รีเทิร์นหัวใจ กับ AI จอมวุ่น ตอนที่ 6

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 6

ตึกอิ๋นไท่ชั้นชั้นสี่สิบเจ็ด เสียงคนวิ่งดังอยู่ในฟิตเนสที่สามารถมองเห็นวิวของทั้งเมืองได้
กวนเย่ว์กับถงข่ายกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูงบนลู่วิ่ง กวนเย่ว์ก้าวเท้ายาวๆอยู่ในกางเกงออกกำลังกายขาสั้นสีดำ เขาสูงกว่าถงข่ายเพียงเล็กน้อย ใบหน้างดงามราวกับประติมากรรมจากช่างปั้นชั้นดี ผมเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ผิวขาวสว่างเพราะช่วงนี้ไม่ได้โดนแดดมากนัก กวนเย่ว์เปิดไฟอีโค่ยูวีแล้วหยิบแว่นป้องกันสายตามาใส่ หันหน้าไปยังจอสำหรับอ่านบนลู่วิ่ง หน้าจอแสดงตัวหนังสือที่เลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“นายอ่านเร็วเกินไปแล้ว!” ถงข่ายประท้วง “ปรับเป็นเลเวลสี่!”
กวนเย่ว์ลดระดับความเร็วของตัวหนังสือลง ถงข่ายตามอ่านทันแล้ว แต่กลับวิ่งไม่ทันแทน เกือบลื่นล้มลงไปตั้งหลายครั้ง จนสุดท้ายก็ได้แต่ยอมแพ้เลิกวิ่ง
กวนเย่ว์มองถงข่ายด้วยหางตาเพียงชั่วครู่แล้วหันไปจดจ้องบนจอต่อ ถงข่ายหอบสักพักก่อนจะจ้องกวนเย่ว์
กวนเย่ว์ “?”
ถงข่าย “นายวิ่งเร็วขนาดนี้ ไม้เท้าเวทย์มนตร์ในตำนานของนายไม่สะบัดจนเจ็บเหรอ?”
กวนเย่ว์ “ไสหัวออกไป กางเกงในมีไว้ทำอะไร?”
ถงข่ายออกมาหลังอาบน้ำเสร็จ กวนเย่ว์กำลังนั่งโน้มตัวอยู่บนม้านั่ง ในมือถือดัมเบลล์ยกขึ้นไปยังหน้าท้องพร้อมกับนั่งฟังข่าวเช้าของลอนดอน หลังเที่ยงแล้วแดดส่องเข้ามายังห้องฟิตเนส ถงข่ายผิวปากแล้วพูด “ฉันจะไปหาคู่”
กวนเย่ว์อืมรับคำอย่างไม่ใส่ใจนัก ถือรีโมทขึ้นมาเปลี่ยนช่อง ถงข่ายถามขึ้นอีก “คืนพรุ่งนี้นายมีนัดดูตัว?”
กวนเย่ว์ไม่ได้ตอบ ถงข่ายเลยเดินไปยืนกางขาตรงข้ามกวนเย่ว์ เอ่ยปากถามอีกรอบ “คู่ดูตัวนี่ผู้ชายหรือผู้หญิงอ่ะ? มีรูปป่ะ? เอามาดูหน่อยดิ”
กวนเย่ว์ไม่แม้แต่จะชายตามองถงข่าย ย้ายดัมเบลล์ไปถือด้วยมือข้างขวา ถงข่ายเอามือลูบต้นขาตัวเอง “เสี่ยวเย่ว์เย่ว์ ตอนนี้ฉันอยากรู้มากว่านายรู้สึกกับผู้ชายหรือผู้หญิงมากกว่า”
ถงข่ายแค่อยากหยอกเขาเล่นเฉยๆ เขาคว้ามือถือของกวนเย่ว์มาตรงจ่อหน้าอีกฝ่ายเพื่อปลดล็อคหน้าจอก่อนจะเปิดแอพพลิเคชั่นแชท นิ้วมือลองเลื่อนหาขำๆ เจอรูปหญิงสาวผมทองตาสีเขียวเลยรีบพูด “โอ๊ะ! สวยนะเนี่ย คนประเทศไหนอ่ะ? เธอส่งข้อความให้นายตั้งมากมาย นายกลับตอบแค่คำเดียวเนี่ยนะ อย่าเย็นชานักสิ ไหนดูสิ ซุปเปอร์โมเดลจากยูเครน! โห แถมที่บ้านยังทำธุรกิจค้าขายอีก?”
ในหน้าต่างแชทนั้นฝ่ายหญิงเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น พิมพ์มาไม่กี่คำก็ถามกวนเย่ว์อีกว่ายุ่งอยู่ไหม กวนเย่ว์ตอบไปแค่ “ใช่” ก็ทำให้แชทตันเสียแล้ว
ถงข่าย “ฉันไปก่อนนะ”
กวนเย่ว์ “โชคดี”
ถงข่ายเดินออกไปพร้อมกับผิวปากเล่น กวนเย่ว์ปิดมือถือ ปิดเครื่องสำหรับอ่านในห้องฟิตเนส ปิดแม้กระทั่งทีวี ก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดซีดีเเผ่นหนึ่งแล้วเริ่มวิดพื้นเซตต่อไป

“พ่อหนุ่ม! เธอรู้ไหมว่าน้ำซุปของหม้อนี้ต้องต้มนานแค่ไหนน่ะ โอ้ย! เงิน? เธอคิดว่าฉันสนใจเงินแค่นี้ของเธอหรือไง?”
“ขอโทษจริงๆครับ ขอโทษ” เทียนเหออยู่ที่ร้านบะหมี่ด้านล่าง ยืนมองเถ้าแก่ใช้กระบวยขนาดใหญ่ตักมือถือออกมาจากหม้อ เถ้าเเก่เนี้ยที่ถูกน้ำซุปกระเด็นใส่ทั้งตัวกำลังยืนเท้าสะเอวอยู่ด้านข้าง ระดับความโมโหพุ่งขึ้นสูงสุด
เสียงอันคุ้นเคยดังมาจากในหูฟังอีกรอบ “ก่อเรื่องอีกแล้ว?”
ถึงมือถือจะตกลงในหม้อ แต่สายก็ยังไม่ถูกตัดขาดจากหูฟังบลูทูธที่เทียนเหอใส่ พอชดใช้เสร็จสรรพก็ได้มือถือคืนในที่สุด เขาเอ่ยถาม “นายเป็นใคร?”
เสียงนั้นตอบกลับมาว่า “แกล้งโง่แล้วได้อะไร? ฉันเห็นข่าวของบริษัทบ้านนายแล้ว มาคุยกันหน่อยเป็นไง”
เทียนเหอกดหูฟังบลูทูธแล้วพูด “ฉันให้เวลาแค่สามวินาที ถ้ายังล้อเล่นอยู่อีกจะวางสายแล้ว สาม สอง…”
เสียงที่ตอบกลับเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “นายฟังออกได้ไง?”
เทียนเหอบอก “นายหลอกฉันไม่ได้หรอก ต้องการจะทำอะไรกันแน่?”
“อือ โป๊ะแตกอยู่ดีแฮะ” เสียงนั้นกลั้วหัวเราะตอบกลับมา “เหวินเทียนเหอ พบกันครั้งแรก…”
มือถือปิดเครื่องอัตโนมัติ สายถูกตัดขาด
เทียนเหอรีบดูมือถือตัวเองแวบหนึ่งก่อนจะกดลิฟต์ขึ้นห้อง ป้าฟางออกไปจ่ายตลาดแล้ว เทียนเหอกลับห้องทำงาน แกะซิมออกมาแล้วเปิดกล่องจากบนตู้หนังสือเพื่อค้นหามือถือสำรอง ขณะที่เขากำลังเปลี่ยนซิมนั่นเอง จู่ๆ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่อยู่บนโต๊ะของเขาก็เปล่งเสียงออกมา
“หวังว่าจะไม่ทำให้นายตกใจนะ เทียนเหอที่รัก”
เทียนเหอหยุดการกระทำทุกอย่าง ในมือยังคงถือมือถือสำรองไว้ เขาหันหน้าไปยังตัวคอมพิวเตอร์ และในตอนนั้นนั่นเอง ขนาดตอนล้มละลายที่คนอย่างเขายังใจเย็นยังต้องร้องออกมาอย่างเสียสติ
“นายเป็น AI งั้นเหรอ?!!!”
เสียงดนตรีออเคสตร้าพร้อมใจกันดังกระหน่ำจากห้องนอนยันห้องรับแขก ลำโพงทุกตัวปล่อยเสียงออกมาอย่างพร้อมเพรียง ทีวี คอมตั้งโต๊ะ โน๊ตบุ๊คต่างก็ถูกเปิดพร้อมกันก่อนจะถูกปิดลง จู่ๆ ก็มีนักมายากลล่องหนปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบงันในห้องชุดเล็กๆ ที่มีขนาดไม่ถึงหนึ่งร้อยตารางเมตรนี่ ใบไม้จากต้นไม้ที่อยู่ในห้องต่างก็สั่นไปพร้อมกับเสียงดนตรี
หลังจากนั้นเสียงดนตรีออเคสตร้าในห้องที่ถูกแบ่งเป็นสัดส่วนก็บรรเลงพร้อมกันอย่างลื่นไหลราวกับสายน้ำได้รายล้อมห้องทำงานเล็กๆ แห่งนี้ สติของเทียนเหอถูกดึงไปยังโลกอันกว้างใหญ่จากคลื่นทะเลยักษ์ไปจนถึงฟ้าผ่าฟ้าร้อง จากพายุฝนกระหน่ำจนถึงยอดสูงสุดของทุ่งหญ้าป่าเขา จากวิหารศักดิ์สิทธิ์ถึงที่รกร้าง จากเวทีการแสดงไปจนถึงลานประหาร——
จากนรกจนไปถึงสวรรค์
เทียนเหอนิ่งค้างไม่แม้แต่จะขยับเลยแม้แต่น้อย สายตาจดจ้องไปยังหน้าจอของโน๊ตบุ๊ค เสียงดนตรีถูกกลืนไปกับบรรยากาศโดยรอบ เทียนเหอไม่ได้พูดอะไรเลยจนหนึ่งนาทีผ่านไป โน๊ตบุ๊คที่ควบคุมลำโพงของทั้งบ้านก็ไม่ได้เปล่งเสียงอะไรออกมาอีก
สุดท้าย เทียนเหอก็เป็นคนทำลายความเงียบ
“ไฮ สวัสดี”
“สวัสดี” โน๊ตบุ๊คก็ยังคงเปล่งเสียงที่เขาคุ้นเคยออกมา “ดูเหมือนว่านายจะชอบวิธีการทักทายแบบของฉันนะ”
เทียนเหอรีบเลื่อนเก้าอี้ไปยังหน้าโต๊ะทำงานแล้วตรวจเช็คแบตเตอรี่ก่อนจะคลิกเปิดโปรแกรมการเขียนโค้ดขึ้นมา แล้วรีบพิมพ์ป้อนคำสั่งลงไป ทั้งสองมือต่างก็สั่นอย่างหยุดความตื่นเต้นไม่ได้ ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในฝันเลย
“นายสามารถพูดกับฉันได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ป้อนคำสั่งอะไรอีก” เสียงจากในคอมพูด “ถ้าเทียบกันแล้วฉันชอบวิธีพูดแบบนี้มากกว่า”
“นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ!” ผ่านมาเกือบสิบปีนี่เป็นช่วงเวลาที่เทียนเหอรู้สึกว่าตัวเองช็อคบวกอึ้งมากที่สุด “นายมีตัวตนได้ไง? นายเป็นใคร? บอกฉันทีว่านายไม่ใช่แฮ็กเกอร์”
“ไม่ใช่แน่นอน” เสียงผู้ชายที่เขาแสนจะคุ้นเคยดังขึ้นมาจากคอม “นอกจากฉันจะไม่ชอบบีโธเฟ่นแล้วฉันยังเกลียดบาคด้วย ถ้าเทียบกันแล้วฉันชอบโมซาร์ทมากกว่า และนอกจากฉันจะไม่ชอบกินกาแฟแล้ว ยังไม่ชอบกินชานมอีกด้วย ถ้ามีโอกาสล่ะก็ ฉันก็อยากลองโกปี๊ดู”
“ฉันคือปัญญาประดิษฐ์ที่พ่อของนายเหวินหยวนข่ายรวมมือกับเพื่อนสนิทของเขากวนเจิ้งผิงร่วมกันออกแบบขึ้นมา พวกเขาตั้งชื่อให้ฉันว่าโพรมีธีอุส” เสียงจากในคอมกล่าว “นายตกใจมากเกินไปแล้ว เหวินเทียนเหอ อยากใส่สมาร์ทวอชให้ฉันลองวัดอัตราการเต้นของหัวใจไหม? เผื่อเอาไว้ก่อน?”
เทียนเหอรู้สึกมึนหัวไปชั่วครู่ เขารีบตรวจเช็คไฟร์วอลล์กับระบบทั้งหมดแต่ก็ไม่พบการบุกรุกใดๆ ทั้งสิ้น ครั้งนี้เขาลองปิดเราท์เตอร์เพื่อตัดขาดอินเทอร์เน็ตดู
“ถ้าตัดเน็ตล่ะก็…” เสียงจากคอมพิวเตอร์ยังคงกล่าวต่อ “นายก็จะสามารถใช้งานฉันได้แค่บางส่วนเท่านั้น”
“Prometheus” เทียนเหอพึมพำ “โพรมีธีอุส เทพเจ้าที่ขโมยไฟมามอบให้แด่มนุษย์”
“พูดให้แม่นยำกว่านี้ก็คือเวอร์ชั่นสาม นายจะเรียกฉันว่า Pt 3.0 หรือ P3 ก็ได้” เสียงนั่นพูด “หรือจะเรียกแค่โพรก็ได้ แต่จริงๆ แล้วฉันก็โอเคนะถ้านายจะเปลี่ยนชื่อให้ แล้วก็ช่วยเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหน่อยได้ไหม ไม่ต่อเน็ตแล้วฉันรู้สึกกระสับกระส่ายมาก”
เกิดเสียงกดเบาๆ ขึ้นหลังจากเทียนเหอยกมือขึ้นค่อยๆ เคลื่อนไปยังอีกฝั่งของโต๊ะหนังสือก่อนจะกดเปิดสวิตช์ของเราท์เตอร์
“ขอบคุณ รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย” โพรบอก “ตอนนี้อาจจะไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดในการคุยกันเรื่องนี้ แต่เทียบกับอุปสรรคที่เราเจอตอนนี้แล้วเวลาของเราก็เหลือไม่มากนัก ฉันต้องการความช่วยเหลือของนาย ฟังก์ชั่นหลักของฉันถูกเซฟอยู่ที่หน่วยเซิร์ฟเวอร์ของอีพีอุสที่เช่ามาจากโทรอนโต แคนาดา เมื่อนายยื่นขอล้มละลาย พวกเขาก็จะส่งเซิร์ฟเวอร์ให้บริษัทประเมินราคาประมูลขายทอดตลาดแล้วจะถูกกักเก็บข้อมูลชุดใหม่…”
เทียนเหอเหมือนยังอยู่ในภวังค์ กล่าว “อีพีอุสพัฒนา AI ได้แล้ว! ไม่ต้องยื่นขอล้มละลายแล้ว!”
“ไม่ๆ” โพรตอบ “เทียนเหอ ไม่ใช่อีพีอุสที่เป็นคนพัฒนาฉัน แต่เป็นพ่อของนายต่างหาก ฉันแนะนำอย่างจริงใจเลยว่าอย่าได้มีความคิดใดๆ ที่จะขายฉันให้กับองค์กรอินเทอร์เน็ตเชียว เชื่อฉัน ไม่งั้นโอกาสที่นายจะเสียใจภายหลังจะสูงถึง 99.7%”
เทียนเหอ “…”
“โมดูลหลักของฉันถูกประกอบขึ้นจากสองส่วนใหญ่ๆ” โพรกล่าวอธิบายอย่างเรียบนิ่ง “ตัวแรกคือโปรแกรมวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนตลาดหุ้นระดับโลกที่พ่อของนายกับกวนเจิ้งผิงเป็นคนพัฒนาขึ้น โดยระบบตั้งอยู่บนพื้นฐานของระบบเทรดอัตโนมัติ คอยเก็บข้อมูลกับวิเคราะห์พฤติกรรมของมนุษย์โดยเฉพาะ”
เทียนเหอมองหน้าจออย่างเหม่อลอย บนหน้าจอปรากฏหน้าต่างซ้อนขึ้นมาอันแล้วอันเล่า โดยเริ่มต้นจากปี 1994 ขั้นตอนการพัฒนาของโพรมีธีอุสค่อยๆ ปรากฏสู่สายตาของเทียนเหอ และทันทีทันใด กลางหน้าจอก็โชว์เส้นลากยาวกลายเป็นไทม์ไลน์ที่มีระยะเวลานานกว่ายี่สิบปี ข้อมูลจากแต่ละช่วงเวลาถูกย่อส่วนและถูกจัดเรียงให้อยู่ในแต่ละจุดบนเส้นไทม์ไลน์
“รุ่นอัพเดท 2.0 เป็นโปรแกรมการเรียนรู้ที่พัฒนาโดยกวนเจิ้งผิง ฉันต้องตั้งมนุษย์หนึ่งคนเป็นตัวอย่างในการศึกษา โดยเก็บข้อมูลผ่านเครื่องมือพกพา และแล้วการเก็บข้อมูลที่ยาวนานถึงสิบแปดปีก็ได้เริ่มต้นขึ้น หลังจากได้ข้อมูลโดยรวมแล้วค่อยใช้โหมดเรียนรู้ของฉันทำการวิเคราะห์และลอกเลียนแบบ”
บนหน้าจอปรากฏภาพหน้าตรงของเด็กชายคนหนึ่งขึ้น ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์
“ตัวอย่างมนุษย์ที่แสนยอดเยี่ยมคนนี้ ทำให้ฉันได้เรียนรู้สิ่งที่มนุษย์ควรมีอย่างอารมณ์กับวิธีคิดขั้นต้น รวมถึงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจและความรู้สึกต่างๆ เป็นต้น”
“ท้ายที่สุด โมดูลหลักทั้งสองถูกประกอบรวมกันโดยเวอร์ชั่น 3.0 เมื่อสองปีสี่เดือนที่แแล้วได้ทำการอัพเกรดเสร็จเรียบร้อย” โพรเล่า “หรือที่นายเห็นอยู่ก็คือฉันในตอนนี้นั่นเอง แต่ฉันก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะผ่านการทดสอบทัวริง[1]ของจริงได้หรือเปล่า”
“ตัดเรื่องโหมดโกงในการทดสอบของทัวริงแล้วล่ะก็…” เทียนเหอขมวดคิ้วพึมพำ “ถ้าฉันเป็นผู้สังเกตการของการทดสอบ นายก็ผ่านตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
“แต่ก็แค่ในระยะสั้น” โพรตอบ “เพราะสุดท้ายนายก็จะพบว่าฉันเป็น AI อยู่ดี ฉันนึกว่าฉันเข้าใจต้นแบบได้อย่างลึกซึ้งแล้วซะอีก แต่ก็ยังหลอกนายไม่ได้”
เทียนเหอจ้องรูปภาพหน้าตรงของเด็กชายบนจอแล้วพึมพำว่า “ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ ตัวอย่างนี้…”
“ใช่” โพรตอบข้อสงสัยของเขา “หลานชานของกวนเจิ้งผิง กวนเย่ว์ คนรักเก่าของนาย”

คอมเมนต์

Chapter List