รีเทิร์นหัวใจ กับ AI จอมวุ่น ตอนที่ 15

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 15

“เยี่ยม! เยี่ยม!” เจียงจื่อเจี่ยนชูไม้ตีโปโลหันไปยิ้มให้จัวอีหลง
จัวอีหลงทำคะแนนได้สองแต้มติด เขาขี่ม้าวนหนึ่งรอบอย่างมีชีวิตชีวา
เจียงจื่อเจี่ยนใช้โอกาสที่จัวอีหลงหันหลังรีบส่งสัญญาณให้เทียนเหอ เทียนเหอรีบชูมือขึ้นเป็นการแสดงการยอมแพ้ รู้แล้ว ยอมให้เขาชนะ
“เยี่ยมครับ!” เทียนเหอรีบเอามือที่ถือไม้ตีโปโลลงข้างตัวตอนจัวอีหลงหันมาก่อนจะตะโกนบอกเขา
จัวอีหลง “ขอบคุณที่ต่อให้!”
เจียงจื่อเจี่ยน “พักผ่อนสักครู่มั้ย?”
เทียนเหอ “…”
กรรมการงงเล็กน้อยกับการขอพักหลังทำคะแนนได้ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ควรดำเนินการแข่งขันต่ออย่างไร เจียงจื่อเจี่ยนเป็นคนสบายๆ ยังไงวันนี้ก็มาตามใจจัวอีหลงอยู่แล้ว กินข้าวหลังการแข่งแล้วพูดกล่อมเขาหน่อย หาวิธีที่จะไปสู่เป้าหมายช่วยเทียนเหอให้ได้โอกาสในการพูดในงานแถงข่าวอุตสาหกรรมก็พอ
รอยยิ้มแห้งๆกลับปรากฏบนใบหน้าของอู๋ซุ่น เพื่อนคนนี้เขาเป็นคนพามา ใครจะไปคิดว่าเทียนเหอจะส่งสายตาบางอย่างให้เขา ต่างก็ยิ้มให้กันเหมือนรู้อยู่แก่ใจ อู๋ซุ่นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“คุณน่าสนใจมาก” อู๋ซุ่นพูดในขณะที่มือยังถือไม้ตีโปโล
เทียนเหอพูดยิ้มๆ “คุณตีได้ดี” ใช้ไม้ตีโปโลในมือแตะกับไม้ของอู๋ซุ่นเบาๆ แล้วต่างขี่ม้าเดินจากกัน
เทียนเหอรู้สึกเหนื่อยแล้ว ตอนเช้าเขาดื่มเพียงแค่นมเท่านั้น แถมยังโดนแดดจนรู้สึกไม่สบายตัวอีก รู้แค่ว่าตอนนี้อยากรีบแข่งชักก้าที่เหลือให้จบ ปัญหาที่ไม่รู้ว่าจะต้องแข่งอีกนานแค่ไหนทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด ยังต้องคำนวณอีกว่าต่อจากนี้ต้องโจมตียังไงไม่ให้ดูออกว่าอ่อนข้อให้อีกฝ่ายอย่างโจ่งแจ้ง

“ประธานครับ?” หัวหน้าแผนกการเงินเรียก
กวนเย่ว์ไม่พูดอะไรสักคำ เดินลงจากเนินเขาแล้วใช้ขาเรียวพาตัวเองกระโดดข้ามรั้วของฟาร์มเข้าไป
หัวหน้าแผนกการเงินได้แต่มองกวนเย่ว์ที่ละทิ้งการตีกอล์ฟแล้วเข้าฟาร์มไปอย่างกับลมด้วยใบหน้ามึนงง

“พักครึ่ง?” เจียงจื่อเจี่ยนตะโกนถาม ส่งสัญญาณให้จัวอีหลงมองกรรมการ
จัวอีหลงกล่าว “ไม่พักแล้วกัน! มือกำลังขึ้นเลย!”
เทียนเหอ “…”
เจียงจื่อเจี่ยน “ได้ครับ งั้นแข่งกันต่อเถอะ!”
อู๋ซุ่น “เปลี่ยนม้าไหมครับ?”
จัวอีหลงตอบ “ม้าตัวนี้น่าจะยังไหวนะ? มาๆ! อู๋ซุ่น ป้องกันการโจมตี ทำคะแนนให้เท่าให้ได้!”
ทุกคน “…”
เจียงจื่อเจี่ยนส่งสายตาให้เทียนเหอเป็นเชิงว่าอย่าด่าเขา บนหน้าผากและใบหน้าของเทียนเหอเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาพยักหน้าแล้วบังคับม้าไปข้างหน้า จัวอีหลงเหมือนถูกกระตุ้น เขาเตรียมพุ่งตัวไปขี่ม้าแย่งบอล ตีลูกโปโลในทีเดียว
“นี่!” จ็อคกี้เอ่ยเสียงดัง “กรรมการครับ! พวกเขาจะไม่พัก… นี่คุณเป็นใครเนี่ย?”
เจียงจื่อเจี่ยนหันไปมอง อยู่ดีๆ ก็เห็นคนๆ หนึ่งขี่ม้าพุ่งเข้ามาในสนาม ทุกคนต่างก็นิ่งอึ้ง
เทียนเหอ “…”
กวนเย่ว์หันข้าง ขี่ม้าพุ่งเข้าไปในสนามก่อนจะหวดไม้ท่ามกลามแสงอาทิตย์ แบ็คแฮนด์ที่สวยงามถูกหวดออกไป ลูกโปโลที่โดนหวดนั้นพุ่งเข้าโกลราวกับดาวตก!
เจียงจื่อเจี่ยนพาม้าออกนอกสนามในทันที กล่าวว่า “พวกคุณแข่งเถอะ!”
หลังจากกวนเย่ว์ทำคะแนนได้ มือก็ยกไม้ขึ้น เทียนเหอยิ้มออกมา ใช้ไม้ในมือของตัวเองแตะเข้าเบาๆ ที่ไม้ของอีกฝ่าย เสียงกระทบกันของไม้ดังออกมา เจียงจื่อเจี่ยนที่อยู่ข้างสนามตะโกนบอก “พวกคุณแข่งเถอะ ผมขอพักสักครู่ พี่จัวสู้ๆ ครับ!”
อู๋ซุ่นกับจัวอีหลงยังคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ บนสนามก็มีอัศวินเพิ่มอีกหนึ่งคน สวมหมวกเข้าร่วมการแข่งขันอย่างป่าเถื่อน เทียนเหอหันไปตะโกนบอกกรรมการ “นับว่าเริ่มจากชักก้าที่สี่เลยก็ได้ครับ!”
จัวอีหลงยังคงไม่รู้ที่มาของคนผู้นี้ อีกฝ่ายใส่หมวกเบสบอลแถมอยู่บนม้าก็ไม่นิ่งอีก ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ชัด ตอนที่กำลังบังคับม้าเข้าไปหานั้น เทียนเหอกลับประชิดจากทางด้านซ้าย ลูกโปโลถูกส่งผ่านใต้ท้องม้าของจัวอีหลง พุ่งไปยังอัศวินหน้าใหม่ที่พึ่งเข้าสนาม
กวนเย่ว์บังคับม้าให้หมุนตัวอย่างรวดเร็ว มือขวากำบังเหียน มือซ้ายถือไม้ ดริฟท์ท่ายากออกมา
“ไป!”
กวนเย่ว์บังคับม้าให้ยกข้าหน้าขึ้น เอียงตัวแล้วหวดไปทางบอลที่ถูกส่งมา จัวอีหลงกับอู๋ซุ่นรู้สึกว่าตาลายไปชั่วขณะ
ได้แต้ม!
กวนเย่ว์บังคับม้าแล้วยกไม้ขึ้นเคาะกับไม้ของเทียนเหอเบาๆ ก่อนจะแยกออกจากกันอย่างไม่ใส่ใจ
พอกรรมการส่งสัญญาณให้แย่งบอลได้ ทุกคนก็เริ่มวิ่งตามบอลอีกครั้ง เทียนเหอยิ้ม หมุนม้าแล้วบังคับไปยังโกลของฝั่งตรงข้าม กวนเย่ว์บังคับม้าให้วิ่งโชว์ลีลา มือซ้ายยกไม้ขึ้นเหนือไหล่ เท้าขวาสะบัดโกลนออกแล้วพลิกตัวไปทางด้านข้าง ท่าทางนั้นสวยงามจนทั้งฝ่ายตัวเอง ฝ่ายตรงข้ามรวมถึงจ๊อคกี้นอกสนามทั้งหมดต่างก็ส่งเสียงฮือฮา
“สุดยอด!”
ทั้งฟาร์มเต็มไปด้วยผู้คน! ทุกคนต่างก็วิ่งออกมาเพื่อดูกวนเย่ว์ตีโปโล
“ปั่ก!” เสียงหวดโดนลูกดังขึ้น ลูกโปโลพุ่งไปยังโกลของฝ่ายตรงข้าม เศษหญ้าปลิวว่อนเล็กน้อย เทียนเหอพุ่งไปอยู่ไม่ไกลจากหน้าประตูของฝ่ายตรงข้ามนัก บังคับม้าให้ดริฟท์เช่นกันก่อนจะหมุนตัวหวดลูก แล้วก็ได้แต้ม
หลังทำแต้ม เทียนเหอบังคับม้ามาอย่างใจเย็น ในมือยังคงถือไม้ตีโปโล กวนเย่ว์หมุนตัว มองเขาอย่างมีความหมายเพียงชั่วครู่ ทั้งสองยกไม้ขึ้นก่อนจะแตะกันเบาๆ
อู๋ซุ่น “…”
จัวอีหลง “…”
กรรมการเป่านกหวีดเปิดให้แย่งลูกอีกครั้ง ลูกโปโลถูกส่งไปมาระหว่างกวนเย่ว์กับเทียนเหอราวกับมายากล อู๋ซุ่นกับจัวอีหลงรวมถึงเพื่อนร่วมทีมอีกสองคนเอาแต่วิ่งตามลูกไปตรงนี้ทีตรงนั้นทีราวกับลิงที่ถูกหลอก ทั้งตัวท่วมไปด้วยเหงื่อ
เจียงจื่อเจี่ยนยิ่งมองยิ่งรู้สึกไม่ถูกต้อง รีบส่งสัญญาณมือให้กรรมการว่าเลิกแข่งได้แล้ว กรรมการก็เป็นคนที่หูตาไว รีบกดนาฬิกาจับเวลา แจ้งว่าหมดเวลาแข่งแล้ว
สิบนาทีหลังจากนั้น
“ประธานกวน!” หน้าของจัวอีหลงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “โอ๊ย! ทำไมถึงเป็นคุณไปได้?”
กวนเย่ว์พยักหน้าให้ เขานั่งอยู่กับทุกคนตรงโต๊ะน้ำชา นิ้วเรียวยาวถูกวางไว้บนโต๊ะ สายตาจดจ้องไปยังน้ำมะนาวที่อยู่บนโต๊ะเช่นกัน นิ้วเรียวเคาะเบาๆ สองสามที
“ดวงสมพงศ์นะครับ” อู๋ซุ่นหันไปยิ้มให้เทียนเหอ
เทียนเหอคิดในใจว่าน่าตลกเสียจริงก่อนจะยิ้มรับ “จริงครับ จริงครับ”
เจียงจื่อเจี่ยนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปชั่วขณะ จัวอีหลงเจอกวนเย่ว์ปุ๊บ ท่าทางก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน เขากล่าวอย่างตื่นตะลึงว่า “คุณตีโปโลได้ดี— มาก— เลยนะครับ!”
กวนเย่ว์ “อืม” รับคำ
เทียนเหออธิบาย “เมื่อก่อนเขาเป็นกัปตันทีมตัวแทนคณะ PPE[1] ของอ๊อกซ์ฟอร์ดเลยล่ะครับ แพ้ให้เขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”
“โอ้”— ทุกคนต่างก็พยักหน้าพร้อมกัน เจียงจื่อเจี่ยนกลับหัวเราะ “แต่ก็แพ้ให้กับพวกเราอยู่ดีนี่?”
กวนเย่ว์เหลือบมองเจียงจื่อเจี่ยน ไม่ได้พูดอะไร
จัวอีหลงมองเทียนเหอ แล้วหันไปมองกวนเย่ว์ พูดพร้อมรอยยิ้ม “พวกคุณรู้จักกัน? ผมก็ว่า หึๆๆ ฮ่าๆๆ”
“ผมเป็นแฟนคลับของเหวินเทียนเหอ” กวนเย่ว์ยอมเปิดปากพูดในที่สุด
“ไม่หรอกครับ” เทียนเหอรีบเอ่ยยิ้มๆ “ประธานกวนเป็นพวกลูกศิษย์ที่อยู่เหนือกว่าอาจารย์น่ะครับ”
กวนเย่ว์ “เขาเป็นคนสอนการตีโปโลให้ผมน่ะ ผมขอตัวก่อน พวกคุณเล่นเถอะ” พูดแล้วก็ลุกขึ้นก่อนจะพยักหน้าให้แล้วเดินจากไป
จัวอีหลงรีบลุกขึ้นก่อนจะเดินตามไป ปากก็พูดไปด้วย “ประธานกวน! เอ้อ! ดีนะครับที่ได้เจอกันในวันนี้ ถ้าว่างเมื่อไหร่พวกเราไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ? แหะๆๆ คราวที่แล้วประธานของพวกเรา…” เสียงไกลออกไปเรื่อยๆ ไม่คิดว่าจะทิ้งพวกเขาสามคนเอาไว้ที่โต๊ะน้ำชา
เจียงจื่อเจี่ยน “…”
จู่ๆ อู๋ซุ่นก็นึกอะไรขึ้นได้กล่าว “ขอช่องทางติดต่อได้ไหมครับ? ผมตีได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าว่างก็อยากจะให้คุณช่วยสอนบ้าง”
“ได้ครับ ถ้าสอนผมคงไม่เก่งขนาดนั้น แต่ถ้าลองแข่งกันก็คงได้” เทียนเหอตอบอย่างทันที เขาค่อนข้างชอบอู๋ซุ่น คนๆ นี้อายุพอๆ กับเขา พ่ออยู่คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ คิ้วเข้มตาโต หน้าตาดูมีชีวิตชีวา การกระทำต่อคนอื่นก็มีมารยาท
“วันนี้ขอโทษที” จู่ๆ อู๋ซุ่นก็หันไปพูดคำนี้กับเจียงจื่อเจี่ยน
“ผมไปล้างมือก่อนนะครับ” เทียนเหอรู้ตัวว่าควรต้องหลบฉากแล้ว เขารับหูฟังมาใส่ ลุกขึ้นเดินจากไป เจียงจื่อเจี่ยนมือก่ายหน้าผาก โบกมือให้เล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมา แล้วส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ
หลังจากจัวอีหลงวิ่งตามกวนเย่ว์ไปเขาก็ไม่กลับมาอีก เทียนเหอทอดสายตาออกไป มองเห็นแค่กวนเย่ว์ที่ปีนรั้วข้ามออกไปจากฟาร์ม กลับเข้าสู่สนามกอล์ฟ จัวอีหลงก็ปีนตาม ก่อนจะล้มตัวเซอยู่หน้ารั้ว เขากอดเข่าแล้วกระโดดขาเดียวสองสามทีแล้ววิ่งตามขึ้นไปบนเนินเขา เขากับกวนเย่ว์กลายเป็นเพียงแค่จุดเล็กๆ สองจุดหายไปยังอีกฟากของเนิน

วันต่อมาก็เป็นอีกวันที่ฝนตก เทียนเหอซุกตัวอยู่บนโซฟา มือหนึ่งอุ้มแมวบริติชช๊อตแฮร์เอ๋อของตัวเองเอาไว้ อีกมือรัวอยู่บนคีย์บอร์ดเขียนโปรแกรมอย่างรวดเร็ว เจียงจื่อเจี่ยนนั่งอ่านข้อมูลอยู่ข้างๆ บนโต๊ะมีจดหมายวางอยู่หนึ่งฉบับ
ได้รับบัตรเชิญร่วมงานแถลงข่าวของจัวอีหลงก็จริง แต่ดูท่าแล้วไม่น่าได้เชิญเทียนเหอขึ้นเวทีไปกล่าวอะไรเท่าไหร่ น่าจะมีแค่เพียงที่นั่งเย็นๆ รอเขาที่ด้านล่างเวทีมากกว่า
“กวนเย่ว์นี่ก็เทพจริง” เจียงจื่อเจี่ยนเอ่ย “เกิดมาชาตินึงต้องมาทำร้ายกันขนาดนี้เลยหรือไง”
ในบ้าน เทียนเหอกดปุ่มเอ็นเทอร์ โค้ดภาษาซีต่างๆ เริ่มเรียงรายขึ้นบนหน้าจอ โปรแกรมเทรดหุ้นมีหน้าต่างเล็กๆ สิบกว่าอันเด้งขึ้นมา ส่งสัญญาณว่ากำลังติดตั้ง
“โพร รบกวนช่วยสแกนซีพียูให้หน่อย ขอบคุณ” เทียนเหอยกกาแฟขึ้นจิบแล้วพูดส่งๆ “ถึงฉันจะรู้สึกว่าถึงแม้กวนเย่ว์จะไม่ปรากฏตัว พี่จัวก็ไม่น่าให้ฉันขึ้นเวทีก็ตาม แต่ก็จะถือว่าเขามีส่วนก็แล้วกัน”
“ใช่ป่ะ!” เจียงจื่อเจี่ยนกล่าว “มาทำลายการสร้างสัมพันธ์ของฉัน ดีนะที่ฉันเป็นคนนิสัยดี ไม่งั้นหาคนไปตีเขาจนเละแล้ว”
เทียนเหอ “พวกเราไปทำลายการดูตัวของเขาก่อน เขาถึงมาทำลายการแข่งของเรา ต่างฝ่ายต่างผลัดกันหาเรื่อง ก็ยุติธรรมดี คุณลุงขายาวสุดหล่อที่มีเงินทองมากมาย ถ้าตีเขาจนเละนายจะไม่เสียดายเหรอ?”
เจียงจื่อเจี่ยน “ไม่ใช่แฟนเก่าฉันสักหน่อย แค่นายอนุญาต ฉันไม่เสียดายอยู่แล้ว”
“ฉันรู้แล้วว่าปัญหาอยู่ตรงไหน…” เทียนเหอกดปุ่มพอส เหลือบมองหน้าจอก่อนจะพึมพำ “ผู้อำนวยการด้านเทคนิคนี่ฝีมือไม่ได้เรื่องเลย อย่างกับพวกโง่… ช่างมันเถอะ นายกำลังดูอะไรอยู่?”
“เป้าหมายที่กำลังจะไปเดตด้วย” เจียงจื่อเจี่ยนตอบ “เป็นหมอนวดเท้าในโรงอาบน้ำแห่งหนึ่ง”
เทียนเหอชำเลืองมองแฟ้มข้อมูลในมือเจียงจื่อเจี่ยน ตอนแรกก็นึกว่าเขากำลังรับพนักงานใหม่ เจียงจื่อเจี่ยนจึงอธิบายให้ฟังรอบหนึ่ง คนที่จัดข้อมูลมาให้คือผู้จัดการคนหนึ่งในโรงแรมเครือบ้านเขา ผู้จัดการสมัครแอคเคาท์แล้วช่วยสวมรอยเป็นเขา คอยเหวี่ยงแหจับปลาบนกระทู้ให้
ผู้จัดการคนนี้ดูสีหน้าคนออก เขาทุ่มเทสุดตัว ตกเป้าหมายมาได้หกคน เขาจัดการนำข้อมูลแชทบางส่วนที่มีประโยชน์มาทำการปริ้นท์แล้วส่งถึงมือเจียงจื่อเจี่ยน แค่มองปราดเดียวเจียงจื่อเจี่ยนก็ถูกใจหนึ่งในนั้น หน้าตาหล่อมากหนุ่มมาก มีใบหน้าอ่อนเยาว์ ดูแล้วมีความรักเต็มเปี่ยม
เจียงจื่อเจี่ยนเรียนปรัชญามา จึงดูภาษาซีไม่รู้เรื่อง แต่ก็ถูกดึงดูดความสนใจไปจึงเอ่ยปากถาม “โอ๊ะ? โปรแกรมที่ขายออกไปแล้วจะทำให้คอมพิวเตอร์อีกฝ่ายแฮ้งค์อ่ะ แก้เสร็จแล้วเหรอ? ช่วยบริษัทนายได้อ่ะดิ?”
“ไม่ได้” เทียนเหอตอบ “โปรแกรมเทรดหุ้นตัวนี้ไม่มีคนใช้แล้ว”
เจียงจื่อเจี่ยน “งั้นนายจะแก้ไปทำไม?”
“ย้ำคิดย้ำทำน่ะ” เทียนเหอตอบแบบไม่ใส่ใจนัก “จะไปทนให้มีสิ่งแบบนี้ปรากฏอยู่บนโลกได้ยังไง? ฉันต้องปรับปรุงแก้ไขมันหน่อยแล้วค่อยไปขอโทษตามบ้าน หลายวันนี้ฉันจะไม่ออกจากบ้าน นายยุ่งเรื่องของนายไปเถอะ”
เจียงจื่อเจี่ยน “หน่วยเซิร์ฟเวอร์ของนายจะทำไงอ่ะ?”
เทียนเหอตอบ “ค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน”
เจียงจื่อเจี่ยนรู้ว่าขอเพียงแค่เทียนเหอเริ่มทำงาน เขาก็จะกลายสภาพกลายเป็นไอหายไปทันที ไม่ฝืนเขาแล้วกัน มือหยิบเสื้อกันหนาวขึ้นแล้วเอ่ย “ไว้ฉันจะช่วยนายคิดหาวิธีอีกที”
“โอเค” เทียนเหอตอบ
“จะพยายามดิ้นรนหาวิธีที่ไม่ต้องไปขอร้องกวนเย่ว์ที่ควรไปตายนั่น” เจียงจื่อเจี่ยนหันไปพูดกับเทียนเหอ
เทียนเหอ “ฉันโดนคำว่า ‘ดิ้นรน’ ของนายแทงใจดำเต็มๆ เฉดหัวตัวเองออกไป ตอนนี้ เดี๋ยวนี้”
เจียงจื่อเจี่ยนผิวปาก หันไปพูดเสียงดังใส่นกแก้วว่า “หุ้น A ตกอีกแล้ว!”
“หุ้น A!” นกแก้วกางปีกสรรเสริญวิหารศักดิ์สิทธิ์ของเศรษฐีตะวันออก ก่อนจะตะโกนเสียงดังอย่างกระตือรือร้นว่า “กวนเย่ว์ตายแล้ว!”
“นี่ค่อยดีหน่อย” เทียนเหอพูดอย่างพึงพอใจ

คอมเมนต์

Chapter List