ภามเป็นปลื้ม ตอนที่ 5
บทที่ 2 ฝ่าฝืนคำสั่ง [2]
บทที่ 2 ฝ่าฝืนคำสั่ง
[2]
ภามก้มลงมองเวลาในโทรศัพท์ของตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ตอนนี้เป็นเวลาตีสองกว่า ๆ แล้ว ซึ่งเขาก็พอจะเดาได้ว่าเจ้าแมวตัวดื้อของตัวเองไปวิ่งซนอยู่ที่ไหน
ในเวลานี้มีแค่ถนนที่ปิดแข่งรถแบบไม่สนกฎหมายเท่านั้นแหละที่ปลื้มจะไป…
แต่ว่าทุกทีที่ไปดูการแข่งก็ยอมบอกกันตามตรงว่าไป ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรถ้าแค่จะไปดู แต่ที่คราวนี้ดันเลี่ยงที่จะไม่บอก แสดงว่าอีกฝ่ายอาจกำลังคิดจะทำอะไรแผลง ๆ อยู่ก็ได้
คิดได้ดังนั้นภามก็ติดต่อหาเจ้าของงานแล้วขอบัตรผ่านทุกพื้นที่ในงานแข่งพร้อมทั้งถามสถานที่การจัดแข่งในค่ำคืนนี้ เมื่อจัดการเรื่องเข้างานเรียบร้อยแล้วก็หมุนตัวกลับหลังไปทางประตูห้อง เดินออกจากห้องของ ลงมาขึ้นรถที่จอดข้างล่างแล้วขับออกมาจากคอนโดโดยไม่รอช้า
เมื่อมาถึงหน้างานแข่งรถ ภามก็จอดรถไว้ริมถนนแล้วรับบัตรผ่านจากการ์ดที่ยืนรออยู่ด้านหน้า เมื่อเข้ามาในงานได้แล้วก็ไม่รอช้าที่จะเดินหาเด็กในการดูแลของตัวเอง ซึ่งก็ต้องเดินวนหาจนทั่วทั้งงานเพราะไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายอยู่ตรงไหน แถมคนที่มาเข้าชมการแข่งขันก็เยอะจนน่าหงุดหงิด เพราะมันทำให้เขาหาคนตัวเล็กเจอได้ช้าลง
“การแข่งขันรอบสุดท้ายของค่ำคืนนี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วนะครับ ใครที่อยู่นอกพื้นที่การรับชมระวังจะพลาด…”
ภามหันไปมองยังจุดชมการแข่งก่อนจะสาวเท้าไปตรงนั้น แทรกตัวฝ่าฝูงคนจนโผล่ออกมาด้านหน้าได้สำเร็จ ทว่าพอเห็นว่าคนที่ตัวเองตามหานั่งคร่อมรถอยู่ที่จุดสตาร์ตก็ส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอ
เขาเคยบอกไปหลายต่อหลายครั้งแล้วว่าห้ามแข่งรถที่สนามเถื่อนแบบนี้เด็ดขาด ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำตามที่บอกมาได้ตลอด จนครั้งนี้นี่แหละที่ฝ่าฝืนคำสั่งแล้วลงแข่งเอง
“สาม สอง หนึ่ง”
“เดี๋ยว…”
ปัง!
เมื่อห้ามไว้ไม่ทันภามก็ยีผมตัวเองอย่างหงุดหงิด จากนั้นก็มองไปยังรถของปลื้มที่เคลื่อนตัวไปด้านหน้าด้วยความรวดเร็ว ใจที่เคยนิ่งสงบก็เริ่มเต้นขึ้นมาอย่างรุนแรงเพราะกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับอีกฝ่าย
“ไอ้เหี้ย”
แล้วสิ่งที่คิดไว้มันก็เป็นจริงเมื่อปลื้มโดนรถคันหนึ่งเบียดจนเกือบล้ม ทว่าเจ้าตัวก็ตั้งตัวได้แล้วบิดคันเร่งให้เร็วขึ้นจนแซงไปในที่สุด
กว่าการแข่งขันจะจบลงภามก็สบถไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง สมองก็จดจำทะเบียนรถคันที่พยายามขับเบียดปลื้มให้ขึ้นใจ
จบงานนี้เขาจะได้จัดการให้หนัก กล้าดียังไงถึงคิดมาทำให้คนของเขาเจ็บตัว…
“เอาละครับ เราได้ผู้ชนะในรอบสุดท้ายของค่ำคืนนี้แล้ว เงินพนันทั้งหมดหนึ่งแสนบาทตกเป็นของไอ้หนุ่มร่างเพรียว ที่ขับรถเฟี้ยวที่สุดในการแข่งรอบนี้!” เมื่อกรรมการประกาศคนชนะ เสียงเฮร้องก็ดังไปทั่วทั้งถนน “นักแข่งสามารถรับเงินพนันได้ที่กองทะเบียนก่อนกลับบ้านนะครับ สำหรับวันนี้ก็ขอจบการแข่งลงเพียงเท่านี้ แล้วไว้เจอกันสนามหน้าครับ!”
หลังกรรมการประกาศจบการแข่งขัน ปลื้มก็ถอดหมวกกันน็อกออกแล้วมองไปรอบ ๆ ทว่าเมื่อสายตาสบเข้าไปกับร่างสูงที่คุ้นหน้าคุ้นตาก็ชะงักงัน ปลื้มพอจะรู้ตัวว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้เขาจะเจอกับอะไร ตลอดมาภามไม่เคยว่าถ้าเขาจะมาดูการแข่งขันที่สนามเถื่อนแบบนี้ แต่สิ่งเดียวที่อีกฝ่ายพร่ำบอกมาตลอดคือการห้ามไม่ให้ลงแข่งขันเอง
งานนี้เขาคงจะโดนดุยกใหญ่เลยล่ะมั้งเนี่ย
“ไอ้น้อง ไปเอาเงินได้แล้ว”
ปลื้มหันไปมองการ์ดที่ตะโกนเรียกก่อนจะพยักหน้ารับ จากนั้นก็ขับรถไปจอดไว้ริมถนนแล้วลงมายืนที่พื้น มองภามทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปรับเงินพนันกับกรรมการที่กองทะเบียน เมื่อได้เงินครบตามจำนวนก็กลับมาที่รถซึ่งตอนนี้ภามยืนกอดอกพิงรถรออยู่ก่อนแล้ว
“มาทำไมอะ”
“เฮียบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าลงแข่งเอง” ภามพูดขึ้นมาเสียงเข้มจัด ซึ่งมันทำให้ร่างสูงดูดุดันกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
เรื่องที่ปลื้มทำตัวไม่ค่อยน่ารักมันยังไม่ทำให้เขาหัวเสียเท่ากับวันนี้เลย ทำไมไม่คิดถึงหัวอกคนของที่เป็นห่วงจนแทบบ้าบ้างเลยนะ
“เฮียว่าเฮียไม่ได้พูดเรื่องนี้กับเธอแค่ครั้งเดียวนะเป็นปลื้ม”
“ก็ผมอยากแข่งอะ เฮียจะทำไม”
ภามถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะยืดตัวยืนขึ้นเต็มความสูง จับต้นแขนเล็กทั้งสองข้างก่อนจะดึงเข้ามาประชิดตัว ออกแรงบีบต้นแขนเล็กจนปลื้มต้องนิ่วหน้า
“จะทำอะไร”
“อย่าดื้อให้มันมากนักจะได้ไหม”
“ผมจะทำอะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเฮียวะ”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อเฮียเป็นผัวเธอ”
ปลื้มกลอกตาใส่ก่อนจะผลักภามออกห่างอย่างไม่เกรงกลัว ต่อมาก็ดันอีกฝ่ายให้พ้นทางแล้ววาดขาขึ้นคร่อมรถ เหน็บซองใส่เงินไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังก่อนจะหยิบหมวกกันน็อกขึ้นมาสวมหัว ทว่าคราวที่จะบิดกุญแจสตาร์ตเครื่องภามก็หยุดมือไว้ก่อน
“ถ้าไม่เห็นที่ห้อง เธอโดนหนักนะเป็นปลื้ม”
“รู้แล้วน่า” ปัดมือภามออกก่อนจะบิดกุญแจเพื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ “ถอยสิ เดี๋ยวก็ชนซะหรอก”
“อย่าขับให้มันเร็วนักล่ะ”
บรื้น! บรื้น!
ปลื้มบิดคันเร่งสองสามครั้งเพื่อกวนอารมณ์ พอภามหลบฉากให้ก็บิดคันเร่งเต็มเหนี่ยวแล้วขับออกมาจากตรงนั้นด้วยความเร็วสูง ซึ่งนั่นก็ทำให้คนที่มองตามหลังถึงกับสบถออกมาอย่างอ่อนใจ
“ไอ้เด็กนี่…ล้มมาจะฟาดซ้ำให้ดู”
เมื่อมาถึงคอนโด ปลื้มก็ขึ้นมาบนห้องแล้วหาน้ำดื่มดับกระหาย ซึ่งเมื่อออกมาจากห้องครัวก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ภามเปิดประตูเข้ามาในห้องพอดี ทั้งสองคนสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ปลื้มลายตาหนีแล้วเดินเลี่ยงเข้ามาในห้องนอน แน่นอนว่าภามก็เดินตามหลังเข้ามาติด ๆ
ตุ้บ!
ภามยื่นมือไปผลักแผ่นหลังบางจนเจ้าตัวเซล้มลงบนเตียง ต่อมาก็ตามขึ้นไปคร่อมทับแล้วรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้ที่หลังราวกับจับผู้ร้าย จากนั้นก็โน้มลงไปกัดหัวไหล่เล็กผ่านเสื้อยืดสีขาวที่อีกฝ่ายใส่อยู่จนจมเขี้ยว
“โอ๊ย! ไอ้เฮีย! รอยเก่ามันยังไม่หายเลยนะ!” ปลื้มโวยวายเสียงอู้อี้เพราะใบหน้าแนบอยู่กับที่นอน พยายามจะดิ้นให้หลุดจากพันธนาการแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะภามจับไว้แน่นเกินไป “ถ้าจะมาหาเรื่องก็กลับไปเลยไป ขี้เกียจทะเลาะด้วย”
“ถ้าล้มขึ้นมาจะทำยังไง” ภามส่งเสียงถามชิดใบหูสวย
“แล้วล้มไหมล่ะ…ก็ไม่” เมื่อปลื้มตอบกลับมาอย่างไม่น่ารักก็กัดเข้าที่ใบหูเข้าอย่างเหลืออด “กัดอยู่นั่นแหละ!”
“ถ้ายังพูดไม่ดีอยู่ เฮียจะกัดที่อื่นด้วย” ภามพูดพลางขยับเป้ากางเกงบดขยี้ก้นกลมกลึงที่อยู่ภายใต้กางเกงยีนเนื้อดีของอีกฝ่ายอย่างเน้นย้ำ
คุยกับ MINI.MHOR
เอาพาราไหมเฮียภาม เดี๋ยวเตรียมไว้ให้สักโหล 5555555555555
#ภามเป็นปลื้ม
คอมเมนต์