รักผมมั้ย… หัวใจของคุณ ตอนที่ 2

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 1-2 Exórsus

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เรย์มอนด์คิดว่าไม่ค่อยวุ่นวายมากนัก แถมอากาศก็สดใสมากๆ เรย์มอนด์เดินไปทำงานตอนเช้าใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาทีกว่าจะถึงที่ทำงาน ระหว่างทางมีดอกไม้สวยหลายชนิดส่งกลิ่นหอมชื่นใจเต็มไปหมด ช่างเป็นฤดูที่ตอนเที่ยงมีแสงแดดจ้าเหมาะกับการออกไปข้างนอกเสียจริง
และแม้ว่าในช่วงเข้างานตอนเย็นกับตอนเช้ามืดมีลมพัดเย็น แต่ก็ยังทำให้รู้สึกดี
ช่วงนี้เรย์มอนด์มัวแต่กังวลเกี่ยวกับค่ายายับยั้ง ค่าครองชีพ และค่าเช่าห้องจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย จริงๆ ถึงจะกังวลไปก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
พอไม่มีอะไรทำก็คิดอะไรไร้สาระไปเรื่อยเปื่อยแบบนี้ตลอด
“เรย์~! ลองกินนี่ดูสิ”
เบเนดิกต์ที่ทำงานอยู่ในห้องครัวพอถึงเวลาพักก็วิ่งออกมาทันที แล้วยื่นทาร์ตขนาดเล็กกว่าฝ่ามือให้เรย์มอนด์ ทาร์ตชิ้นนั้นสีม่วงสะดุดตาและโรยด้วยครัมเบิ้ลสีไข่ไก่บาง ๆ
“ทาร์ตเหรอ?”
“อื้ม ทาร์ตทริปเปิ้ลเบอร์รี่น่ะ อีกไม่กี่ขั้นตอนก็จะได้เพิ่มเข้าไปในเมนูของหวานแล้ว”
ถึงฉันจะไม่ได้เป็นคนทำทาร์ตนั่นแต่ว่าก็อดขำออกมาไม่ได้ เพราะปกติเบเนดิกต์มีนิสัยมองโลกในแง่ดีและเป็นกันเอง ไม่ว่าจะในครัวหรือหน้าร้านก็ไม่มีพนักงานคนไหนที่เบเนดิกต์ไม่รู้จัก เขารู้จักแม้กระทั่งคนที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน ดังนั้นถึงแม้ว่าเขามักจะแอบเอาอาหารมาให้เรย์มอนด์ เขาก็ยังสร้างบรรยากาศให้หัวเราะได้เสมอ ด้วยเหตุนี้เรย์มอนด์จึงได้ลองชิมอาหารอยู่เป็นประจำ
พอเรย์มอนด์เอาทาร์ตเข้าปากก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นของเบอร์รี่ที่หอมหวาน ทาร์ตมีลักษณะหนึบๆ และกรุบกรอบเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้นรสชาติไม่หวานไม่เลี่ยนจนเกินไป เมื่อทานคู่กับชาจะทำให้อร่อยยิ่งขึ้นแน่นอน
“เบน ฉันรสนิยมสูงก็เพราะนายเลย”
“ฮ่าๆๆ ถูกปากใช่ไหมล่ะ เชฟคงดีใจแย่เลย”
“เป็นฝีมือของคุณรัสเซลงั้นเหรอ อร่อยดีนะ สมกับเป็นเชฟจริงๆ”
“ว้าว! ถ้าเชฟได้ยินคงดีใจตายแน่ๆ ส่วนทาร์ตชิ้นนี้ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจเอามาให้หรอกนะ พอดีมีคนฝากมาให้นายน่ะ”
“เอ่อ… อื้ม อย่ามาล้อเล่นนะเบน”
“ล้อเล่นอะไรกัน ก็อย่างที่ฉันเคยบอกนายไง หลังจากที่คุณไมเคิล รัสเซลเห็นคนบางคนมาทำงานวันแรก ก็มีใครบางคนถามความเป็นอยู่ของคนนั้นกับฉันเสมอ แถมยังคอยดูแลแม้กระทั่งฉันที่เป็นเพื่อนอีกต่างหาก ที่เป็นขนาดนี้เพราะใครกัน!”
แน่นอนว่าเรย์มอนด์รู้ว่า ‘ใคร’ คนนั้นคือใคร เพราะช่วงนี้รู้สึกถึงสายตาแปลกๆ ที่คอยมองตามตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นตอนที่เข้าไปในห้องครัวหรือตอนที่เข้าร่วมประชุมพนักงาน แม้กระทั่งช่วงพักก็ยังรู้สึก ตอนแรกคิดว่าประสาทการรับรู้ของตัวเองเร็วเกินไป พอบอกเบเนดิกต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ เรย์มอนด์ก็โดนตีหลังดังเพียะ

‘นี่ ไอ้ซื่อบื้อ! พนักงานคนอื่นเขารู้กันหมดยกเว้นนาย ไม่รู้จริงเหรอ’

จริงๆ รู้เรื่องนี้มาได้ 2 อาทิตย์แล้วล่ะ แม้ว่าการที่คนๆ หนึ่งสามารถตกหลุมรักอีกคนตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ก็ตาม แต่เรย์มอนด์ก็ไม่เคยตกหลุมรักใครแรกพบและไม่เคยรักใครด้วย ในตอนที่อยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็คอยดูแลน้องๆ และยุ่งกับการช่วยผู้อำนวยการ หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาตลอด จึงแทบไม่ได้รู้สึกเสียดายความสัมพันธ์รักใคร่ชอบพอกับใครเลย
หลังจากนั้นเป็นต้นมาเรย์มอนด์ก็รู้สึกอึดอัดกับความหวังดีที่มักจะฝากเพื่อนมาบอกแบบนี้รวมถึงสายตาที่คอยมองตลอดเวลาทำให้เรย์มอนด์แทบจะไม่กล้าสู้หน้าคนนั้น เพื่อนของฉันก็อีกคน ทั้งๆ ที่รู้แบบนั้นก็ยังพูดทีเล่นทีจริงทำตัวเป็นพ่อสื่อบอกให้ลองเปิดใจกับคนนั้น
“พอเลยนะ ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ ต่อไปฉันจะไม่รับของนายอีก ไม่สิ รับไม่ได้ต่างหาก”
เรย์มอนด์พูดด้วยสีหน้าเจื่อนๆ เบเนดิกต์ได้แต่ถอนหายใจและตบไหล่เรย์มอนด์เบาๆ
“นายปิดกั้นตัวเองมากไปแล้วนะ แค่มีคนมาบอกชอบนาย นายจำเป็นต้องรู้สึกอึดอัดขนาดนั้นเลยเหรอไง”
“ขอบคุณนะที่มาชอบแต่ว่า… ต่างคนต่างเพิ่งรู้จักกัน ยังไม่รู้จักกันดีพอเลย…”
“นี่! เรื่องแบบนี้พอได้ลองคบเดี๋ยวก็รู้เองแหละน่า เฮ้อ ไอ้ซื่อบื้อ พอๆ ไม่พูดแล้ว”
แต่ถึงอย่างนั้น… เบเนดิกต์ปล่อยมือจากการหยิกริมฝีปากของเรย์มอนด์ที่ตั้งใจจะบ่นพึมพำแก้ตัว แล้วถือจานเปล่าเดินหายเข้าไปในครัว จากนั้นเรย์มอนด์ก็กินทาร์ตที่เหลือจนหมด รสชาติที่เคยอร่อยเมื่อ 3 นาทีที่แล้วตอนนี้มันฝืดคอและกลืนได้อย่างยากลำบาก ร่างบางคิดว่าขนมจานนี้ถ้าไม่ได้กินกับน้ำชาคงไม่อร่อยแน่ๆ
“คุณเกรย์! เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมงกว่าลูกค้าที่จองจะมาถึงนะครับ รบกวนโทรไปคอนเฟิร์มลูกค้าแล้วก็ไปเช็คโต๊ะที่จัดเตรียมไว้อีกรอบนะครับ”
“ได้ครับ ผู้จัดการ”
เรย์มอนด์ยกก้นหนักๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมจัดชุดให้เรียบร้อย จากนั้นเดินไปเคาน์เตอร์เก็บรายชื่อจองโต๊ะ ถึงอย่างไรก็ต้องทำงานต่อไป ต้องทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้จะได้หยุดคิดเรื่องนั้น
“เรย์มอน ยังไม่หมดเวลาพักเลยนะ ออกมาเร็วจัง”
หัวหน้าโทมัสยิ้มและพูดกับเขาที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์ ที่ถามแบบนั้นคงเพราะสงสัยว่าทำไมเรย์มอนด์ถึงออกมาคนเดียวทั้งๆ ที่พนักงานคนอื่นกำลังพักกันอยู่ด้านใน
“เอ่อ ครับ พอดีมันใกล้ถึงเวลาที่ลูกค้าจองไว้น่ะครับ ผู้จัดการบอกให้ผมคอยดูแลความเรียบร้อยครับ”
“งั้นเหรอ ลูกค้าท่านนี้คงต้องดูแลเป็นพิเศษสินะ”
“น่าจะเป็นแบบนั้นครับ เจอแบบนี้ครั้งแรก ผมประหม่าหน่อยๆ เลยครับ”
ความจริงแล้วเรย์มอนด์ได้รับหน้าที่ดูแลโต๊ะที่มีลูกค้าจองมาหลายรอบ แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่ผู้จัดการจะลงมาดูและมาหาเรย์มอนด์ด้วยตัวเองแบบนี้ ทั้งๆ ที่เป็นคนให้ความสำคัญกับเวลาพักมาก
“ฮ่าๆๆ ก็ทำเหมือนปกตินั่นแหละครับ ไม่น่ามีปัญหาอะไรหรอกครับ”
โทมัสที่แสนใจดีแตะไหล่เรย์มอนด์เบาๆ แล้วลุกออกไป โทมัสคงคิดว่าถ้าอยู่ข้างๆ ดูตอนโทรศัพท์คอนเฟิร์มลูกค้าอาจจะทำให้เรย์มอนด์รู้สึกอึดอัดเปล่าๆ
เรย์มอนด์หากระดาษที่ผู้จัดการเขียนเบอร์โทรศัพท์กับชื่อขึ้นมาแล้วหยิบหูโทรศัพท์โทรออกแบบไม่ลังเล ก่อนเสียงรอสายครั้งที่ 5 ดังขึ้นปลายสายก็กดรับ
[สวัสดีครับ]
“สวัสดีครับ โทรมายืนยันการจองร้านอาหารเฟลิเซ่ในวันนี้ครับ ชื่อคนจองคือคุณแม็กซิม มิไฮโลวิช เซอร์กีเยฟใช่ไหมครับ?”
[อ้า ครับ ใช่แล้วครับ]
เสียงทุ้มตอบกลับมาอย่างนุ่มนวล แล้วเรย์มอนด์ก็เช็คเมนู จำนวนคน หมายเลขโต๊ะ และเวลาที่จดไว้ในบัญชี เขาดูแตกต่างจากที่กังวลเพราะการกระทำของผู้จัดการ แถมยังตอบกลับอย่างใจดีและนุ่มนวลอีก
[น่าจะถึงร้านตามเวลาที่กำหนดนะครับ]
“ครับ รับทราบครับ แล้วพบกันนะครับ”
[ครับ ขอบคุณครับ]
เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จก็เช็ครายการต่างๆ ให้เรียบร้อยแล้วเดินตรงไปยังห้องครัวเพื่อยืนยันเมนูอาหาร หลังจากนั้นก็เดินไปดูแลการจัดวางโต๊ะอาหาร
เหลือเวลาประมาณ 40 นาทีก่อนถึงเวลาจอง

คอมเมนต์

Chapter List