ยอดสายลับโอเมก้า ตอนที่ 9

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 9 คนแซ่เฉิน

เช้าวันรุ่งขึ้นเฉินอันหลานออกมาจากห้องพักของตนด้วยชุดสูทเต็มยศ ระหว่างที่กำลังจะเดินไปยังดาดฟ้าเรือนั้น สัญชาตญาณทำให้เฉินอันหลานสัมผัสได้ถึงกลิ่นไม่ชอบมาพากลบางอย่างจากบริเวณระเบียงทางเดิน เขารู้สึกได้ว่าเมื่อคืนจะต้องมีเรื่องไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน แต่มันคงจะโดนเก็บกวาดไปจนหมดสิ้นภายในชั่วข้ามคืน ดูเหมือนเรือลำนี้จะมีพิรุธเต็มไปหมดเพียงแต่เฉินอันหลานยังไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันความคิดของตนได้
ตารางเวลาบนเรือในช่วงกลางวันของวันนี้ไม่มีกิจกรรมอื่นใดเป็นพิเศษ เป็นช่วงเวลาที่ว่างเว้นไว้ให้เหล่าบรรดาแขกผู้มีเกียรติที่มาเยือนยังเรือลำนี้ได้พักผ่อนหย่อนใจและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศการล่องเรือ แขกทุกคนสามารถกินลมชมวิวกันได้ตามอัธยาศัยพร้อมกับอาหารและเครื่องดื่มที่จะมีบริกรคอยบริการให้ถึงห้องพัก จากนั้นช่วงค่ำจึงจะเป็นเวลาสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ที่จะจัดขึ้น
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเฉิน”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเฉิน”
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
ทันทีที่เดินออกมาจากชั้นโดยสาร เฉินอันหลานก็ได้รับเสียงกล่าวทักทายจากพนักงานบนเรือตลอดทาง เขาเองก็ทักทายคนเหล่านั้นกลับไปบ้างตามมารยาท เฉินอันหลานเดินตรงไปเรื่อยๆจนมาถึงบริเวณดาดฟ้าของเรือ เขาเลือกที่จะนั่งลงตรงโต๊ะที่อยู่บริเวณริมๆเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจและเลือกหยิบเครื่องดื่มเบาๆอย่างน้ำชาจากรถเข็นที่บริกรนำมาเสิร์ฟ เฉินอันหลานชมวิวทิวทัศน์ไปพลางและจิบชาไปพลางอย่างสบายอารมณ์ เขานั่งผ่อนคลายไปกับบรรยากาศบนเรือเพื่อกวาดเอาความรู้สึกหม่นหมองที่สะสมอยู่ภายในใจมาหลายวันออกไป
‘ติ๊ด ติ๊ด——’
ในขณะที่เฉินอันหลานกำลังดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่แสนผ่อนคลายอยู่นั้น เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อกับนาฬิกาข้อมือของเขาก็ดังขัดจังหวะขึ้นมา เฉินอันหลานวางแก้วน้ำชาในมือลง เขาล้วงไปหยิบห่วงโลหะขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือออกมาจากในเสื้อสูทและติดมันเข้ากับหลังหูของตัวเอง จากนั้นก็กดรับสายบนนาฬิกาข้อมือเพื่อพูดคุยกับคนที่อยู่ปลายสาย
(พี่อันหลาน สวัสดีตอนเช้าครับ)
“ตื่นเช้าขนาดนี้ มีเรื่องน่าตื่นเต้นดีใจล่ะสิ?”
(ถูกต้อง เมื่อเช้าผมไปซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วครับ อีกสองวันผมก็จะเดินทางไปเมืองหวงกังแล้วล่ะ น่าจะถึงที่โน่นประมาณ 4 – 5 โมงเย็นครับ)
“โอเค ถ้ามาถึงแล้ว เดี๋ยวฉันพาไปหาของอร่อยกินกัน”
(ไม่ต้อง ๆ พ่อกับแม่เตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารติดกระเป๋ามาให้ผมด้วย ถ้าถึงเมืองหวงกัง ผมจะทำอาหารเย็นให้พี่อันหลานทานเองครับ รับรองเลยว่าอร่อยกว่าออกไปทานข้างนอกแน่นอน)
“เอาสิ”
(งั้นผมไม่รบกวนพี่อันหลานแล้ว บ๊ายบายครับ)
เฉินอันหลานแตะลงบนห่วงโลหะนั้น เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ยอมหุบแม้บทสนทนาจะสิ้นสุดไปแล้ว ทันใดนั้นเสียงเยาะเย้ยที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง รอยยิ้มของเฉินอันหลานแข็งค้างและหุบฉับลงในทันที เขาพอจะเดาตัวตนของเจ้าของเสียงได้แม้จะยังไม่ได้เห็นหน้าอีกฝ่าย
เว่ยเชียนเฉิน
“โอ๊ะโอ ไก่อ่อนอย่างนายก็มีแฟนกับเขาด้วยเหรอเนี่ย”
“………..”
“มานั่งดื่มชาเช้าขนาดนี้แสดงว่าไตพร่องไม่ก็น้องชายเสื่อมแน่นอน”
เฉินอันหลานหันกลับไปมองเว่ยเชียนเฉินที่เดินลอยหน้าลอยตาถากถางเขามาแต่ไกล ตามมาด้วยหมิงจวงที่เดินขนาบข้างมาโดยไม่พูดไม่จา คนหนึ่งพูดได้น้ำไหลไฟดับส่วนอีกคนก็เงียบราวกับป่าช้า คนหนึ่งชอบทำตัวไร้สาระแต่อีกคนกลับชอบทำหน้าเคร่งขรึมอยู่เสมอ ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริง ๆ
เมื่อเดินมาถึงโต๊ะที่เฉินอันหลานนั่งอยู่ เว่ยเชียนเฉินก็ลากเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างมานั่งอย่างถือวิสาสะ ใบหน้าไร้ยางอายนั้นยื่นเข้ามาใกล้เฉินอันหลานจนใบหน้าแทบจะชนกัน
เฉินอันหลานขมวดคิ้วพร้อมกับเอียงหน้าเล็กน้อยเพื่อหลบการประชิดตัวของเว่ยเชียนเฉินไปด้านข้าง
เว่ยเชียนเฉินยังคงยื่นหน้าเข้าไปใกล้เฉินอันหลานราวกับต้องการสำรวจใบหน้านั้นให้ทั่วทุกซอกทุกมุม ไฝสักเม็ดก็ไม่ให้หลุดรอด ไร้ซึ่งความเกรงใจโดยสิ้นเชิง
“นายเอาหน้าออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม?” เฉินอันหลานพูดขึ้นด้วยความไม่สบอารมณ์
“ไม่ชอบเหรอ?” เว่ยเชียนเฉินกระตุกยิ้มออกมาด้วยความเยาะเย้ยถากถาง หลังจากนั้นก็ยื่นมือออกไปด้วยความรวดเร็วเพื่อหวังจะสัมผัสใบหน้าของเฉินอันหลาน เฉินอันหลานตอบสนองต่อการกระทำนั้นโดยอัตโนมัติ เขาถอยร่นออกไปด้านหลังอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณของตน เว่ยเชียนเฉินที่เห็นท่าทางตอบสนองของอีกฝ่ายก็หัวเราะออกมาทันที
“ดูเหมือนนายจะไม่ได้ใจกล้าอย่างที่คิดสินะ”
เฉินอันหลานกวาดตามองไปทางหมิงจวงที่ยืนอยู่ด้านหลังเว่ยเชียนเฉิน ใบหน้านิ่งเฉยไม่แสดงความยินดียินร้าย แม้เห็นคู่หูของตัวเองล่วงเกินผู้อื่นแต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด ทำราวกับไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น หรือว่าเขาจะเห็นเป็นเพียงละครลิงของคนตรงหน้าเท่านั้นกัน
“เสี่ยวหมิงหมิง ไอ้ไก่อ่อนนี่จ้องนายเขม็งเชียว หรือว่าเขาจะหลงเสน่ห์ของนายเข้าแล้วล่ะ?” เว่ยเชียนเฉินที่สังเกตเห็นสายตาของเฉินอันหลานมองไปอีกทาง จึงได้จังหวะหันไปแกล้งหมิงจวงในทันที
หมิงจวงไม่ได้สนใจเว่ยเชียนเฉิน แต่ดวงตาคู่นั้นกลับกำลังจ้องมองไปทางเฉินอันหลาน
ดูเหมือนว่า ‘ไอ้ไก่อ่อน’ ของเพื่อนเขาจะไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
และแล้วในวินาทีต่อมาหลังจากคำพูดของเว่ยเชียนเฉิน หัวเข่าของเฉินอันหลานก็กระทุ้งเข้าบริเวณหว่างขาของชายหนุ่มเต็มแรงภายในชั่วพริบตาเดียว เว่ยเชียนเฉินร้องตะโกนดังลั่นด้วยความเจ็บปวด เขาทรุดตัวลงกับพื้นและกุมน้องชายของตนที่ถูกทำร้ายเมื่อสักครู่พร้อมกับเหงื่อเย็นเฉียบที่ผุดขึ้นมาเต็มหน้าผาก เว่ยเชียนพยายามร้องตะโกนให้หมิงจวงแก้แค้นให้กับตน แต่นอกจากไม่ทำอะไรอีกฝ่ายแล้ว คู่หูเขายังทำเพียงยืนนิ่งมองมาและปล่อยให้เขากลายเป็นตัวตลกของผู้คนอยู่เช่นนั้น
เห็นดังนั้นเว่ยเชียนเฉินจึงฝืนความเจ็บปวดลุกยืนขึ้นและล้วงปืนออกมาด้วยความโกรธพร้อมกับเล็งมันไปทางศีรษะของเฉินอันหลาน
“ไอ้โง่ เก็บปืนเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“มันทำให้ฉันเกือบเป็นหมัน ฉันจะเป่าหัวมัน!”
เว่ยเชียนเฉินใบหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความโกรธหรือความเจ็บปวดกันแน่ แต่ไม่นานเขาก็ตัดสินใจลดปืนในมือลงและเลือกที่จะฟังคำของหมิงจวง เว่ยเชียนเฉินเก็บปืนด้วยความไม่สบอารมณ์ เขายืนกัดฟันกรอดและหันไปถลึงตาใส่เฉินอันหลาน
หมิงจวงไม่ได้สนใจเว่ยเชียนเฉินอีก สายตาของเขามองข้ามเว่ยเชียนเฉินไปยังเฉินอันหลาน ก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“นายชื่ออะไร?”
“เฉินอันหลาน”
“แซ่เฉิน?”
หมิงจวงเสียงต่ำลง จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
“ฉันไม่สนว่ามันจะแซ่เฉินหรือแซ่เฮงซวยอะไร แต่วันนี้ฉันต้องได้เอาเลือดหัวมันออก ปืนไม่ได้ก็ขอสักหมัดเถอะ!” เว่ยเชียนเฉินร้องเอะอะโวยวายขึ้น และทำท่าจะพุ่งเข้าไปหาเฉินอันหลานทันที
หมิงจวงที่มือไวจึงรีบคว้าแขนเพื่อนเอาไว้และลากคนอารมณ์ร้อนกลับมา จากนั้นกระซิบข้างหูของเว่ยเชียนเฉิน แม้ว่าจะโกรธอยู่ก็ตามแต่เว่ยเชียนเฉินกลับยอมสงบลงอย่างรวดเร็วและเดินตามหมิงจวงลงจากดาดฟ้าไป
เฉินอันหลานที่มองเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเว่ยเชียนเฉิน ทำได้เพียงหรี่ตามองตามทั้งสองคนที่เดินจากไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย

คอมเมนต์

Chapter List