ปรุงรักเติมใจ คุณชายไฮโซ ตอนที่ 1-4

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 1-4 การพบเจอ (1)

ดูอีใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้าให้ด้วยท่าทางมึนงง โดยที่ฮายอนใช้แววตาพร่าเบลอมองสีหน้าเป็นกังวลเช่นนั้น เขาจำได้แค่ว่า เมื่อวานตัวเองวิ่งหนีหลังมีเรื่องกับฮากยองแล้วก็พรรคพวกของหมอนั่น… เวรเอ๊ย สักวันต้องฆ่าพวกมันให้ได้ ไอ้พวกลูกหมา ฉันไม่ยอมยกโทษให้แน่!
ร่างสูงหลุดเข้าไปอยู่ในความคิดของตัวเองพักใหญ่ จนกระทั่งคนประหลาดที่ใส่หมวกปิดหน้าแม้กระทั่งเวลาอยู่ในบ้านวางผ้าขนหนูลง แล้วหยิบน้ำกับยายื่นมาให้
“คุณ ตะ ตากฝน ก็เลย เหมือน จะ จะเป็นหวัด ตะ ต้องกิน กินยาหน่อย…”
“เฮ้อ”
ดูอีสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของอีกฝ่าย แต่ก็ยังดื้อดึงส่งทั้งน้ำ ส่งทั้งยายัดใส่มือใหญ่จนได้ ยอนมองของในมือตัวเองด้วยสีหน้าไม่พอใจ ทว่าสุดท้ายก็ยอมกินมันแต่โดยดี แม้จะชักสีหน้าและมีท่าทางเหมือนพร้อมจะโยนทิ้งทุกเมื่อก็ตาม
“คือ…”
“จะนอน”
“…ครับ…”
คนเพิ่งได้สติขึ้นมาคล้ายจะฝืนนั่งต่อไปอีกไม่ไหวจึงมุดตัวเข้าใต้ผ้าห่ม หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลับมาเงียบสงบ ดูอีคิดว่า อย่างน้อยก็ยังดีที่อีกฝ่ายฟื้นสติแล้วกินยาเองได้ เพราะถ้าหากยังเอาแต่นอนนิ่ง ไม่รู้เรื่องรู้ราวเหมือนเดิม เขาคงได้โทรตามรถฉุกเฉินมารับจริงๆ
ร่างบางจัดท่านอนให้ผู้ชายตรงหน้าดีๆ แล้วหยิบผ้าขาหนูเย็นๆ จากพื้นด้านข้างขึ้นมาวางบนหน้าผากให้อีกครั้ง คนป่วยจนตาแห้งจากฤทธิ์ไข้นอนมองเจ้าของห้องที่มีสีหน้าเป็นกังวลครู่หนึ่ง ก่อนจะหลับตาลง แต่แล้วก็ต้องกัดฟันแน่น เพราะรู้สึกถึงความปวดหัวจนรวดร้าวลงมาถึงช่วงฟัน
“ปะ ไป ไปโรงพยา…”
“ไม่ไป”
“…”
ดูอีนิ่งเงียบอีกรอบเมื่อถูกขัดทั้งๆ ที่ยังพูดไม่จบประโยค พร้อมกับแอบคิดย้อนถามในใจว่าเพราะอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยออกมา หากเจ้าตัวไม่อยากไป เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
“ไอ้พวกนั้นมันต้องอยู่ข้างนอกแน่”
ยิ่งชัดเจนกว่าเดิมว่าผู้ชายคนเมื่อคืนที่มาถามหาอีกฝ่าย ไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกันแน่นอน ดูอีไม่รู้ว่าคนคนนั้นตามหาฮายอนทำไม ได้แต่พยักหน้าเพื่อแสดงออกว่าตัวเองเข้าใจเหตุผลแล้ว
“โทร โทรศัพท์ชาร์จ อยู่ อยู่นะครับ”
“จะนอน”
“คะ ครับ”
ตอบรับเสียงอ่อยเพราะถูกสวนกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด คนป่วยจะหงุดหงิดง่าย ก็คงไม่แปลก… เขาคิดขึ้นมาจากประสบการณ์ของตัวเอง และให้อภัยกับการกระทำอันร้ายกาจนี้
ไม่รู้อีกฝ่ายหลับไปแล้วจริงๆ หรือพยายามตั้งใจจะหลับ ถึงนิ่งเกินเหตุแบบนี้ ระหว่างจัดการเก็บโต๊ะ ฮายอนไม่ขยับตัวสักนิดเดียว ดูอีมองท่าทางนั้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล พลางพับโต๊ะอาหารตัวเล็กเก็บพิงไว้ข้างผนังฝั่งหนึ่งของห้อง
เสียงเข็มนาฬิกาบนโต๊ะกระดิกดังจนชี้ให้เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว ดูอีหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เผื่อว่าประธานชั้นปีจะส่งข้อความกลับมา แต่กล่องข้อความเข้ากลับเป็นศูนย์
เดี๋ยวคงส่งกลับมามั้ง… เขาคิดพลางเก็บโทรศัพท์ลง ก่อนจะได้ยินเสียงกระแทกดังขึ้นจนตกใจ แต่พอหันไปมองด้านหลังเพื่อสำรวจดูว่าคนนอนหลับอยู่สะดุ้งตื่นหรือไม่ ก็พบว่าอีกฝ่ายยังแน่นิ่งไม่ขยับเขยื้อนอะไรเหมือนเดิม
เขาหมดเรื่องให้ต้องลงมือทำแล้ว หลังจากเกิดสารพัดเหตุการณ์ถาโถมเข้ามา ถ้าจะไปเรียน กว่าจะถึงก็คงได้เวลาเลิกพอดี แถมวันนี้ก็มีเรียนแค่ตอนบ่าย เท่ากับว่ามีสิ่งที่ต้องทำก็คือการไปมหาวิทยาลัยแค่นั้น
พอคิดแบบนั้นเสร็จ ดูอีก็จบเรื่องด้วยการนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วหยิบหนังสือเรียนที่เมื่อวานเปียกฝนและวางผึ่งตากแห้งเอาไว้บนชั้นหนังสือขึ้นมาเปิดอย่างระมัดระวัง แค่เห็นภาษาอังกฤษยึกยือกับกราฟก็รู้สึกปวดหัวแล้ว
คิดดูแล้วเพิ่งนึกได้ว่านักศึกษาจบใหม่ก็ต้องเริ่มวุ่นวาย ทั้งเรื่องซีพีเอ[1] และอื่นๆ อีกหลายอย่าง ได้ยินมาว่าเด็กปีสามบางคนก็สอบผ่านแล้วเช่นเดียวกัน
แต่ก่อนเขาเคยคิดอิจฉาคนก้าวหน้าและเดินนำไปก่อนทั้งๆ ที่อายุน้อยกว่าเขา แต่พอผ่านไปหลายปีเข้าก็กลายเป็นว่าไม่รู้สึกอะไรแล้ว แน่นอนว่าเดี๋ยวนี้ซีพีเออาจจะไม่ใช่อาชีพที่มั่นคงเท่ากับสมัยก่อน แต่ดูอีก็ยินดีกับความสำเร็จและอนาคตกันสดใสของเพื่อนร่วมคณะ
สำหรับเขาแล้ว การสอบโดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกเพียงแค่หนึ่งพันคนจากผู้เข้าสอบทั้งหมด มันเข้าใกล้ความเป็นไปไม่ได้มากกว่าคำว่าสามารถทำได้ จริงๆ แค่สอบผ่านก็คือว่าเป็นปาฏิหารย์มากแล้ว
ดูอีสอบเข้ามหาวิทยาลัยเอเพียงที่เดียวเท่านั้นเพราะไม่มั่นใจกับการสอบสัมภาษณ์ เขาพยายามจนแทบลากเลือดเพื่อเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างมหาวิทยาลัยเอให้ได้ภายในครั้งเดียว เพราะคิดแล้วว่าพ่อกับแม่คงไม่ปล่อยให้เรียนต่อแน่ ถ้าหากสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วๆ ไป และความคิดนั้นก็เป็นจริงด้วย
ถึงแม้จะเอ่ยร้องขออย่างไร พ่อกับแม่ก็ไม่มีทางส่งให้เขาเข้าโรงเรียนกวดวิชา ดังนั้น ดูอีจึงอาศัยการอ่านและจดจำจากหนังสือเรียนของพี่ชาย สำหรับการสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย เขาอ่านหนังสือจนแทบตาย และในที่สุดก็สามารถเข้ามหาวิทยาลัยนี้จนได้
แต่เรื่องที่ยากกว่านั้นก็คือการสอบของแต่ละเทอมในมหาวิทยาลัย เนื่องจากไม่รู้จักวิธีประยุกต์ความรู้ใดๆ นอกจากอ่านแล้วจดจำให้ได้ทุกอย่าง รวมถึงยิ่งกลัวกับการท้าทายเพราะไม่ใช่คนหัวดีตั้งแต่เกิด
ทว่ามันก็เป็นแค่ข้อแก้ตัว ดูอีคิดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น แต่เขาไม่อยากเก็บอะไรมาคิดมากอีกต่อไปแล้ว หลังจากจ้องตัวหนังสือภาษาอังกฤษสักพัก ก็พยายามยัดพวกมันลงไปในสมอง ถึงแม้จะไม่เข้าใจเท่าไหร่ก็ตาม

* * *

เวลาทำงานพิเศษของเขาเริ่มตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงตีสาม เนื่องจากเป็นงานต้องใช้แรงงานกว่าปกติ พอถึงประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ช่วงไม่ค่อยมีลูกค้าเข้า พนักงานทุกคนจะได้กินข้าวฟรีจากทางร้านหนึ่งมื้อ เพราะก่อนหน้านั้นจะไม่มีเวลาให้กินข้าวเลย ดังนั้น การกินข้าวเย็นอัดเอาไว้ก่อนเข้างานก็เพื่อกันความหิวโหยและอาการขาดความหวานระหว่างการทำงาน
แต่ข้าวเย็นสำหรับดูอีก็คือ อเมริกาโน่จากคาเฟ่เจ้าประจำ ด้วยราคาย่อมเยาและสามารถแก้อาหารเหนื่อยล้าของร่างกาย อีกอย่างก็เป็นเพราะความชอบนั่นเอง ถึงจะหิวข้าวแค่ไหน แต่มันก็ช่วยไม่ได้เพราะเขาไม่มีเงิน แต่ไม่ใช่กับคนนอนนิ่ง ไม่ขยับเขยื้อน
มันก็ใช่ที่อาการไข้เริ่มลดลงหลังจากกินยา ทว่าฤทธิ์ไข้อ่อนๆ ยังทำให้เหงื่อซึมจากร่างกายอยู่เรื่อยๆ ดูอีต้องคอยใช้ผ้าเช็ดตัวเพื่อคลายความร้อนรุ่มจากพิษไข้ให้ตลอดระหว่างอ่านหนังสือ ก่อนจะได้ยินเสียงท้องร้องจากฮายอน จึงนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายคงกำลังจะหิว
ใกล้ถึงเวลาไปทำงานพิเศษแล้ว เขาต้องเตรียมของไว้ให้คนป่วยกิน ถ้าหากตื่นมาแล้วเขาไม่อยู่ในห้อง ซึ่งความจริงโจ๊กก็ยังเหลือและพอให้กินได้อยู่ แต่ปัญหาคือมันเย็นชืดไปหมดแล้ว
โชคดีที่ท้องของฮายอนประท้วงให้ได้ยินว่าหิว ก่อนเขาจะออกจากห้องไปทำงานพิเศษ ดูอีจึงเอาโจ๊กที่เหลือใส่หม้อแล้วอุ่นให้ร้อนด้วยไฟอ่อนๆ ผ่านไปไม่นานก็เริ่มได้กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้อง
เพื่อกันไม่ให้โจ๊กอุ่นๆ เย็นชืดก่อนอีกฝ่ายจะตื่น เขาจึงปิดฝาหม้อเอาไว้ ไม่รู้ว่าจะกินหรือเปล่า แต่ก็คากเดาได้ว่าถ้าหากจะกิรจริงๆ ผู้ชายคนนี้ก็คงไม่ลุกเอามันมาอุ่นใหม่แน่นอน ก็เลยอุ่นให้ไว้ก่อนล่วงหน้า แค่คิดว่ามันต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น ไม่ได้มีเหตุผลพิเศษอะไร
ดูอียืนมองหม้อโจ๊กด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็ดึงกระดาษออกจากสมุดแบบฝึกหัดแล้วเขียนตัวหนังสือลงไปบนนั้น
[ผมไม่อยู่บ้านเพราะต้องไปทำงานพิเศษครับ อุ่นโจ๊กไว้ให้แล้วในหม้อ อย่าลืมกินแล้วก็กินยาตามด้วยนะครับ ยาอยู่บนโต๊ะ ถ้ามีเรื่องอะไรให้ติดต่อที่เบอร์ 010-XXXX-XXXX ด้วยข้อความนะครับ ผมรับโทรศัพท์ไม่ได้ครับ]
เขียนได้ดีมาก อื้อ ไม่มีตรงไหนอ่านแล้วไม่เข้าท่าเลย… ดูอีพยักหน้ากับตัวเองอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะมองรอบตัวว่าควรวางโน้ตไว้ตรงไหนถึงจะมองเห็นได้ชัดๆ และแล้วก็เห็นจุดเหมาะเจาะเข้าพอดี
เขาย่องเข้าไปใกล้เบาๆ เพราะกลัวว่าคนนอนหลับอยู่จะตื่นขึ้นมา แล้วจัดการติดกระดาษแผ่นนั้นบนแผ่นอกแกร่ง วางตรงนี้ ถ้าตื่นมาคงจะเห็นทันทีแน่ มุมปากเขายกยิ้มน้อยๆ เมื่อคิดว่าตัวเองใช้สมองได้ดีไม่หยอก
หลังจากนั้นก็มองนาฬิกาบนโต๊ะ มันชี้บอกเวลาห้าโมงครึ่งแล้ว ดูอีจึงรีบสวมรองเท้าผ้าใบแล้วออกมาจากห้อง ขณะนั้นเปลือกตาของยอนกระตุกปรือขึ้นเล็กน้อยเพราะเสียงปิดประตู ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง
ถ้าหากกะเวลาพลาด คงจะสายแน่นอน ร่างบางเร่งก้าวเดินจนเกือบจะกลายเป็นการวิ่ง พลางหยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่ากึกขึ้นมาดูเวลา ส่วนกล่องข้อความเข้าก็ยังเป็นศูนย์เหมือน หรือว่าเขาจะบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของจองแทผิดพลาด นั่นเป็นอีกเรื่องที่เขากังวลนอกเหนือจากการไปทำงานสาย อีกฝ่ายอาจจะยุ่งอยู่ก็ได้ ไม่แปลกหรอกมั้ง ไม่งั้นก็รอถามพรุ่งนี้ตอนเจอกันก็ได้
จ๊อก จ๊อก
เสียงท้องร้องประท้วงอย่างไม่พอใจกับการไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันเริ่มดังขึ้น แต่เป็นเพราะผู้ชายคนนั้น สาเหตุเกิดจากฮายอนพาปัญหามาให้แบบไม่ทันคาดคิด ทำให้ดูอีใช้เงินกับค่าอาหารของอีกฝ่ายไปจนหมดแล้ว คงต้องรออีกพักใหญ่เพื่อกินข้าวฟรีของร้าน
แต่เรื่องกาแฟคงจะปล่อยผ่านไม่ได้ ถึงต้องอดอยากเก็บออมมากแค่ไหน เขาก็อดทนไม่ดื่มกาแฟไม่ได้จริงๆ
[1] ซีพีเอ ผู้ตรวจสอบบัญชี (Certified Public Accountant) หรือเรียกสั้นๆ ว่า CPA เป็นตำแหน่งของนักบัญชีที่ผ่านการรับรองในประเทศที่พูด-เขียนภาษาอังกฤษ

คอมเมนต์

Chapter List