รักผมมั้ย… หัวใจของคุณ ตอนที่ 8
ตอนที่ 1-8 Exórsus
แม็กซิมที่ไม่ค่อยพอใจกับผลวิจัยที่ออกมาจากห้องแล็บ นั่งลงบนโซฟาหนังสีดำขลับภายในห้องของผู้บริหาร โซฟาที่นั่งเป็นโซฟาหนังแท้จากร้านขายเฟอร์นิเจอร์ทำมือที่มีชื่อเสียงตามที่อเล็กเซย์สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ
“อื้ม”
เขาเอามือประสานไว้ที่ท้องขณะนั่งคิด
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูงและถูกมองว่าเป็นผู้พัฒนาอุปกรณ์ป้องกันกระสุนที่ได้มาตรฐาน วันนี้เขาได้พ่ายแพ้ให้กับการโต้เถียงและยอมแพ้เหมือนกับสุนัขที่ม้วนหางซ่อนไว้หว่างขาของมัน สายตาของเขาตอนนี้บ่งบอกเพียงความคิดหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เขา แม้แต่อเล็กเซย์เองก็รู้สึกแบบเดียวกันว่างานวิจัยครั้งนี้คงไม่มีทางทำให้สำเร็จได้ง่ายๆ เพราะว่าเขาดันไปคุยโอ้อวดไว้ว่าจะสร้างเสื้อเกราะที่คงทนเหมือนทำมาจากโลหะมิธริล แต่งานวิจัยยังไม่ทันเสร็จ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปเหมือนกับผลาญเงินไปเปล่าๆ ร่วมหลายล้าน เลยเป็นธรรมดาที่ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยต้องมานั่งคิดหนัก
อยู่ๆ นิโคไลผู้ซึ่งไม่ค่อยสังเกตคนรอบข้างได้บ่นพึมพำออกมาว่า ‘นี่มันเสื้อเกราะจริงๆ ใช่ไหม ทำมาจากวัสดุนั้นจริงๆ เหรอ มันไม่เล็กไปสำหรับฉันเหรอ… ทำไมถึงทำแต่ไซส์นี้มาล่ะ จะเอาแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม’ พออเล็กเซย์ได้ฟังถึงกับกุมท้ายทอยของตนเองก่อนที่จะพาทุกคนเปลี่ยนบทสนทนา
เป็นแบบนี้เพราะว่ามีไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ไหนไม่รู้ ไปปล่อยข่าวว่าอมาทูร่า บริษัทของแม็กซิมกำลังพัฒนาอาวุธที่ทำจากวัสดุแบบใหม่ และเพราะเหตุนั้นเองในช่วงนี้เลยมีคนที่เข้ามาหาแม็กซิมเพื่อผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจจำนวนมาก วันนี้เขาก็มีนัดทานอาหารเย็นเพื่อคุยงานทางธุรกิจอีกด้วย
Rrrrrr… Rrrrrr…
เขาล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแจ็กเก็ตพร้อมกับกดปุ่มรับสายทันทีโดยไม่แม้แต่จะดูว่าใครโทรมา
“ครับ”
เขารอให้ปลายสายพูด แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับนิ่งเฉยไม่พูดอะไรออกมา เขาใช้นิ้วหัวแม่มือกดไปที่ขมับซึ่งกำลังปวดตุบๆ และลองส่งเสียงเพื่อให้รู้ว่ามีคนกำลังรอฟังอยู่ ฮัลโหล
[เอ่อ…! ครับ สวัสดีครับ ผมโทรมาคอนเฟิร์มจากร้านเฟลิเซ่ครับ]
หื้ม แม็กซิมรู้ทันทีว่าเสียงที่พูดตอบกลับมานั้นเป็นเสียงของใคร คนสวยผู้มีดวงตาดั่งเพชรสีฟ้า พนักงานเสิร์ฟโอเมก้าจากร้านเฟลิเซ่
[คุณลูกค้าคือ คุณมะ… แม็กซิม มิไฮโลวิช เซอร์กีเยฟใช่ไหมครับ]
ขณะตอบไปว่าใช่ เขาก็หลุดหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว เพราะนึกถึงมือสีขาวที่สั่นไหวคู่นั้น เขาเลยใจอ่อนยอมตอบคำถามไปอย่างนุ่มนวล
[ถ้าอย่างนั้นแล้วพบกันช่วงเวลาจองนะครับ]
“สักครู่นะครับ”
[ครับ…]
“ใช่พนักงานเสิร์ฟที่บริการผมครั้งที่แล้วหรือเปล่าครับ”
ตอนสายเขาได้กำชับอเล็กเซย์ไปแล้วว่าให้บริกรในครั้งที่แล้วมาดูแล อเล็กเซย์จึงได้จัดการตามคำสั่งของเขา เขาจึงรู้อยู่แล้วว่าคนที่คุยด้วยคือโอเมก้าที่น่าทะนุถนอมเหมือนกับตุ๊กตาคนนั้น แต่แม็กซิมเพียงแต่ต้องการที่จะแกล้งเล่นเฉยๆ เขาจึงเอ่ยถามกับฝ่ายตรงข้ามที่พยายามจะจบบทสนทนา
“…ไม่ใช่หรือครับ”
[แค่กๆ ! เอ่อ… ใช่ครับ ผมเอง…]
มุมปากของเขาค่อยๆ เผยให้เห็นถึงรอยยิ้ม พนักงานเสิร์ฟคนนั้นพยายามกลั้นอาการไอพร้อมกับตอบคำถาม ช่างน่ารักเสียจริง
“อย่างนั้นเองเหรอ งั้นแค่นี้นะ”
[ครับ ครับ ขอบคุณครับ]
แม็กซิมแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรและกดปุ่มวางสาย นิ้วโป้งของเขายังคงถูวนอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับกำลังนึกถึงหนักงานหนุ่มหน้าหวานที่มีดวงตาสีฟ้า แม้น้ำเสียงจะสั่นแต่ก็ยังไพเราะ รูปร่างหนาตาก็น่ารักด้วย
ถ้ามีประชุมครั้งอื่นๆ เขาก็อยากจองร้านอาหารนั้นอีก
แม็กซิมมาถึงร้านอาหารพร้อมกันกับลูกค้าของเขา เขาเจอเรย์มอนด์ที่ออกมาต้อนรับพร้อมกับรอยยิ้ม แต่เขารู้ว่านี้เป็นเพียงแค่การบริการเท่านั้น แม็กซิมมองไปที่พนักงานเสิร์ฟ นัยน์ตาเพชรสีฟ้ายังคงสวยงามและแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เรย์มอนด์เอาสองมือประสานไว้ที่หน้าท้องอย่างสุภาพ เขาไม่สามารถที่จะละสายตาจากด้านหลังของเรย์มอนด์ที่กำลังเดินนำหน้าไปได้เลย เหมือนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นนั้นมันทั้งหอมและสบาย น่าจะเรียกว่าสดชื่นมากกว่าสบาย แม็กซิมคิด
เขานั่งโต๊ะที่จองไว้ หลังจากที่เรย์มอนด์มารับเมนูเขาก็เดินหายไปจากสายตาของแม็กซิม คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจึงเริ่มพูดเพื่อดึงความสนใจของแม็กซิมที่กำลังมองเรย์มอนด์อยู่
“ไม่คิดเลยว่าเราจะมาประชุมกันที่ร้านอาหารแบบนี้”
แม็กซิมทำหน้าไม่สนใจกับกับเสียงที่พูดออกมา รวมไปถึงการหัวเราะที่ดูเคอะเขิน
“คือ คุณเซอร์กีเยฟดูไม่น่าจะมาคุยกันที่ร้านอาหารน่ะครับ คิดว่าจะนัดเจอกันที่บาร์ตรงโน้นเสียอีกครับ”
“ครับ งั้นหรือครับ”
“ครับ ครับ! เหนือความคาดหมายมากครับ”
“การที่ผมเลือกมากินข้าวแทนที่จะเป็นเหล้า เป็นเรื่องแปลกขนาดนั้นเลยสินะครับ”
คอมเมนต์