รักผมมั้ย… หัวใจของคุณ ตอนที่ 9
ตอนที่ 1-9 Exórsus
ฝ่ายตรงข้ามที่มีลักษณะหัวล้านไปครึ่งหนึ่งพยายามหัวเราะให้กับคำพูดของแม็กซิมเพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น เขาเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าแจ็กเก็ต พร้อมกับนำมาซับเหงื่อที่กำลังไหลออกมาจากหน้าผากของเขา ทางฝั่งแม็กซิมที่กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่นั้นก็นั่งขาไขว้กัน เอาหลังพิงเก้าอี้พร้อมกับกอดอก จ้องฝ่ายตรงข้ามโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ชายหัวล้านนั่งห่อเอวแบบเกร็งๆ ลักษณะของเขาคล้ายกับหนูที่อยู่หน้าแมว ก่อนที่บรรยากาศจะแย่ลงไปกว่าเดิม หนักงานเสิร์ฟผู้ดูแลลูกค้าทั้งสองก็ได้เดินมาที่โต๊ะ เหมือนเป็นการช่วยเหลือชายหัวล้านจากแม็กซิม เขาวางอาหารที่สั่งลงบนโต๊ะ ระหว่างที่เขาพูดแนะนำอาหารสั้นๆ แม็กซิมก็เหมือนกลับมาหายใจได้อีกครั้ง
แต่ในทางกลับกันเรย์มอนด์ก็ประหม่ากับสายตาของแม็กซิมที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ ตั้งแต่ตอนที่แม็กซิมเดินเข้ามาในร้านอาหารกับกลุ่มของเขาจนถึงตอนนี้เขาก็ยังตื่นเต้นตลอด เรย์มอนด์หายใจเข้าออกอยู่หลายครั้งตอนที่จะนำอาหารออกมาเสิร์ฟ แต่ถึงเวลานำอาหารมาเสิร์ฟจริงๆ พอเห็นหน้าของแม็กซิม เขาเองก็แทบจะหยุดหายใจทันที เขาตัดคำอธิบายยาวเหยียดที่ต้องท่องจำไปจนหมด แล้วอธิบายแค่การใช้วัตถุดิบแนะนำในการทำอาหารเท่านั้น ถ้าเป็นปกติเรย์มอนด์จะพูดอธิบายให้แก่ลูกค้าได้อย่างเชี่ยวชาญ ถึงเหตุผลที่ว่าทำไมใช้วัตถุดิบชนิดนี้หรือขั้นตอนการรับประทานอาหารเพื่อวิเคราะห์รสชาติ แต่เหมือนตอนนี้สติของเขาแทบจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
แม็กซิมรับรู้ถึงความประหม่าที่เกิดขึ้น จึงได้ถามคำถามกับเรย์มอนด์ที่กำลังถอยหลังออกไปก้าวหนึ่งด้วยความสุภาพ ว่าควรจะทานอะไรก่อนถึงจะดี
“เอ่อ… ในอาหารสามอย่างนี้ เริ่มทานจากของที่เย็นจานซ้ายสุดก่อนถึงจะดีครับ”
“อย่างนั้นหรือครัย”
“ครับ เริ่มทานสลัดก่อนและไปจบที่จานสุดท้ายคือหอยเชลล์อุ่นๆ ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงรสชาติอาหารได้ดีที่สุดครับ”
“ขอบคุณนะครับ”
แม็กซิมที่ไม่สามารถละสายตาไปจากเรย์มอนด์ได้ พูดขอบคุณด้วยเสียงที่นุ่มนวลพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย เรย์มอนด์รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาที่แก้มกับท่าทางนั้น เขาโค้งศีรษะพร้อมกับออกมาจากโต๊ะอย่างรวดเร็ว
เรย์มอนด์ชำเลืองมองแม็กซิมที่กำลังหั่นชิ้นเนื้อสเต็กด้วยท่าทางที่สง่าหลังตั้งตรง พร้อมกับเห็นถึงแก้วน้ำของเขาที่ถูกดื่มไปเกินกว่าครึ่งแก้ว เรย์มอนด์จึงถือเหยือกน้ำเข้าไปเพื่อที่จะเต็มน้ำให้ แม็กซิมจึงวางมีดไว้บนจานพร้อมกับยกก้านแก้วขึ้น แล้วสายตาของเขาก็มองตามน้ำที่ถูกเทลงมา ก่อนจะไล่สายตาไปมองมือสีขาวของเรย์มอนด์ซึ่งกำลังถือเหยือกน้ำอยู่
“มือนายสวยมากเลยนะ”
“ครับ…”
แม็กซิมทำให้ประสาทสัมผัสทั้งหมดทำงานได้ดีขึ้น เรย์มอนด์ไม่เข้าใจกับคำพูดนั้นจึงได้ถามกลับไปอีกครั้ง
“มือข้างนั้นน่ะ สวยมากเลยนะ”
น้ำเสียงทุ่มต่ำแต่อ่อนโยนที่เอ่ยขึ้นราวกับเน้นย้ำอีกครั้งทำให้เรย์มอนด์มองไปที่แม็กซิมด้วยสติที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขนาดชายหัวล้านแขกของแม็กซิมก็แทบจะไม่เชื่อหูของตัวเองเหมือนกัน อะไรกัน จู่ๆ ไอ้บ้านั้นทำไมถึงไปพูดอย่างนั้นกับบริกร
“เอ่อ…! ขะ ขอบคุณครับ!”
เรย์มอนด์พยายามเรียกสติตัวเองให้กลับมา พร้อมกับโค้งตัวลงเพื่อเป็นการขอบคุณ แต่ว่าขณะที่โค้งตัวลงก็มีบางอย่างกระเด็นออกไปข้างหน้า นั่นคือน้ำในแก้วน้ำนั่นเอง เขาเทน้ำลงไปเพิ่ม แถมยังโค้งก้มตัวเร็วไปหน่อย เลยไม่ทันสังเกตแก้วน้ำ น้ำจึงกระเด็นไปทั่ว
แน่นอนอยู่แล้วว่าน้ำต้องล้นออกมาจากแก้ว และรวมไปถึงไหลไปโดนมือของแม็กซิมที่กำลังถือแก้วอยู่ด้วย น้ำจากแก้วไหลลงบนแขนเสื้อแจ็กเก็ตและเปียกไปจนถึงเสื้อด้านใน
“อ๊ะ! โอ๊ย… ขะ ขอโทษจริงๆ ครับ”
มือและแขนเสื้อทางด้านขวาของแม็กซิมเปียกไปด้วยน้ำพร้อมกันกับหยดน้ำส่วนกระเด็นไปที่หน้าอกของเขาและเปื้อนเป็นรอย
โอ้ว พระเจ้า พนักงานเสิร์ฟเฮงซวยนั่นทำให้ฉันเสียหายไปด้วย ชายหัวล้านสบถในใจพลางเขม้นมองเรย์มอนด์แล้วรีบลุกขึ้นด้วยความโกรธ
“โธ่เว้ย แกทำบ้าอะไรของแก! โอ๊ะ แย่แล้ว! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ คุณเซอร์กีเยฟ”
“ขะ ขอโทษครับ! ขอโทษจริงๆ ครับ! เอ่อ ทำยังไงดี…”
เรย์มอนด์ขอโทษพร้อมกับโค้งตัวลงหลายครั้ง เขาจับแขนที่เปียกของแม็กซิมและเอากระดาษเช็ดปากที่ยังไม่ได้ใช้ ซับความชื้นออก ผู้ชายคนนั้นคงคิดว่าแม็กซิมที่มองเรย์มอนด์ซึ่งเอาแต่พูดขอโทษโดยไม่พูดอะไรคงจะโมโห ดังนั้นเขาจึงยิ่งต่อว่าเรย์มอนด์ด้วยเสียงที่ดังขึ้น
“แกทำบ้าอะไรเนี่ย! อบรมกันมายังไงกัน ทำไมเรื่องแค่นี้แกยังทำไม่ได้!”
“…ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ ครับ”
แม็กซิมยกมือห้ามชายหัวล้านที่ไม่ได้มีน้ำกระเด็นใส่แม้แต่หยดเดียวให้หยุดพูดและเอามือของเขาไปแตะที่ไหล่ของเรย์มอนด์ซึ่งกำลังก้มหน้าสำนึกผิดอยู่ แม็กซิมตบไปที่ไหล่ของเรย์มอนด์เบาๆ มือของเขานั้นอ่อนโยนมาก
“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ”
“…ขอโทษครับ ผมขอโทษจริงๆ ครับ”
“คุณเซอร์กีเยฟครับ เราจะปล่อยเรื่องไปง่ายๆ แบบนี้เหรอครับ!”
ชายหัวล้านพยายามจะทำคะแนนเมื่อโอกาสของเขามาถึง แต่เขาก็ต้องหยุดพูดเมื่อมองไปเห็นสายตาอันเย็นชาของแม็กซิม
“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่เป็นไร”
“เอ่อ… คะ ครับ!”
“ผมไม่เป็นไรจริงๆ ครับ”
มือของแม็กซิมที่กำลังตบไปที่ไหล่ของเรย์มอนด์สัมผัสกับเส้นผมของเขาที่กำลังโค้งตัวอยู่ มือที่อ่อนนุ่มของแม็กซิมลูบเส้นผมนั้น ราวกับจะบอกว่า ฉันไม่เป็นไร เลิกขอโทษได้แล้ว
ตอนนั้นผู้จัดการร้านได้แทรกตัวเข้ามาในสถานการณ์ที่ผู้เสียหายกลับต้องเป็นฝ่ายปลอบคนทำผิด“ต้องขออภัยจริงๆ ครับคุณเซอร์กีเยฟ จะให้เราชดใช้อย่างไรดีครับ…”
“ไม่เป็นอะไรครับ ผมได้รับคำขอโทษมากพอแล้ว ผมหวังแค่ว่าทางร้านจะไม่เรียกพนักงานคนนี้ไปตักเตือนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้อีกนะครับ”
“ครับ… เข้าใจแล้วครับ”
ผู้จัดการร้านพิจารณาคำพูดของแม็กซิมและรับรู้ได้ถึงความจริงใจ แม็กซิมจึงหันกลับไปพูดกับลูกค้าของเขา
“วันนี้คงคุยกันต่อไม่ได้แล้วครับ เอาไว้คุณยื่นเอกสารผ่านมาทางเลขาของผมก็แล้วกันนะครับ”
คำพูดของแม็กซิมทำให้ชายหัวล้านหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากอีกครั้ง เขามั่นใจแล้วว่าอารมณ์ของคุณเซอร์กีเยฟนั้นไม่ดีมากแน่ๆ และคำพูดนั้นก็ตีความได้ว่าคงไม่มีการเซ็นสัญญาในเร็วๆ นี้แน่นอน ทั้งหมดเป็นเพราะไอ้เด็กเสิร์ฟนั่น ฉันจะต้องมาที่ร้านนี้อีกครั้งแน่นอน
หลังจากสถานการณ์คลี่คลายลง แม็กซิมกับผู้ชายคนนั้นออกจากร้านไป คนอื่นๆ รวมถึงผู้จัดการร้านไม่มีใครโกรธหรือตำหนิเรย์มอนด์ ไม่รู้เป็นเพราะคำพูดที่แม็กซิมได้ขอไว้หรืออย่างไร แต่มันกลับทำให้ตัวของเรย์มอนด์รู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจ เรย์มอนด์คิดว่าหากมีคนที่โกรธหรือตำหนิกับเรื่องที่เกิดขึ้นยังดีเสียกว่า มันอาจจะทำให้เรย์มอนด์สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่มีคนว่าอะไรเขาเลย เขาจึงยิ่งรู้สึกผิดขึ้นไปอีก และทำให้นึกถึงผู้ชายคนนั้นบ่อยๆ
น้ำหกใส่เสื้อสูทของแม็กซิมจนเปียกไปทั้งปลายแขนด้านขวา แถมยังกระเด็นไปถึงหน้าอกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น อีกทั้งไม่ได้แสดงอาการไม่พอใจอะไรออกมาด้วย แต่กลับเป็นคนพูดปลอบทางฝั่งของเรย์มอนด์เสียเอง ด้วยมือที่อบอุ่นและท่าทางสุภาพอ่อนโยน เสื้อสูทของเขาราคาไม่ใช่ถูกๆ อย่างแน่นอน ทำไมเขาถึงยังมาปลอบฉันอีกล่ะ คิดดูแล้วเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย
เรย์มอนด์เดินไปยังห้องของผู้จัดการ ทันทีที่เคาะประตู เขาก็ได้ยินเสียงสั่งให้เข้ามาในห้อง สีหน้าของเรย์มอนด์ที่เปิดประตูเข้ามาไม่สู้ดีนักทำให้ผู้จัดการหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“เรย์มอนด์ ทำไมทำสีหน้าเหมือนคนจะตายแบบนั้นล่ะ”
“ขอโทษจริงๆ ครับ ผู้จัดการ”
“ไม่เป็นไร ใครก็ทำผิดพลาดได้ ต่อไประมัดระวังอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกก็แล้วกัน”
“แต่ว่า… ผมยังรู้สึกผิดอยู่เลยครับ ผมขอโทษจริงๆ ครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก ลูกค้าท่านนั้นบอกว่าได้รับคำขอโทษเพียงพอแล้ว ก็น่าจะไม่มีอะไรแล้ว ลูกค้าท่านนั้นไม่น่าใช่คนที่จะมาพูดจาลับหลัง ดังนั้นไม่ต้องกังวลหรอกนะ”
เรย์มอนด์พยักหน้าอย่างช้าๆ ตอบรับคำพูดของผู้จัดการ มือทั้งสองของเขากำไว้อย่างแน่นและซ่อนไว้ข้างหลังแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอะไรบางอย่าง เรย์มอนด์อยากขอโทษผู้ชายคนนั้นอีกครั้งพร้อมกับขอบคุณในความเมตตาของเขา
“ละ… ลูกค้าท่านนั้น ถ้าผมโทรไปขอโทษกับคุณเซอร์กีเยฟอีกครั้งจะเป็นอะไรไหมครับ”
“อะไรนะ”
“คือผมไม่อยากปล่อยเรื่องนี้ไปเฉยๆ โดยที่ไม่ทำอะไร ผมแค่ไปขอโทษที่ไม่เอาเรื่องร้านเฟลิเซ่ของเราครับ ได้ใช่ไหมครับ?”
“อื้ม ถ้าอย่างนั้น… ตามสบายเลย”
เรย์มอนด์ไม่ฟังคำพูดบ่นพึมพำของผู้จัดการที่ว่า… แต่ก็ไม่แนะนำให้ทำอย่างนั้นสักเท่าไหร่ เขาจึงรีบโค้งตัวทำความเคารพก่อนที่จะออกจากห้องอย่างรวดเร็ว พอถึงช่วงที่จะปิดร้าน เรย์มอนด์เข้ามาช่วยพนักงานคนอื่นที่กำลังจัดเก็บร้านอยู่และย้ำกับตัวเองว่าพรุ่งนี้ตอนเช้าจะติดต่อคุณแม็กซิมให้ได้
คอมเมนต์