได้อีก ดูอีหยีตาลงพร้อมกับดึงชั้นในของอีกฝ่ายออก ต้นขาเปียกชื้นที่สัมผัสโดนดูท่าจะแข็งแกร่งต่างจากตัวเขา ความแข็งแรงแน่นขนัดของคนตรงหน้าทำให้หน้าเห่อแดงขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เขาปิดส่วนลับด้วยความรู้สึกผิด เบนสายตาหลบหลีกหลังใช้ผ้าขนหนูโยนคลุมๆ แถวกระดูกเชิงกราน จริงๆ เลย เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ จะคิดมากไปทำไมนะ ดูอีเกาจมูก พยายามซ่อนความอับอายในใจ
เช็ดน้ำเปียกชื้นตรงเท้าเป็นจุดสุดท้าย ก่อนจะดึงตัวผู้ชายคนนี้ขึ้นไปนอนดีๆ บนผ้านวมที่ทำการปูเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วให้เรียบร้อย และจังหวะนั้นก็เผลอเหลือบไปเห็นส่วนลับที่อุตส่าห์ใช้ผ้าขนหนูคลุมเอาไว้จนได้ เขากำลังแกะถุงพลาสติกห่อชั้นในตัวใหม่ออก แต่ก็ต้องส่งเสียงร้องพร้อมหลับตาปี๋ เมื่อได้เห็นภาพเหนือความคาดหมายและไม่ได้คาดคิด
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเปลี่ยนชั้นในให้อีกฝ่ายด้วยสติครบถ้วนสมบูรณ์หรือเปล่า แต่อย่างน้อยการทำงานของเครื่องทำความร้อนก็คงช่วยให้หยดน้ำบนร่างกายแห้งลงได้ แต่สิ่งที่ดีกว่านั้นคือสีหน้าเริ่มดูโอเคขึ้นกว่าเดิม
บางทีการปล่อยให้นอนหลับทั้งๆ ที่สวมเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว ก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่… ดูอีจึงหยิบชุดเทรนนิ่งตัวเก่งแบรนด์ดังอย่างอดิดาสมาลองใส่ให้ แต่เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่กว่าทำให้มันไม่พอดีทั้งความยาว ทั้งความกว้าง ยิ่งใส่ยิ่งดูอึดอัดจนเหมือนเลือดไม่ไหลเวียน แต่เขาไม่มีเสื้อผ้าที่ใหญ่กว่านี้แล้ว ดูอีรู้สึกกระดากอายกับร่างกายผอมแห้งไร้กล้ามเนื้อของตัวเองจริงๆ
ถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากทุลักทุเลกับคนนอนนิ่งสนิทบนผ้านวมผืนหนามาสักพัก ทีนี้ก็ถึงตาเขาสักที คนตัวเล็กถอดชุดเปียกซกทิ้งไว้ในตะกร้าผ้า ตามด้วยการอาบน้ำแบบลวกๆ แล้วออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะพบว่าตอนนี้ห้องของเขาเละเทะไปหมด
เพราะน้ำฝนจากเสื้อผ้าของตัวเอง รวมถึงเสื้อผ้าเปียกหนักของคนสลบไม่ได้สติ ทำให้พื้นห้องเปียกเลอะเทอะ แม้จะใช้ผ้าขนหนูเช็ดไปแล้วรอบนึง ของทุกอย่างวางกระจัดกระจายภายในห้องคับแคบ จนหาหนทางมองให้มันสะอาดสะอ้านขึ้นไม่ได้เลย
“อ๊ะ!”
ดูอีร้องอุทานสั้นๆ ด้วยความตกใจเหมือนเพิ่งนึกเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นได้ จากนั้นก็วิ่งตรงไปหากระเป๋าที่เปียกปอนด้วยหยาดน้ำฝน แย่แล้ว! ต้องทำหนังสือพวกนี้ให้แห้ง แล้วก็รีบวิ่งไปหยิบไดร์มาจากตะกร้า แล้วเริ่มเป่าหนังสือให้แห้งด้วยลมแบบเบาสุด
ยิ่งเป็นช่วงเช้ามืด ยิ่งต้องระมัดระวังเรื่องเสียง เพราะผนังกั้นค่อนข้างบางมาก เสียงไดร์อาจจะรบกวนผู้อาศัยห้องอื่นได้ ดูอีใช้ลมร้อนเป่าหนังสือเรียนที่ซื้อต่อมือสองมาให้เริ่มแห้งแล้ววางผึ่งทิ้งไว้
จัดการตรงนั้นเสร็จแล้วถึงได้หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดพื้นอีกครั้ง และจบด้วยการโยนมันลงตะกร้าผ้า ในใจก็ภาวนาขอให้ความชื้นในห้องหายไปเร็วๆ ก่อนจะจ้องมองว่าผู้ชายบนผ้านวมแค่นอนหลับ หรือสลบไม่ฟื้นกันแน่
ว่าแต่ ผม…ดูเหมือนจะยังไม่แห้ง
ดูอีจึงใช้ไดร์ตัวเดิมหันไปทางศีรษะอีกฝ่าย ลมระดับเบาสุดคงไม่ทำให้ตื่นหรอกนะ… จากนั้นก็ใช้นิ้วสางผมเปียกชื้นของคนนอนหลับ เริ่มทำการเป่าผมให้ด้วยลมอย่างเบามือที่สุด
กระทั่งเป่าผมจนแห้งแล้ว คนนอนนิ่งก็ไม่ตื่นขึ้นมาเลย คนตัวเล็กยิ้มบางๆ ด้วยความพอใจเมื่อเห็นเส้นผมแห้งจนเกือบสนิท
เดี๋ยวสิ เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาซะหน่อย… เป่าผมให้ขนาดนี้แล้วยังไม่ตื่นยังเรียกว่าปกติอีกงั้นเหรอ ดูอีเริ่มเป็นกังวล คงต้องรอดูสถานการณ์อีกทีว่าควรเรียกรถฉุกเฉินมาไหม ก่อนจะเริ่มพึมพำว่าต้องเปลี่ยนไปเป่าหนังสือสลับกับศีรษะตัวเองต่อบ้างแล้ว
และขณะนั้น พระอาทิตย์ก็เริ่มส่องแสง
คอมเมนต์