ย้อนเวลามาเป็นท่านอ๋องน้อย ตอนที่ 1-18

Reader Settings

Size :
A-16A+

เล่มที่ 1 บทที่ 18 เข้าอยู่อาศัยในเรือน

“ลูกยังมิได้คิดเลยขอรับ อยากจะรบกวนมารดาชี้แนะให้” หลี่ลั่วไม่ได้คิดและตัดสินใจไว้จริงๆ
หลี่หยางซื่อพูดพร้อมกับระบายรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า “เจ้าไม่ได้เติบโตอยู่ในจวนตั้งแต่วัยเยาว์ ดังนั้นจึงยังมิได้เข้าสู่ผังสกุล วันนี้ฝ่าบาททรงพระราชทานชื่อให้เจ้า พรุ่งนี้เจ้าจะต้องเข้าผังสกุลและไปทำพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษ เพียงแต่ว่าศาลเจ้าบรรพชนของสกุลหลี่อยู่ที่จวนจงกั๋วกง หัวหน้าตระกูลคือพี่ชายคนละแม่ของท่านปู่เจ้า ซึ่งก็เป็นท่านปู่ใหญ่ของเจ้า และท่านย่าใหญ่ของเจ้านั้นเป็นผู้ที่สวดมนต์เป็นประจำ สร้อยประคำเส้นนั้นมอบให้แก่นางเจ้าคิดว่าดีหรือไม่?”
“ดีขอรับ” มันเหมาะสมดีแล้วจริงๆ มอบให้จงกั๋วกงฮูหยิน ต่อไปหากมีเรื่องใดยังพอให้อาศัยไหว้วานได้บ้าง
สำหรับกำไลข้อมือนั้นหลี่หยางซื่อมิได้เอ่ยถึง หลี่ลั่วเองก็มิได้คิดจะมอบให้นางตอนนี้เช่นกัน สำหรับตั๋วเงินจำนวนแปดพันตำลึงนั้นหลี่ลั่วตั้งใจจะเก็บไว้เอง จึงยัดใส่ถุงเงินของตน
จี้หมัวมัวเห็นแล้วตกใจจนสะดุ้ง ตั๋วเงินจำนวนแปดพันตำลึงนี้มิใช่ควรมอบให้ฮูหยินหรอกหรือ? คุณชายหกเก็บไว้เองจะปลอดภัยหรือไม่ นางมองไปที่หลี่หยางซื่อและกำลังจะเอ่ยปาก ทว่ากลับเห็นหลี่หยางซื่อมิได้เอ่ยอันใด นางจึงมิได้พูดอันใดออกมา
“สถานการณ์ในจวนโหวของพวกเรานั้นค่อนข้างซับซ้อน ถึงเวลาพบหน้ากัน แม่ค่อยแนะนำให้เจ้าฟัง จี้หมัวมัวนั้นเจ้ารู้จักแล้ว เพียงแต่ที่นี่คือเรือนชั้นนอก ในยามปกติแม่มาที่นี่บ่อยๆ มิได้ พ่อบ้านที่ดูแลเรือนชั้นนอกคือสามีของจี้หมัวมัว วันนี้ไปรับคนมาจากชนบท ก่อนอาหารเย็นคงจะพากันมาถึง อีกสักครู่เมื่อเขากลับมา ค่อยแนะนำให้เจ้ารู้จัก” หลี่หยางซื่อพูดจบก็หันไปสั่งความกับจี้หมัวมัว
ในเวลาต่อมา จี้หมัวหมัวได้นำข้ารับใช้เข้ามาด้วยหลายคน
“เจ้าเพิ่งจะมาถึง บ่าวรับใช้ในเรือนของเจ้าแม่จึงตัดสินใจแทนเจ้า” หลี่หยางซื่ออธิบาย “จี้หมัวมัว ท่านแนะนำให้คุณชายหกรู้จักสักหน่อย”
“ขอบคุณมารดาขอรับ ต้องลำบากจี้หมัวมัวแล้ว”
“คุณชายหกกล่าวเกรงใจเกินไปแล้วเจ้าค่ะ” จี้หมัวมัวคัดเลือกสาวใช้ออกมาสี่คนก่อน “นี่คือเหนียนหง ซื้อตัว [1] เข้ามาในจวนตั้งแต่อายุสิบขวบ ปีนี้อายุสิบห้าปี ฝีมือเย็บปักถักร้อยของเหนียนหงนั้นดีที่สุดในจำนวนสาวใช้ทั้งหมดนี้ ต่อไปข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของคุณชายหก ยกให้เป็นหน้าที่ของเหนียนหงรับผิดชอบไปนะเจ้าคะ”
“เหนียนหงคารวะคุณชายหกเจ้าค่ะ” เหนียนหงเป็นหญิงสาวผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้านหน้าตางดงาม สาวใช้ที่ถูกจัดให้มาดูแลปรนนิบัติหลี่ลั่วนั้น แน่นอนว่ารูปร่างหน้าตาจะขี้ริ้วมิได้
“นี่คือหยวนโม่ เดิมทีเป็นสาวใช้ในเรือนใหญ่ ได้เคยศึกษาเล่าเรียนหนังสือเป็นเวลาหลายปีกับเรือนเดิม รู้จักตัวหนังสือไม่เลวทีเดียวเจ้าค่ะ”
“หยวนโม่คารวะคุณชายหกเจ้าค่ะ”
“ต่อไปให้หยวนโม่ดูแลห้องหนังสือเถิด” บ่าวรับใช้ในสมัยโบราณนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วแทบจะไม่รู้จักตัวหนังสือ มีบ่าวรู้จักตัวหนังสือคนหนึ่งก็ไม่เลว
“เจ้าค่ะ”
“คนนี้คือลวี่ผิง ปีนี้อายุสิบห้าปีเช่นเดียวกันเจ้าค่ะ” จี้หมัวมัวแนะนำหญิงรับใช้คนสุดท้าย “คนนี้คือผิงอันเจ้าค่ะ เป็นหลานสาวของบ่าวเอง ปีนี้อายุสิบสี่ปีเจ้าค่ะ”
หลานสาวของหมัวมัวข้างกายหลี่หยางซื่อทำหน้าที่ดูแลหลี่ลั่ว ต่างฝ่ายต่างก็จะได้วางใจ เมื่อครั้งที่หลี่หยางซื่อแต่งให้หลี่ซวี่นั้น นางได้พาคนมาด้วยสี่ครอบครัว นอกจากครอบครัวของจี้หมัวมัวแล้ว ยังมีอีกสองครอบครัวที่นางส่งให้ไปดูแลเรือกสวนไร่นา ส่วนอีกครอบครัวหนึ่งอยู่เป็นหูเป็นตาแทนนางในบ้านสกุลหลี่ ซึ่งได้ถูกนางขายทิ้งไปแล้ว จวนโหวเป็นขุนนางใหม่ที่เพิ่งจะได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เมื่อห้าปีก่อน เวลานี้นอกจากครอบครัวของจี้หมัวมัวแล้ว ก็ไม่มีลูกหลานของข้ารับใช้ครอบครัวใดอีก
“แม่ให้เจ้ายืมตัวซินหมัวมัวกับพ่อบ้านจี้ พวกเขาเป็นครอบครัวที่เข้ามาพร้อมกับแม่ตอนที่แม่แต่งเข้ามา ซินหมัวมัวมีหลานชายคนหนึ่ง ปีนี้มีอายุสิบสองปี จะมาปรนนิบัติรับใช้เจ้าด้วย” ขณะที่หลี่หยางซื่อคัดเลือกคนรับใช้นั้นก็คิดใคร่ครวญอย่างละเอียดรอบคอบ อย่างไรหลี่ลั่วกับพวกเขาก็ถือว่ามีเกียรติและหน้าตาร่วมกัน การเลือกข้ารับใช้จึงต้องมีความระมัดระวัง
หลี่ลั่วพยักหน้า “นอกจากหยวนโม่แล้ว พี่สาวอีกสามคนรู้จักตัวหนังสือหรือไม่?”
“บ่าวรู้หนังสือเจ้าค่ะ” ผิงอันตอบ
เหนียนหงและลวี่ผิงส่ายหน้าทั้งคู่
“ถ้าเช่นนั้นพี่ผิงอันรับผิดชอบดูแลห้องทรัพย์สินส่วนตัวของข้าเถิด” หลี่ลั่วหันไปยิ้มให้กับผิงอัน “แต่มีข้อพึงระวังหนึ่งข้อ หากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ห้ามเจ้าเปิดประตูห้องนี้”
“บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ” ผิงอันนั้นตั้งแต่เล็กได้ถูกจี้หมัวมัวและภรรยาของจี้ซิ่นอบรมสั่งสอนเลี้ยงดูมาอย่างดี ด้วยคิดว่าต่อไปอยากจะให้นางได้ออกเรือนไปกับคนดีๆ หากสามารถเป็นสาวรับใช้รุ่นใหญ่ที่ทำหน้าที่ดูแลห้องทรัพย์สินส่วนตัวของโหวเหฺยได้ นี่ถือเป็นเกียรติยิ่ง อีกอย่างโหวเหฺยนั้นยังเป็นเด็กน้อย จึงตัดปัญหาเรื่องความสัมพันธ์เชิงชู้สาวลงได้
ข้ารับใช้คนอื่นๆ ที่ทำงานชั้นแรงงานต่างๆ ได้ทำการแจ้งชื่อและแบ่งงานกันไปตามความเหมาะสม
“มารดาขอรับ ข้าอยากจะซ่อมแซมตกแต่งที่นี่สักเล็กน้อย” หลี่ลั่วไม่ค่อยชอบการตกแต่งของเรือนหลังนี้ บ้านสกุลหลี่ในอดีตนั้นฐานะยากจน ตอนนี้เรือนหลังใหญ่ล้วนเป็นของเขา เขาย่อมอยากให้ตัวเองอยู่อย่างสุขกายสบายใจ
เรื่องนี้หลี่หยางซื่อไม่มีความเห็นใดๆ “เช่นนั้นเจ้าก็ตกแต่งตามที่เจ้าชมชอบ ถึงเวลานั้นก็แจ้งกับทางพ่อบ้านจี้เป็นอันใช้ได้ ระหว่างนี้เจ้าย้ายไปอยู่เรือนของพี่ชายเจ้าเป็นการชั่วคราวก่อน ครอบครัวของเราต่างต้องหวังพึ่งเจ้าสองคนพี่น้องแล้ว”
“ขอบคุณมารดาขอรับ”
“ท่านแม่โปรดวางใจ ข้าจะดูแลน้องชายเป็นอย่างดี”
ต่อมาหลี่หยางซื่อและหลี่หลินก็ออกจากเรือนไป หลี่หงนั้นที่จริงอยากจะอยู่พูดคุยกับน้องชายอีกสักหน่อย ทว่าก็เกรงว่าน้องชายจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง จึงได้แต่กลับเรือนของตนไปอย่างอาลัยอาวรณ์
ระหว่างทางที่เดินกลับเรือน หลี่หยางซื่อได้เอ่ยกับบุตรสาว “น้องหกของเจ้าเพิ่งจะกลับมา แล้วยังให้ปิ่นปักผมสูงค่าเช่นนี้แก่เจ้า เจ้าอย่าลืมให้ของขวัญน้องหกเล่า” จดหมายมาถึงจวนวันนี้ พวกเขาจึงไม่มีเวลาสำหรับเตรียมของขวัญพบหน้า [2]
“ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ ลูกตั้งใจไว้แล้วว่าจะปักถุงเงินให้น้องหกสักหลายๆ ใบ และตัดเสื้อผ้าให้สักหลายๆ ชุด”
“อืม” สำหรับฝีมือเย็บปักถักร้อยของบุตรสาวนั้น หลี่หยางซื่อพอใจมาก จากนั้นจึงหันมาพูดกับหลี่หง “เจ้าตามข้ามา ยังมีอีกเรื่องที่แม่ยังไม่ได้คุยกับเจ้า”
———————-
[1] ซื้อตัว (买进) หมายถึง การซื้อตัวทาสในเรือน จะมีการทำสัญญาซื้อขายทาสในสมัยโบราณ
[2] ของขวัญพบหน้า (见面礼) คือ ธรรมเนียมการให้ของขวัญเมื่อพบหน้ากันครั้งแรก

คอมเมนต์

Chapter List