ย้อนเวลามาเป็นท่านอ๋องน้อย ตอนที่ 1-4
เล่มที่ 1 บทที่ 4 สะใภ้ม่ายกับอาเล็ก
หลี่ลั่วที่อายุเพียงห้าขวบจูงท่านย่าหลี่เข้าไปในห้อง จากนั้นใช้ใบหน้ากลมดั่งซาลาเปาของเขาพูดด้วยความสุขุมว่า “ท่านย่า ท่านอายุมากแล้ว และเพื่อเลี้ยงดูคนทั้งครอบครัว ท่านจึงมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก แม้ว่าเสี่ยวเป่าเอ๋อร์จะอายุยังน้อย แต่ก็ไม่อยากให้ท่านย่าต้องตกระกำลำบากอีกแล้ว”
ท่านย่าหลี่ได้ฟังคำพูดกตัญญูของหลานตัวน้อยแล้วก็พลันน้ำตานองหน้า หญิงชราที่ในเวลาปกติเป็นคนดุร้ายและเฉียบแหลม แต่ในบ้านไม่มีผู้ชายที่สามารถเป็นเสาหลักให้พึ่งพิงได้แม้แต่คนเดียว ทำให้การดำเนินชีวิตนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก
เรี่ยวแรงของผู้หญิงนั้นมีน้อย ถึงแม้จะทำงานได้หากแต่ว่าช่างลำบากเหลือแสน
“เสี่ยวเป่าเอ๋อร์ หลานรักคนดีของข้า ขอเพียงเจ้ามีอนาคตที่ดี ต่อให้ย่าต้องลำบากกว่านี้ย่าก็ยอม” ท่านย่าหลี่โอบกอดหลี่ลั่วไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับสะอึกสะอื้นกล่าวคำ
“แต่หากท่านย่ามิยินยอมให้ข้าไป ข้าก็หาขัดขืนได้ไม่ ผู้ที่มาจากเมืองหลวงนั้นเป็นขุนนางใหญ่ ถึงอย่างไรข้าจำต้องถูกพาตัวไปอยู่ดีขอรับ” หลี่ลั่วอธิบายกับท่านย่าหลี่อย่างอดทน ตั้งแต่เขาลืมตาดูโลกก็อยู่ในครอบครัวนี้ ไม่ว่าครอบครัวนี้จะยากจนข้นแค้นสักเพียงใด หญิงชราท่านนี้กลับดีกับเขาจากหัวจิตหัวใจของนาง “ท่านย่า ครอบครัวของเรายากจนเหลือเกิน ขาของท่านลุงรองมิได้รักษาเยียวยาให้หายดี ท่านอาเล็กตอนนี้อายุมากขึ้น สมควรแก่เวลาที่จะแต่งภรรยาเข้ามา ท่านอาหญิงเล็กก็เช่นเดียวกัน ถึงเวลาต้องออกเรือนแล้ว”
“แต่…แต่ว่า…” ท่านย่าหลี่พูดไม่ออก ไม่มีเงินทองรักษาขาของลูกชาย ไม่มีเงินทองให้ลูกชายแต่งภรรยา ส่วนลูกสาวนั้นแต่งออกไป นางจึงไม่คิดจะเอาใจใส่ แต่ทว่าสำหรับบุตรชายนั้นต่อให้ไม่ได้ดีอย่างไรก็เป็นชีวิตจิตใจของนาง
หลี่ลั่วกอดท่านย่าหลี่ไว้พร้อมกับค่อยๆ แจกแจงเหตุผล “ท่านย่า ข้าคิดดูแล้ว ข้าไปเมืองหลวงกับท่านขุนนางใหญ่ ข้าอยู่เมืองหลวงจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้ดี จะได้มีอนาคตที่ดี หากเรียนหนังสือกับท่านตา นั่นคือไร้อนาคต ข้าจะให้ท่านขุนนางให้เงินท่านย่าไว้จำนวนหนึ่ง เมื่อมีเงินแล้ว ท่านย่าสามารถรักษาโรคให้กับท่านลุงรองได้ ถึงแม้ท่านอาเล็กจะได้รับบาดเจ็บที่สมอง แต่ท่านอาเล็กยังคงทำงานได้ เมื่อมีเงินแล้ว ท่านย่าก็แต่งภรรยาที่มีนิสัยซื่อสัตย์สักคนให้ท่านอาเล็ก ต่อไปยังต้องกลัวว่าจะไม่มีหลานชายตัวอวบอ้วนอีกหรือ?”
“นี่…” เดิมท่านย่าหลี่นั้นเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ง่ายและก็ชอบความได้เปรียบผู้อื่น คำพูดของหลี่ลั่วฟังแล้วมีเหตุผลน่าเชื่อถืออยู่หลายส่วน บุตรชายของนางสมองไม่ปกติเป็นโรคประสาท แต่ทว่ายังคงเป็นผู้ชายนี่นา ต่อไปลูกสะใภ้ก็สามารถให้กำเนิดหลานชายแก่นางได้มิใช่หรือ?
“ส่วนท่านอาหญิงเล็กสามารถหาคนที่มีนิสัยซื่อสัตย์แต่งเขยเข้าบ้าน [1] ขอเพียงแค่มีความซื่อสัตย์ นอกจากทำงานได้แล้วยังกตัญญูต่อท่านย่า เมื่อเป็นเช่นนี้ก็นับว่าครอบครัวของพวกเรามีผู้ชายแล้วมิใช่หรือ ผู้ชายสามารถทำงาน มิต้องกลัวว่าจะต้องให้เขามากินข้าวพวกเราโดยเสียเปล่า” หลี่ลั่วกล่าวเหตุผลต่อ
“แต่…แต่ว่าพวกเขาจะยอมให้เงินพวกเราหรือ?” ท่านย่าหลี่กำลังคิดถึงการใช้ชีวิตอย่างที่หลี่ลั่วเอ่ยถึง ลูกชายแต่งลูกสะใภ้เข้ามา ให้กำเนิดหลานชายตัวอ้วน บุตรสาวแต่งบุตรเขยเข้าบ้าน ต่อไปยังช่วยครอบครัวทำงาน แต่งบุตรเขยเข้าบ้านย่อมมิต้องการเงิน ชีวิตเช่นนี้ไม่เลวเลยจริงๆ แต่ว่าลูกสะใภ้ของบุตรชายจะหาได้อย่างไรเล่า? ทันใดนั้น ท่านย่าหลี่ก็คิดถึงลูกสะใภ้ของลูกชายคนที่สี่ เจ้าสี่ตายไปแล้ว ภรรยาของเขาเป็นม่ายและยังไว้ทุกข์อยู่ ถ้าเช่นนั้นก็พอเหมาะพอเจาะกับบุตรชายที่สติไม่ดีของนาง
อย่างนี้ครอบครัวของนางก็ไม่ต้องเสียสินสอดเพื่อแต่งสะใภ้แล้ว ถึงแม้ว่าภรรยาของเจ้าสี่จะไม่บริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่นางเพียงแต่เป็นฟักที่เจ้าสี่ผ่าแล้วเท่านั้น [2] เมื่อมาจับคู่กับบุตรชายที่สติไม่ดีของนางก็น่าจะพอไปได้
หลี่ลั่วคิดว่าตนเองนั้นสามารถกล่อมท่านย่าหลี่ได้ ทว่ากลับไม่รู้เลยว่าท่านย่าหลี่กำลังมีความคิดอย่างอื่นกับมารดาอุปถัมภ์ของเขา
“ให้เงินแน่นอน ที่สำคัญท่านย่าก็รักและเอ็นดูข้าถึงเพียงนี้ เลี้ยงข้ามาเป็นเวลาหลายปี ท่านย่าโปรดวางใจ หลังจากที่ข้าเดินทางไปพร้อมกับพวกเขา ข้าจะกลับมาเยี่ยมท่านย่าปีละหนึ่งครั้ง รอให้ข้าเติบโตก่อน ข้าก็จะมารับท่านย่าไปเสวยสุขด้วยกัน” เมื่อเห็นว่าท่านย่าหลี่เริ่มอ่อนไหว หลี่ลั่วจึงกล่าวเหตุผลต่อไป
ในความเป็นจริงแล้วคนที่มาจากเมืองหลวงสามารถพาตัวหลี่ลั่วไปได้ในทันที แต่ทว่าเขาไม่อยากจะทำร้ายจิตใจของหญิงชราจนเกินไป
ท่านย่าหลี่นั้นเป็นคนที่มีไหวพริบฉับไวยิ่งนัก นางรักและเอ็นดูหลี่ลั่ว ทว่าชาติกำเนิดของหลี่ลั่วถูกเปิดเผยแล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าหากว่าเจ้าสี่สามารถแต่งภรรยาแล้วให้กำเนิดหลานชายที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของนางเองขึ้นมาอีกคน แน่นอนว่าท่านย่าหลี่ยิ่งมีความสุข
หากหลี่ลั่วยังอยู่ที่นี่ ให้ภรรยาของเจ้าสี่แต่งกับบุตรชายที่สติไม่ดีของนาง มันจะกลายเป็นเรื่องไม่เหมาะสมเท่าไรนัก แต่ถ้าหลี่ลั่วไปเมืองหลวงกับท่านขุนนาง สะใภ้ม่ายกับอาเล็กในบ้าน เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าบ้านอื่นจะไม่มี
“ถ้าเช่นนั้นเขาจะให้เงินทองแก่ครอบครัวเราเป็นจำนวนเท่าไรหรือ?” หลังจากที่ท่านย่าหลี่คิดตก ก็หันมาให้ความสนใจกับเรื่องเงินทองเสียแล้ว
——————–
[1] แต่งเขยเข้าบ้าน ธรรมเนียมปฏิบัติของชาวจีนนั้นลูกสาวเมื่อแต่งงานแล้วต้องออกจากบ้านจึงเรียกว่าออกเรือน แต่ในกรณีที่ครอบครัวฝ่ายหญิงเป็นลูกสาวคนเดียวหรือมีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวเดิม ก็จะมีประเพณีแต่งเขยเข้าบ้าน โดยต้องเจรจากันอย่างชัดเจนก่อนแต่งงาน
[2] ฟักที่ผ่าไปแล้ว คนจีนใช้เปรียบเปรยสตรีที่เคยผ่านการแต่งงานและเสียพรหมจรรย์ไปแล้ว มิใช่หญิงสาวบริสุทธิ์
คอมเมนต์