ยอดสายลับโอเมก้า ตอนที่ 14
ตอนที่ 14 เข็มกลัดหน้าอกที่หายไป
ถึงแม้เป้าหมายจะยืนอยู่ตรงหน้า แต่เฉินอันหลานจำเป็นต้องตัดใจและเดินผ่านลานเซลอตออกจากห้องน้ำมา ที่ตรงนั้นมีคนนอกอยู่เยอะเกินไป เขาไม่อยากเปิดเผยพิรุธใด ๆ ให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาเองก็สนใจเวลส์เช่นกัน มันเสี่ยงต่อตัวตนของเขาที่อาจจะถูกเปิดเผยได้ทุกเมื่อหากแสดงปฏิกิริยาใด ๆ ออกไปต่อหน้าผู้นำตระกูลเอสเตคนนั้น
เฉินอันหลานกลับเข้ามาภายในงานอีกครั้ง ขณะที่กำลังจะเตรียมตัวนั่งลงยังโต๊ะตัวเดิม เฉินอันหลานกลับพบว่าเข็มกลัดเพชรที่เคยติดอยู่บนหน้าอกเสื้อของเขาหายไป ฉับพลันนั้นหัวใจของเขาราวกับร่วงหล่นไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม เฉินอันหลานผุดลุกขึ้นและวิ่งกลับไปทางเดิมที่ตนพึ่งจากมาด้วยความรีบร้อน
“ฉันว่าไอ้หมอนั่นมันต้องท้องไส้ไม่ดีชัวร์เลย พึ่งนั่งลงก้นยังไม่ทันแตะเก้าอี้ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำอีกละ”
“ของหาย”
“นายรู้ได้ไง?”
“ก่อนหน้านั้นฉันเห็นเขาติดเข็มกลัดเพชรด้วย แต่ตอนเขากลับมาเมื่อกี้ฉันไม่เห็นมันแล้ว”
“เสี่ยวหมิงหมิง” เว่ยเชียนเฉินหัวเราะเยาะพร้อมกับยื่นหน้าไปทางหมิงจวง
“นายคงไม่ได้ตกหลุมรักไอ้ไก่อ่อนนั่นเข้าจริง ๆ หรอกนะ”
หมิงจวงกระดกแก้วแชมเปญขึ้นดื่มไปอึกหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ฉันไม่สนใจอัลฟ่า”
ประโยคนั้นเรียกเสียงหัวเราะต่ำ ๆ ที่ข้างหูหมิงจวงได้เป็นอย่างดี
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับอัลฟ่า ใครแข็งแกร่งกว่าคนนั้นเป็นผู้ควบคุม นี่เป็นกฎของการอยู่รอดในสังคมนี้”
หมิงจวงแก้ววางแชมเปญในมือลง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเว่ยเชียนเฉินด้วยสีหน้านิ่งสนิท บ่งบอกว่าเขาหมดอารมณ์จะนั่งเถียงกับอีกฝ่ายเต็มทน
“ก็ได้ ฉันไม่พูดแล้วก็ได้” อีกฝ่ายยอมรามือจากเรื่องนี้แต่โดยดี
“นายคอยดูที่นี่ไว้ห้ดีก็แล้วกัน ฉันจะไปตามนายน้อยที่ห้องน้ำ”
“ไปเถอะ เดี๋ยวพี่ชายจะหาคนมาระบายไฟรักที่มันสุมอยู่ในทรวงอกให้นายเอง”
หมิงจวงไม่ได้สนใจเว่ยเชียนเฉินอีก เขามุ่งหน้าตรงไปยังห้องน้ำโดยไม่พูดไม่จาสักคำ
เฉินอันหลานรีบวิ่งกลับไปห้องน้ำเพื่อตามหาเข็มกลัดที่เฉินหยินหลินซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด แต่เมื่อไปถึงหน้าประตูห้องน้ำเขากลับได้ยินเสียงต่อสู้ดังออกมาจากข้างใน เสียงอึกทึกครึกโครมนั้นดังต่อเนื่องไม่ถึงนาทีจากนั้นก็เงียบไปเฉินอันหลานมองผ่านรอยแง้มของประตูเข้าไป เขาเห็นเวลส์ที่แสดงท่าทางหยิ่งผยองกับเขาเมื่อสักครู่นอนคว่ำหน้าหมดสภาพอยู่บนพื้น เวลส์กำลังพยายามที่จะยกใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดนั้นขึ้นเพื่ออ้อนวอนต่อลานเซลอตให้ไว้ชีวิตเขา
โอเมก้าคู่ขาของเวลส์หลังจากได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมนั้นก็รีบร้อนแต่งตัวและออกมาจากห้องน้ำ เขาก้าวออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ แววตาล่องลอยผิดปกติราวกับคนเมา และกลิ่นฟีโรโมนที่ฟุ้งกระจายออกมาจากตัวของเขาทำให้ที่แห่งนี้คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นหอมหวานเจือตัณหาและราคะ ถ้าเป็นอัลฟ่าที่มีจิตใจไม่เข้มแข็งมากพอแล้วล่ะก็ สภาพของโอเมก้าหนุ่มในเวลานี้ย่อมเป็นตัวดึงดูดชั้นดีให้อัลฟ่าเหล่านั้นกระโจนเข้าฉีกทึ้งเหยื่อที่แสนโอชะคนนี้อย่างไร้ปรานี
เฉินอันหลานเองไม่ได้รับผลกระทบจากฟีโรโมนของโอเมก้าอยู่แล้ว แต่เรื่องที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือลานเซลอตที่เป็นอัลฟ่ากลับมีปฏิกิริยาไม่ต่างจากเขาเท่าใดนัก ภายใต้ฟีโรโมนหอมหวานของโอเมก้าที่ปกคลุมอยู่ทั่วห้อง ชายหนุ่มกลับยังคงรักษาท่าทางนิ่งสงบภายใต้สีหน้าเรียบเฉยเย็นชานั้นไว้ได้เป็นอย่างดี
และขณะนั้นเอง เฉินอันหลานก็เห็นคนที่นอนอยู่แทบเท้าผู้นำตระกูลหนุ่มแอบขยิบตาส่งสัญญาณบางอย่างให้กับคู่ขาของตน และวินาทีต่อจากนั้น โอเมก้าร่างบางก็ทรุดตัวลงแทบเท้าของลานเซลอตก่อนจะเอื้อมมือไปจับขาของคนที่ยืนอยู่ด้วยท่าทีระมัดระวัง จากนั้นนิ้วมือขาวเรียวยาวนั้นก็ค่อยลูบไล้ไปบนขากางเกงที่ถูกรีดจนเรียบกริบนั้นช้า ๆ ด้วยท่าทางยั่วยวน สีหน้าของโอเมก้าคนนั้นเต็มไปด้วยความออดอ้อนและกระหายอยากในราคะ
ในสถานการณ์เช่นนี้ เฉินอันหลานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอดสูกับการกระทำของโอเมก้าหนุ่ม
กร๊อบ
หลังจากนิ้วเรียวยาวนั้นลูบไล้ไปบนขากางเกงของลานเซลอตได้ไม่นานนัก ชายหนุ่มก็ตัดสินใจย่อตัวลงและหักนิ้วของโอเมก้าคนนั้นอย่างเลือดเย็น เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของคนที่ทรุดอยู่ด้านล่างดังลั่นออกมาในทันที ลานเซลอตไม่ได้สนใจเสียงร้องนั้น เขาง้างปลายเท้าออกและเตะเข้าที่หน้าท้องของอีกฝ่าย จนร่างบางนั้นปลิวไปกระแทกกับกำแพงอีกฝั่งอย่างไร้ปรานี
เฉินอันหลานทำได้เพียงยืนอยู่ที่หน้าประตูอย่างนั้นด้วยความตกตะลึง
หลังจากจัดการกับโอเมก้าน่ารำคาญคนนั้นแล้ว ลานเซลอตก็หยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเพื่อเช็ดหยดเลือดที่เปื้อนอยู่บริเวณหลังมือทิ้งก่อนจะก้มลงมองเวลส์ด้วยสายตาหยามเหยียดและเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม และเน้นย้ำทีละคำ
“ของอยู่ที่ไหน?”
คนบนพื้นยังคงปิดปากเงียบแม้ตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรองอย่างมากก็ตาม และไม่มีการถามย้ำเป็นครั้งที่สองจากคนที่อยู่เหนือกว่า ลานเซลอตจัดการถอนฟันกรามทั้งบนและล่างของอีกฝ่ายออกจนหมด ให้ภาพน่าสยดสยองแก่สายตาผู้พบเห็นอย่างเฉินอันหลานที่บัดนี้กำลังตระหนกตกใจกับการกระทำอันแสนโหดเหี้ยมอำมหิตนี้เป็นอย่างมาก ต่อให้เขาจะเป็นตำรวจ ก็ไม่มีทางที่เขาจะคุ้นชินกับวิธีการเค้นความลับที่ป่าเถื่อนและโหดร้ายแบบนี้ได้
ระหว่างที่เฉินอันหลานกำลังตกตะลึงกับภาพตรงหน้า เสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งก็ดังมาจากทางด้านหลังของชายหนุ่ม เขาสะดุ้งตกใจและรีบรุดเข้าไปอยู่ในห้องน้ำหญิงที่อยู่ด้านข้างทันที โดยก่อนที่ประตูจะปิดลงนั้นเอง เฉินอันหลานเห็นหลังไว ๆ ของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นหมิงจวงผ่านหน้าเขาไปก่อนจะหายลับเข้าไปในห้องน้ำที่เกิดเหตุนั้นอย่างเร่งร้อน
เมื่อประตูปิดลง สภาพรอบตัวของเฉินอันหลานเหมือนกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ที่ห้องน้ำฝั่งนี้เงียบสนิทราวกับภาพเมื่อสักครู่ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่มีเสียงลอดออกมาจากอีกฟากหนึ่งของกำแพงแต่อย่างใด
“คุณคะ คุณเข้าห้องน้ำผิดรึเปล่าคะ?”
“……….”
เสียงของผู้หญิงและแรงสะกิดจากด้านหลังทำให้เฉินอันหลานสะดุ้งตกใจและหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตน เมื่อหันกลับไปด้านหลัง เฉินอันหลานก็พบกับผู้หญิงผมบลอนด์กลุ่มหนึ่งกำลังจ้องมองตรงมาที่เขาเป็นจุดเดียว บางคนมีสีหน้าโกรธเคืองเขาราวกับมีคำว่าไอ้โรคจิตดังแว่วออกมา ในขณะที่บางคนกลับมีสีหน้าพึงพอใจราวกับว่าเธอ…กำลังสนใจเขา เฉินอันหลานรีบโค้งตัวขอโทษขอโพยผู้หญิงกลุ่มนั้นด้วยความสุภาพก่อนจะก้าวออกจากห้องน้ำมา
เฉินอันหลานเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำชายที่เกิดเหตุเมื่อสักครู่ ก่อนเขาจะพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกเก็บกวาดไปจนหมดสิ้นแล้ว เวลานี้ไม่เหลือร่องรอยของเวลส์และโอเมก้าคนนั้นอีก สภาพภายในห้องเป็นปกติราวกับทั้งสองคนไม่ได้ถูกซ้อมนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นเมื่อครู่นี้ หากไม่ใช่เพราะหยดเลือดเล็ก ๆ ที่อยู่ที่พื้นล่ะก็ เฉินอันหลานอาจจะคิดว่าตัวเองตาฝาดจริง ๆ ก็เป็นได้
ในเมื่อทุกอย่างถูกเคลียร์ไปหมดแล้ว เฉินอันหลานจึงไม่รอช้าที่จะทำตามจุดประสงค์ของตัวเองที่มีตั้งแต่ต้น ตราบใดที่เรือลำนี้ยังคงไม่เทียบฝั่ง เขายังมีเวลาหาตัวเวลส์และจุดหมายปลายทางที่จะไปส่งของได้อยู่แล้ว เฉินอันหลานลงมือหาเข็มกลัดที่หายไปของเขาอย่างขะมักเขม้น แต่จนแล้วจนรอดเมื่อหาทุกซอกทุกมุมของห้องน้ำแล้วเขากลับยังไม่พบของของเขาแต่อย่างใด ราวกับว่ามันได้สูญหายไปดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น
หรือว่าจะไม่ใช่ที่นี่?
คอมเมนต์