ย้อนเวลามาเป็นท่านอ๋องน้อย ตอนที่ 1-8

Reader Settings

Size :
A-16A+

เล่มที่ 1 บทที่ 8 สมาชิกของบ้านสกุลหลี่

ฮูหยินใหญ่จากจวนจงกั๋วกงที่จี้หมัวมัวเอ่ยถึงนั้นก็คือหลี่หลินซื่อ นางเป็นลูกสะใภ้ของหลี่เนี่ยนเซียนผู้ซึ่งเป็นพี่ชายของหลี่เนี่ยนจู่ ท่านปู่หลี่ หลี่เนี่ยนจู่นั้น เป็นบุตรซึ่งถือกำเนิดจากอนุภรรยา ส่วนหลี่เนี่ยนเซียนเป็นบุตรซึ่งถือกำเนิดจากภรรยาเอก หลังจากที่ท่านปู่หลี่เนี่ยนเซียนได้รับตำแหน่งจงกั๋วกงจึงได้แยกเรือนออกมาอยู่ต่างหาก
เหล่ากั๋วกงและเหล่ากั๋วกงฮูหยินนั้นรักใคร่ปรองดองกันยิ่งนัก ตลอดชีวิตมีเพียงบุตรชายสองคนและบุตรีหนึ่งคน บุตรชายคนโต หลี่เนี่ยนเซียน คือจงกั๋วกงคนปัจจุบัน เมื่อยามที่เหล่ากั๋วกงฮูหยินตั้งครรภ์ นางได้ให้สาวใช้ข้างกายไปปรนนิบัติเหล่ากั๋วกง คาดมิถึงว่าครรภ์ของสาวใช้จะได้ดีเช่นนี้สาวใช้นางนั้นให้กำเนิดบุตรชายซึ่งก็คือหลี่เนี่ยนจู่ แล้วยังมีบุตรีอีกคนที่ถือกำเนิดจากเหล่ากั๋วกงฮูหยิน มีนามว่าหลี่เนี่ยนจิ้ง บุตรีคนโตแห่งจวนจงกั๋วกงผู้นี้ออกเรือนไปกับครอบครัวที่ดี สามีของนางคือซื่อจื่อ [1] แห่งจวนเหรินเซียงโหว [2] ตอนนี้นางดำรงตำแหน่งเป็นเหล่าไท่จวิน [3] แห่งเหรินเซียงโหว
จงกั๋วกงฮูหยินและหลี่หยางซื่อนั้นปกติไปมาหาสู่กันน้อยมาก เนื่องจากมีลำดับอาวุโสต่างกัน ดังนั้นเมื่อมีเทียบเชิญจากอีกฝ่ายมาถึงตนผ่านหลี่หลินซื่อสะใภ้ของนางแล้วนั้น หลี่หยางซื่อจึงไม่กระจ่างแจ้งนัก
หลี่หยางซื่อเอ่ยกับจี้หมัวมัว “ส่งเทียบตอบกลับไป เรียนท่านป้าให้ทราบว่าพรุ่งนี้ข้าจะไป หลินเอ๋อร์จะไปกับข้าด้วย”
“เจ้าค่ะ” จี้หมัวมัวปลีกตัวลงไปจัดการทันที
“ท่านแม่ ลูกไม่อยากไปเจ้าค่ะ” หลี่หลินดึงมือหลี่หยางซื่อ
หลี่หยางซื่อตบมือลูกสาวของตนเบาๆ “เจ้าอายุขนาดนี้แล้ว ย่อมต้องทาบทามเรื่องคู่ครอง” เหตุใดนางจะไม่ทราบว่าลูกสาวของตนนั้นเป็นเด็กที่ใสซื่อยิ่งนัก
“ท่านแม่ ลูกไม่อยากออกเรือน ลูกอยากเป็นสาวแก่ อยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ไปตลอดชีวิตเจ้าค่ะ”
“เพ้ยๆๆ พูดจาเหลวไหล” หลี่หยางซื่อตบปากหลี่หลินเบาๆ “แม่ยังคอยอุ้มหลานจากเจ้าอยู่”
ในจวนจงหย่งโหวมีทั้งหมดสี่ครอบครัว
เรือนหลักคือเรือนของจงหย่งโหว เป็นเรือนที่ใหญ่ที่สุดในจวนโหว ตำแหน่งที่ตั้งย่อมเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดเช่นกัน หลังจากที่หลี่ซวี่ถึงแก่กรรม เรือนหลักจึงว่างมาโดยตลอด ฮ่องเต้มีราชโองการเป็นคำสั่งออกมา ตำแหน่งจงหย่งโหวนั้นให้บุตรชายคนเล็กที่หายสาบสูญไปของหลี่ซวี่เป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง ดังนั้นเรือนหลักจึงยังคงว่างเรื่อยมา
ส่วนเรือนว่านโซ่วคือเรือนที่หลี่ไท่เหฺย [4] และภรรยาใหม่หลี่เหล่าไท่ไท่ [5] อาศัยอยู่
ครอบครัวทั้งสี่แบ่งเป็น หลี่ซวี่หนึ่งครอบครัว หลี่ฮุย บุตรชายคนโตจากอนุภรรยาหนึ่งครอบครัว หลี่ฮ่าว บุตรชายคนที่สามจากภรรยาเอกคนที่สอง หนึ่งครอบครัว แล้วยังมีอีกหนึ่งครอบครัวที่ถือกำเนิดจากหลี่เหล่าไท่ไท่กับสามีคนก่อน ซึ่งก็คือสกุลหยวน
หลี่ซวี่ได้รับการแต่งตั้งเป็นท่านโหวเมื่อมีอายุได้สามสิบเอ็ดปี ในเวลานั้นพี่ชายคนโตที่เป็นซู่จื่อ [6] ในวัยสามสิบห้าปีสอบผ่านเป็นบัณฑิตแล้วไปรับราชการอยู่บ้านนอก ส่วนน้องชายต่างมารดาอายุยี่สิบเจ็ดปีสอบได้ซิ่วไฉ และได้ใช้เงินซื้อตำแหน่งขุนนาง ตามกฎหมายของราชวงศ์สำหรับขุนนางที่ไปประจำที่ชายแดนจะเป็นขุนนางขั้นที่แปดและขั้นที่เก้าเนื่องจากต้องการคุณสมบัติไม่สูงมากนัก อีกทั้งตอนนั้นบุตรชายที่มารดาใหม่ให้กำเนิดกับสามีคนแรกนั้นก็อาศัยอยู่ที่บ้านบิดาของเขาเอง ดังนั้นหลี่ไท่เหฺยและหลี่เหล่าไท่ไท่จึงอาศัยช่วงที่หลี่ซวี่ไม่อยู่ ใช้คำว่ากตัญญูย้ายเข้ามาอาศัยในจวนจงหย่งโหว
ในเวลานั้นหลี่ซวี่อยู่ซีเป่ย
ต่อมาหลี่ซวี่ตายไป หลี่ฮุยซึ่งไปรับราชการที่บ้านนอกครบกำหนดวาระของตำแหน่งจึงเดินทางกลับมายังเมืองหลวง เมื่อกลับมาแล้วเขาก็ได้มาอาศัยอยู่ในจวนจงหย่งโหว แล้วต่อมาหลี่ฮ่าวก็ได้กลับมาเมืองหลวงอีกเช่นกัน และเมื่อปีที่แล้ว สกุลหยวนที่เดินทางมาเมืองหลวงเพื่อทำการค้าก็ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในจวนจงหย่งโหวด้วย
ต่อให้หลี่หยางซื่อมิยินยอม แต่เมื่อเหล่าไท่ไท่เอ่ยปาก คำว่ากตัญญูที่กล่าวออกมาก็ทำให้นางสิ้นหนทางที่จะปฏิเสธ
เหตุใดหลี่ไท่เหฺยจึงแต่งหญิงม่ายเป็นภรรยาใหม่น่ะหรือ นั่นก็เป็นเพราะว่าถึงยามนั้นฐานะของเหล่าไท่ไท่จะเป็นหญิงม่าย แต่ทว่านางมีหน้าตางดงามไม่ธรรมดาสามัญ แล้วยังเป็นคุณหนูแห่งจวนชิ่งป๋อ [7] อีก ในเวลานั้นหลี่ไท่เหฺยมีอายุเพียงยี่สิบกว่าปี รั้งตำแหน่งเพียงขุนนางขั้นห้า ความทะเยอทะยานของเขานั้นไม่ใช่น้อย ดังนั้นจึงยอมแต่งงานกับหญิงม่าย
หลี่ไท่เหฺยในปัจจุบันเป็นขุนนางขั้นสาม ครึ่งปีหลังมีความคิดอยากจะเป็นขุนนางตำแหน่งราชเลขาธิการ [8] หากไม่สามารถเข้าเป็นขุนนางตำแหน่งราชเลขาธิการได้ เช่นนั้นรอจนถึงวันที่จะเกษียณอายุราชการ เส้นทางขุนนางของเขาก็จะหยุดอยู่ที่นั่น
มีชาติกำเนิดเป็นซู่จื่อ แต่กลับสามารถเดินหน้ามาได้ถึงขั้นนี้ ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
ปีนี้หลี่ฮุยมีอายุสี่สิบเอ็ดปี เป็นขุนนางขั้นสี่ มีหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบควบคุมและดูแลสถาบันการศึกษาแห่งแคว้น สถาบันการศึกษากั๋วจื่อเจียน
ส่วนหลี่ฮ่าวนั้นไม่เป็นโล้เป็นพาย
พูดขึ้นมาแล้วครอบครัวของท่านปู่หลี่มีจิ้นซื่อถึงสองคน และยังมีท่านโหวแห่งจวนจงหย่งโหว เท่านี้ก็ถือว่าอนาคตรุ่งเรืองมากแล้ว ผนวกกับยังมีจวนกั๋วกงหนุนอยู่เบื้องหลังอีก ถึงแม้ว่าจะแยกครอบครัวออกมาแล้ว แต่สกุลหลี่ก็ยังถือได้ว่าเป็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่ง
หลี่ฮุยในฐานะบุตรชายคนโต ถึงแม้มารดาผู้ให้กำเนิดจะเป็นเพียงอี๋เหนียง แต่หลี่ไท่เหฺยกลับให้ความสำคัญกับเขามาก ในใจของหลี่ไท่เหฺยนั้น ตี๋และซู่ไม่แบ่ง เพราะเขาเองก็เป็นซู่จื่อโดยกำเนิด และหลี่ฮุยเป็นบุตรชายคนแรกของเขา จึงเป็นบุตรชายที่เขาทุ่มเททั้งกำลังกายกำลังใจมากที่สุด มีหลี่ฮุยเป็นดังไข่มุกงามหยกเนื้อดีอยู่เบื้องหน้า ส่วนหลี่ซวี่นั้นไม่ชอบเรียนหนังสือ ทั้งยังมีอุปนิสัยเป็นคนปากหนัก ถือได้ว่าเป็นบุตรชายของภรรยาเอกที่เอาแต่ทำตัวดื้อรั้นทั้งวัน ทำให้หลี่ไท่เหฺยไม่โปรดปราน
ภรรยาของหลี่ฮุยเป็นหลานสาวของหลี่เหล่าไท่ไท่ ถึงแม้ว่านางจะเป็นบุตรีซึ่งถือกำนิดจากอนุภรรยาเหมือนกันก็ตาม ครั้งนั้นที่หลี่เหล่าไท่ไท่ทาบทามการแต่งงานให้หลี่ฮุยก็เพราะมีจุดประสงค์เพื่อต้องการควบคุมเขาเอาไว้ในมือ แต่ผู้หญิงเรานั้นเมื่อแต่งให้กับชายใดจิตใจย่อมมีการเปลี่ยนแปลง หลังจากมีบุตรด้วยกัน ย่อมยืนอยู่ข้างสามีตัวเอง หลานสาวของหลี่เหล่าไท่ไท่คนนี้ถือได้ว่าเป็นคนที่มีไหวพริบยิ่งนัก ขอเพียงเอ่ยปากพูดจาล้วนมีแต่คนชมชอบที่จะฟัง
หลี่ฮุยและภรรยารักกันดียิ่ง ดูไปแล้วเหมือนจะเพื่อเป็นการเห็นแก่หน้าของหลี่เหล่าไท่ไท่ เขาไม่รับอนุภรรยา ทั้งสองคนมีบุตรชายสองคน บุตรสาวหนึ่งคน บุตรชายคนโตคือ หลี่เวิน เป็นหลานชายคนโตของหลี่ไท่เหฺย เป็นที่รักและเอ็นดูของหลี่ไท่เหฺย ปีนี้มีอายุยี่สิบสามปี บุตรชายคนที่สองคือ หลี่ฉือ ปีนี้มีอายุสิบแปดปี บุตรสาวคนเล็กคือ หลี่หม่าน ปีนี้มีอายุสิบห้าปี ยังมิได้ออกเรือน
เพียงแค่หลี่ฮุยเข้าประตูบ้านมา หลี่จางซื่อ ภรรยาของเขาก็รีบกุมมือของเขาแล้วส่งเสียงกระซิบกระซาบ “วันนี้ข้าไปเรือนของท่านแม่มา ได้ยินนางคุยกับเหอหมัวมัวที่อยู่ข้างกายว่าจะนำหลี่เฉาไปให้บ้านนั้นเลี้ยง”
—————————-
[1] ซื่อจื่อ (世子) หมายถึง บุตรชายของ ชินอ๋อง อ๋อง โหวเหฺย ที่จะทำหน้าที่สืบทอดบรรดาศักดิ์จากบิดา โดยมากจะเป็นบุตรชายคนโต หรืออาจจะไม่ใช่บุตรชายคนโตก็ได้ หากบิดาตั้งใจจะให้บุตรชายคนรองหรือที่ไม่ใช่คนโตมารับสืบทอดบรรดาศักดิ์
[2] จวนเหรินเซียงโหว (仁乡侯) ในที่นี้หมายถึงครัวครัวที่หลี่เนี่ยนจิ้งแต่งเข้าไป เหรินเซียงโหว เป็นบรรดาศักดิ์ของซื่อจื่อของจวน
[3] เหล่าไท่จวิน (老太君) ในสมัยราชวงศ์ถัง คือยศหรือบรรดาศักดิ์ที่ฮ่องเต้พระราชทานแก่มารดาพระญาติสนิท หรือมารดาขุนนางที่มีความชอบ เช่น มารดาของขุนศึกตระกูลหยาง ในที่นี้คือหลี่เนี่ยนจิ้งมีตำแหน่งเป็นมารดาของเหรินเซียงโหวคนปัจจุบัน
[4] ไท่เหฺย (太爷) หมายถึง คำที่เรียกใช้แทนคำว่าท่านปู่ ในที่นี้คือปู่หลี่เนี่ยนจู่ ปู่ของหลี่ลั่ว และยังหมายถึง คำที่ข้ารับใช้ในบ้านเรียกเจ้าของบ้านฝั่งผู้ชายด้วยความเคารพ
[5] เหล่าไท่ไท่ (老太太) หมายถึง คำที่ใช้เรียกหญิงสูงวัย หรือคำที่หลานๆ เรียกมารดาของท่านปู่
[6] ซู่จื่อ (庶子) หมายถึงบุตรชายที่ถือกำเนิดจากอนุภรรยา หากเป็นบุตรชายที่เกิดภรรยาเอกจะเรียกว่า ตี๋จื่อ (嫡子) ในสมัยจีนโบราณมีการแบ่งแยกปฏิบัติต่อตี๋และซู่ชัดเจนมาก
[7] จวนชิ่งป๋อ (庆伯府) หมายถึง ครอบครัวเดิมของหลี่เหล่าไท่ไท่ ซึ่งเป็นขุนนางขั้นป๋อ หากหลี่ไท่เหฺยผู้ซึ่งเป็นขุนนางขั้นห้าแต่งนางเข้ามาจะได้รับแรงสนับสนุนจากขุนนางขั้นป๋อฝั่งภรรยา
[8] ตำแหน่งราชเลขาธิการ (内阁) มีหน้าที่กราบทูลเสนอฎีกาของบรรดาเสนาบดีให้ฮ่องเต้ทรงอนุมัติ

คอมเมนต์

Chapter List