ยอดสายลับโอเมก้า ตอนที่ 8

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 8 เว่ยเชียนเฉินกับสติปัญญาที่หายไป

หลังจากที่ก้าวขึ้นมาบนเรือ เฉินอันหลานก็ถูกจัดให้พักอยู่ชั้นเฟิร์สคลาสกับสมาชิกของตระกูลดังคนอื่น ๆ ซึ่งห้องพักในชั้นนี้ภายในจะถูกตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและมีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้อย่างครบครัน ระดับความหรูหราของห้องพักไม่ได้ด้อยไปกว่าห้องพักระดับดีลักซ์ในโรงแรมของตระกูลเฉินเลย เฉินอันหลานขึ้นเรือมาด้วยกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กหนึ่งใบโดยภายในมีชุดนอนหนึ่งชุด และสูทสำหรับใส่เข้าร่วมงานเลี้ยงอีกสองตัว เขาจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการจัดข้าวของและแต่งตัวมากมายนัก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เฉินอันหลานมีเวลาว่างมากพอในช่วงที่คนอื่นใช้เวลาอยู่ในห้องพักของตนในการเดินสำรวจสถานที่แห่งนี้เพื่อหาเบาะแสของเวลส์
หลังจากตกลงรับภารกิจจากเจียงหยางแล้ว หัวหน้าของเขาก็ส่งภาพโครงสร้างภายในของเรือวิกตอเรียให้กับเฉินอันหลาน เขามองดูและจดจำแผนที่นั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน จนกระทั่งคุ้นเคยกับห้องพักแต่ละห้องรวมถึงโครงสร้างทั้งหมดภายในตัวเรือเป็นอย่างดี ด้านหน้าของเขาคือห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาส เป็นที่พักสำหรับผู้ทรงอิทธิพลและเหล่าสมาชิกจากตระกูลอันดับหนึ่งของทุกประเทศ ตรงกลางเป็นห้องโดยสารชั้นดีลักซ์ ซึ่งอยู่ต่ำกว่าชั้นเฟิร์สคลาสเล็กน้อย สมาชิกในรัฐบาลของแต่ละประเทศและสมาชิกในตระกูลใหญ่ต่างก็เข้าพักในชั้นนี้ ส่วนหลังสุดคือชั้นทั่วไป ซึ่งชั้นนี้ถูกจัดไว้ให้กับเหล่าดารานักแสดงที่ได้รับบัตรเชิญและสมาชิกของตระกูลที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายนัก แยกระดับชั้นกัน ราวกับต้องการแบ่งแยกระดับชนชั้นให้ชัดเจนอย่างไรอย่างนั้น
แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นมากนัก เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว แค่ได้ขึ้นมาบนเรือยอชต์ที่หรูหราลำนี้ได้ นั้นก็บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของสถานะและฐานะได้อย่างชัดเจนแล้ว ถึงจะไม่มีห้องพัก พวกเขาก็ยอมที่จะเสียเงินจำนวนมากเพื่อให้ได้พักที่นี่
เวลส์ไม่ได้ถือว่าเป็นสมาชิกของตระกูลใหญ่ แต่เขาได้รับอนุญาตให้ขึ้นเรือมาในฐานะลูกค้าเท่านั้น ดังนั้นเมื่อดูจากการจัดงานของเจ้าภาพแล้ว เขาน่าจะถูกจัดให้อยู่ในห้องชั้นธรรมดา เฉินอันหลานจึงเริ่มต้นการสำรวจของเขาจากชั้นธรรมดาเป็นอันดับแรก
ในขณะที่เฉินอันหลานกำลังก้าวผ่านห้องพักในชั้นดีลักซ์นั้น จมูกของเขาพลันได้กลิ่นฟีโรโมนที่หอมหวานและเข้มข้นฟุ้งกระจายออกมาจากห้องพักห้องหนึ่ง ไม่ต้องมีใครบอกเขาก็พอจะเดาได้…มีเพียงโอเมก้าเท่านั้นที่จะสามารถปล่อยฟีโรโมนที่มีกลิ่นหอมหวานในแบบนี้ออกมาได้ กลิ่นฟีโรโมนหอมหวานที่มีลักษณะเฉพาะเช่นนี้จะเป็นตัวดึงดูดพวกอัลฟ่าให้กระโจนเข้ามาหาตามสัญชาตญาณของพวกเขา ยิ่งสายเลือดของโอเมก้านั้นบริสุทธิ์มากเท่าไหร่ ฟีโรโมนที่ปล่อยออกมาก็จะยิ่งหอมหวานมากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าพวกอัลฟ่าชั้นสูงเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
และจากกลิ่นหอมหวานที่ลอยตลบอบอวลอยู่บริเวณนี้ ดูเหมือนว่าเจ้าของฟีโรโมนคงจะเป็นโอเมก้าสายเลือดบริสุทธิ์ที่หายากมากเป็นแน่
ส่วนฟีโรโมนของอัลฟ่าที่ฟุ้งออกมานั้น…เฉินอันหลานมั่นใจเลยว่าในห้องนั้นไม่ได้มีอัลฟ่าแค่คนเดียวแน่นอน
โชคดีที่เฉินอันหลานฉีดยาระงับฮีทไว้เรียบร้อยแล้ว ฤทธิ์ยาจึงทำให้ฟีโรโมนของเขาไม่ถูกปล่อยออกมาให้คนอื่นๆสงสัย และในขณะเดียวกันตัวเขาเองก็ไม่ได้รับผลจากฟีโรโมนของอัลฟ่าที่กระจายออกมานั่นด้วย พิสูจน์ได้จากอัตราการเต้นของหัวใจที่ยังคงเต้นในจังหวะที่สม่ำเสมอ และไม่มีความผิดปกติใดเกิดขึ้นกับร่างกายเขา ดังนั้นเฉินอันหลานจึงเลือกที่จะก้าวเท้าไปตามทางเดินต่อไปโดยเมินเฉยต่อกิจกามของพวกคนตระกูลใหญ่เหล่านั้น
ฟีโรโมนแสนหอมหวานที่หาได้ยากเช่นนี้ไม่แปลกเลยที่จะสามารถดึงดูดอัลฟ่าจำนวนมากได้ขนาดนั้น ระหว่างทางที่ก้าวเดินไป เฉินอันหลานยังคงได้ยินเสียงครวญครางดังออกมาจากห้องอยู่เป็นระยะพร้อมกับกลิ่นฟีโรโมนคละคลุ้งที่ตลบอบอวนปะปนกันทั่วทั้งชั้น ห้องโดยสารชั้นดีลักซ์ได้กลายเป็นสรวงสวรรค์ของพวกมหาเศรษฐีโดยสมบูรณ์ สถานที่เริงกามารมณ์สำหรับเหล่าบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่ไม่จำเป็นต้องกังวลถึงกล้องแอบถ่ายของปาปารัสซี่หรือสายตาจับจ้องของสังคม อยู่ที่นี่พวกเขาทำเพียงปลดปล่อยสัญชาตญาณดิบราวกับสัตว์ป่าออกมาและเสพสุขกับร่างกายของโอเมก้าที่พวกเขาพาขึ้นเรือมาด้วยเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรให้ยุ่งยาก เพียงแค่มันสามารถสนองตอบความต้องการของพวกเขาได้ก็เพียงพอแล้ว
สถานการณ์แบบนี้ทำให้เฉินอันหลานค่อนข้างอึดอัดใจพอสมควร ถ้าหากเขายังดึงดันจะสำรวจต่อไปอาจจะบังเอิญไปเห็นภาพที่ไม่ควรเข้าก็เป็นได้ ดังนั้นเขาคงต้องพับแผนการค้นหาตัวเวลส์ไว้ชั่วคราวก่อน และกลับไปพักผ่อนในห้องพักของตนเพื่อรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้
แต่ในตอนที่กำลังจะเดินกลับไปยังห้องพักของตนนั้น ประตูห้องพักแขกที่ใหญ่ที่สุดตรงหน้ากลับถูกเปิดออกมาอย่างกะทันหัน ชายสองคนในชุดสีขาวและดำทั้งตัวก้าวออกมาจากภายในห้องนั้น เฉินอันหลานจำพวกเขาได้ในทันที พวกเขาคือผู้ติดตามของโอดินที่เขาเห็นตอนก่อนจะขึ้นเรือ
“ไอไก่อ่อน” ดูเหมือนว่าเว่ยเชียนเฉินเองก็จะจดจำอีกฝ่ายได้เช่นเดียวกัน เขาลอยหน้าลอยตาพูดจาเยาะเย้ยใส่คนที่กล้ามองนายน้อยของพวกเขาอย่างไม่กลัวเกรงในขณะที่เดินสวนกัน
หมิงจวงที่คุ้นเคยกับความปากเสียของเว่ยเชียนเฉินอยู่แล้ว จึงไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา เขาเลือกที่จะเดินผ่านเฉินอันหลานไปเงียบและปล่อยให้เพื่อนสนิทของตนลอยหน้าลอยตาอยู่เช่นนั้น
“เมื่อกี้นายเรียกฉันว่ายังไงนะ?”
“….”
เป็นหมิงจวงที่หันกลับมามองหน้าคนถามด้วยใบหน้าที่ยังคงนิ่งเฉย เขามองไปที่เฉินอันหลาน นัยน์ตาสีน้ำตาลนั้นก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่อาจคาดเดา ลุ่มลึกและอันตราย
เฉินอันหลานเองก็ไม่ได้ขยับตัว เขาทำเพียงยืนนิ่งอยู่หน้าบานประตูที่เคยเปิดออกเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วอย่างเงียบงัน
หมิงจวงที่เห็นว่าเฉินอันหลานไม่มีทีท่าว่าจะหลีกหนีจากพวกเขาแต่อย่างใด ก็อดที่จะหันกลับไปมองเว่ยเชียนเฉินไม่ได้ และผลก็เป็นดังที่เขาคาดการณ์ไว้ เว่ยเชียนเฉินมีสีหน้าที่มืดครึ้มลงและความโกรธของเขาก็กำลังจะปะทุขึ้นในไม่ช้า
“ไอไก่อ่อนกำลังพูดกับฉันเหรอ?”
“นายเรียกใคร?”
“ตรงหน้าฉัน ก็เห็นมีอยู่คนเดียว”
หมิงจวง “ ……….”
เฉินอันหลานไม่ได้โต้เถียงอะไรกลับไปอีก เขาหันกลับไปมองเว่ยเชียนเฉินที่กำลังโกรธแล้วกล่าว ‘ราตรีสวัสดิ์’ จากนั้นก็เปิดประตูห้องตัวเอง เขาไม่มีเวลาจะมานั่งต่อล้อต่อเถียงกับพวกไร้สาระและดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มบาทสักเท่าไหร่พวกนี้ เว่ยเชียนเฉินที่คิดว่าตนสามารถข่มขู่ให้อัลฟ่าหน้าละอ่อนคนนั้นกลัวจนต้องกลับเข้าไปซ่อนตัวในห้องของตัวเองไม่กล้าออกมาอีกได้ก็หลงดีใจและหันไปโอ้อวดกับหมิงจวง
หมิงจวงที่เห็นอาการโอ้อวดของเพื่อนตนแล้วจึงได้แต่กลอกตาขึ้นบน และเลือกที่จะเดินจากไปเงียบๆ ดูเหมือนว่าอัลฟ่าคนนั้นจะทำถูกแล้วที่เลือกที่จะจากไปและไม่ถือสากับความปัญญานิ่มของเพื่อนสนิทเขา
เว่ยเชียนเฉินที่ยังคงไม่รู้ตัวว่าถูกเพื่อนสนิทหลอกด่าในใจก็เดินตามหมิงจวงออกไปด้วยความภาคภูมิใจ

คอมเมนต์

Chapter List