รีเทิร์นหัวใจ กับ AI จอมวุ่น ตอนที่ 1

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 1

วันที่ 1 กันยายน แสงอาทิตย์ส่องประกายสดใส วันแรกที่เหวินเทียนเหอได้กลายมาเป็น CEO บริษัทก็ล้มละลายเสียแล้ว เรื่องราวต้องเล่าย้อนกลับไปเมื่อสามชั่วโมงครึ่งที่แล้ว ตอนที่เทียนเหอไปส่งพี่ชายรองเหวินเทียนเย่ว์ ตาทั้งคู่ของพี่รองคลอไปด้วยน้ำตา เขาพูดกับน้องชายอย่างจริงใจว่า
“เป๋าเป่า พี่จะกลับมาอย่างช้าก็ภายในหนึ่งเดือน ในช่วงเวลานี้ฝากบริษัทไว้ในมือน้องด้วย”
เทียนเหอกล่าวอย่างไม่พอใจ “อย่าเรียกชื่อเล่นผมที่สนามบินสิ! วางใจเถอะ ผมจัดการได้ ไปอยู่ซิลิคอนแวลลีย์[1]ก็ดูแลตัวเองดีๆ อย่าลืมเอาลายเซ็นซัคเกอร์เบิร์ก[2]มาฝากผมด้วย ผมค่อนข้างชอบเขา”
“พอพี่จัดการทุกอย่างลงตัว น้องก็บินมาสิ เดี๋ยวพี่นัดเสี่ยวซัคไปกินข้าวที่ซัมซุง แล้วนัดจ๊อบส์[3]มาด้วยเป็นไง”
“จ๊อบส์ตายแล้ว” เทียนเหอพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
เหวินเทียนเย่ว์รีบแก้ “พี่หมายถึงคุก[4]น่ะ พวกน้องต้องมีเรื่องให้คุยกันมากมายแน่ๆ”
“รีบไปเถอะ” เทียนเหอพูด “อย่ากินเหล้าบนเครื่องนะ”
พอประกาศขึ้นเครื่องดังขึ้น เทียนเหอมองส่งพี่ชายที่เดินโซซัดโซเซด้วยฤทธิ์เหล้าสองขวดจากเมื่อคืนขึ้นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวผ่านกำแพงกระจกเสร็จ ก็หมุนตัวเดินออกจากเลาจน์วีไอพีไปขึ้นรถแล้วบอกกับคนขับรถว่า
“ไปบริษัท แจ้งพวกผู้บริหารด้วยว่าประชุมตอนสิบโมง”
คนขับรถมองเหวินเทียนเหอผ่านกระจกมองหลัง มือเอื้อมเปิดเพลง ภายใต้ความไพเราะของ Partita no. 4 in D major รถกำลังติดอยู่บนทางด่วนเพราะเป็นช่วงเวลารีบเร่งในตอนเช้า ตอนนี้การจราจรติดขัดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ท่านประธานครับ ถ้าง่วงก็นอนสักพักไหมครับ?”
“ไม่ง่วง”
เทียนเหอนั่งจับเข่าคุยกับพี่ชายก่อนออกเดินทางทั้งคืน แต่เช้าวันนี้กลับรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเป็นอย่างมาก—— แค่เพราะว่าวันนี้เป็นวันดีที่เขารับช่วงบริษัทอย่างเป็นทางการก็เท่านั้น เขาจัดผมและมองตัวเองอย่างละเอียดผ่านกระจกมองหลัง
เหวินเทียนเหอ อายุยี่สิบสามปี ราศีสิงห์ สูง 180 ซม. ขนาดอวัยวะส่วนตัว18 ซม. ทรัพย์สินวงศ์ตระกูล 1,800 ล้าน มีคฤหาสน์ใหญ่ 1,800 ตารางเมตร มีบ้านพักตากอากาศส่วนตัว 18 หลังทั่วโลก จบการศึกษาปริญญาโทสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เป็นลูกชายคนเล็กสุดของผู้ก่อตั้งบริษัท อีพีอุส อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด มหาชน เป็นชายหนุ่มสูงหล่อขายาวที่ชอบใส่เสื้อเชิ้ตแต่ไม่ชอบผูกไทด์ เป็นเกย์ และเป็นฝ่ายรับ
เพราะฉะนั้น 18 ซม.ที่มี เลยไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่นัก
หน้าตาของเทียนเหอได้รับพันธุกรรมเจอร์มานิค[5]ของฝ่ายแม่ ส่วนจมูกกับริมฝีปากได้รับถ่ายทอดมาจากฝั่งพ่อ เรียกได้ว่าพันธุกรรมที่ดีที่สุดได้มารวมอยู่บนร่างเขาหมดแล้ว ผิวขาวเรียบเนียนและใบหน้าหล่อเหลาของเขาชอบเรียกปัญหาให้บ่อยๆ ในสมัยเรียนอยู่ที่เคมบริดจ์ แต่ก็อย่างว่า รูปพรรณสัณฐานที่ดีมีเต็มไปทั่ว แต่จิตวิญญาณที่น่าสนใจมีเพียงน้อยนิด และเทียนเหอก็ไม่ใช่พวกคนธรรมดาที่มีดีแค่หน้าตาด้วยสิ มีหลายครั้งที่เขาอยากให้ตัวเองเกิดมาหน้าตาธรรมดาลงหน่อย แบบนี้พวกโปรเฟสเซอร์จะได้สนใจในโค้ดที่เขาแปลงหรือตกใจในความสามารถของเขามากกว่าการเอาแต่จ้องหน้าของเขา
คนขับรถเสี่ยวหลิวหันหน้ามาทางที่นั่งเบาะหลัง “ท่านประธานครับ พวกผู้บริหารมากันพร้อมแล้วครับ”
“ดีมาก” เทียนเหอปัดผมที่ปรกลงมาที่หน้าผากอย่างสง่างาม “เปลี่ยนเพลงหน่อยได้มั้ย ตอนนี้ผมต้องการดนตรีอื่นที่ไม่ใช่บาค[6]”
เสี่ยวหลิวพูดอย่างซื่อๆ ว่า “แต่ได้ยินมาว่าบาคจะทำให้จิตใจสงบนะครับ”
เทียนเหอ “บาคเป็นเพลงที่ป้าฟางชอบเปิดฟังตอนทำงานบ้าน มีคนเคยบอกไว้ว่าพระเจ้ามีหน้าที่ชะล้างโลกมนุษย์ ส่วนบาครับผิดชอบเรื่องซักผ้า เพลงนี้มักจะทำให้ผมนึกถึงเครื่องซักผ้าแบบปั่น”
เสี่ยวหลิวเปลี่ยนเป็นเพลงของโมซาร์ท[7] แม้ว่าการจราจรจะไม่ติดขัดแล้ว แต่รถก็ยังถูกขับเคลื่อนไปอย่างเชื่องช้าราวกับไม่อยากให้เบนท์ลีย์คันนี้ถึงจุดหมายยังไงอย่างนั้น
เทียนเหอเอ่ยปากอย่างมีมารยาท “ขับเร็วกว่านี้หน่อยได้ไหม? ถ้าไม่สบายล่ะก็ พักก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวผมขับเอง?”
เสี่ยวหลิวเพิ่มความเร็วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบมองเทียนเหอผ่านกระจกมองหลังอย่างเห็นอกเห็นใจอีกครั้ง

ย่านซินจื่อเถิง อาคาร High New Tech ตึกสอง ชั้นยี่สิบเจ็ด ชั้นผู้บริหารของบริษัท อีพีอุส อินฟอร์เมชั่น จำกัด มหาชน
“ท่านประธานที่สองมาถึงที่จอดรถแล้ว เตรียมตัวเร็ว!”
ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ตอนนี้ผมกลัวท่านประธานที่สองจะทะเลาะกับพวกหุ้นส่วนมาก”
รองประธานตบไหล่ของผู้อำนวยการฝ่ายเงิน “ถ้าพูดตามความเป็นจริงแล้วก็ไม่น่าจะตีกันขึ้นมาหรอก แต่ถ้าตีกันขึ้นมาจริง พวกเราก็แกล้งทำเป็นห้ามหน่อยละกัน แต่กดเขาไว้ให้พวกหุ้นส่วนตีหน่อยก็ไม่เห็นเป็นอะไร ใช่ป่ะ?”
“จะทำอย่างนั้นกับท่านประธานที่สองได้ไงกัน?” ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ
รองประธาน “เจ้าหนี้ก็ต้องระบายอารมณ์กันบ้าง ยิ่งไปกว่านั้นผ่านวันนี้ไปแล้วเขาจะยังเป็นประธานอยู่ไหมยังพูดยากเลย”
ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินครุ่นคิดสักครู่ก่อนเอ่ยปากถามขึ้นอีก “ควรล็อคหน้าต่างให้หมดไหม? ถ้าเกิดท่านประธานโดดตึกจะทำยังไง?”
“ใช่! ใช่!” รองประธานเหมือนพึ่งตื่นจากฝัน “กันไว้ดีกว่าแก้!”
ผู้ช่วยประธานกล่าว “เป็นไปไม่ได้ ประธานที่สองเป็นคนสง่างามจะตาย โดดตึกน่าเกลียดเกินไป ถ้าจะทำก็น่าจะใช้เชือกผูกคอตายมากกว่า”
“ผูกคอตายน่าเกลียดกว่าอีก!” รองประธานแย้ง “มันจะทำให้ฉี่นะ! ถ้าตามสไตล์เขาแล้ว บนเตียงของเขาต้องเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบที่นำเข้ามาจากปารีสสิ…”
“มาแล้ว! เข้าลิฟต์แล้ว!”

หน้าเครื่องกดน้ำ เหล่าผู้บริหารระดับสูงวงแตกหลังโดนไล่ ผู้ช่วยท่านประธานเคาะประตูห้องประชุม ที่นั่งในห้องประชุมใหญ่นั้นถูกจับจองไปด้วยตัวแทนจากธนาคาร นักลงทุน และตัวแทนผู้รับผิดชอบจากอีกสามมูลนิธิ
“ประธานที่สองของเรากำลังจะถึงบริษัทแล้วครับ” ผู้ช่วยเอ่ย “อีกห้านาทีครับ”
“ดี… ดี” ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อธนาคารอายุกว่าห้าสิบปี ดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาหนึ่งผืน ก่อนจะซับเหงื่อที่ซึมออกมาบนหัวล้านของเขา
ผู้จัดการสาขาธนาคารหันไปถามผู้ช่วย “ตอนนี้ท่านประธานที่สองของพวกคุณเป็นผู้รับผิดชอบตามกฏหมายตัวจริงของบริษัทใช่ไหมครับ”
ผู้ช่วยท่านประธานตอบ “กระบวนการเปลี่ยนผ่านทุกอย่างเสร็จสิ้นตั้งแต่เดือนที่แล้ว ตอนนี้เขาเป็นผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย ไม่ผิดแน่ครับ”
เมื่อผู้ช่วยท่านประธานออกจากห้องไป ทุกคนก็หันหน้ามามองกันและกัน
“อีกสักครู่ใครจะเป็นคนเริ่มก่อน” ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อปริปากถาม
“เริ่มที่ธนาคารแล้วกัน” นักลงทุนตอบ “เขาติดหนี้ธนาคารเยอะที่สุดนี่”
“พวกคุณเริ่มก่อนดีกว่า” หัวใจของผู้จัดการสาขาธนาคารคงรับไม่ไหว “ไม่ก็เชิญมูลนิธิหมีแพนด้าก่อน?”
“ไม่ๆ พวกคุณก่อนเถอะ”
“พวกคุณก่อนเลย…”
ตัวแทนผู้รับผิดชอบจากมูลนิธิหมีแพนด้าเอ่ย “ผมแนะนำให้ทุกคนเลิกหวังลมๆ แล้งๆ เถอะครับ จากสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทนี้ในตอนนี้ ต่อให้บัฟเฟตต์[8]มาเกิดใหม่ตอนนี้ก็คงช่วยให้รอดกลับมาไม่ไหว”
“บัฟเฟตต์ยังไม่ตายสักหน่อย” ตัวแทนผู้รับผิดชอบจากมูลนิธิคอนราดแทรก “บริษัทเราพึ่งไหว้วานเขาเป็นจำนวนเงินกว่าเจ็ดพัดล้าน พูดแบบนั้นไม่เป็นมงคลเลยนะ”
ตัวแทนมูลนิธิหมีแพนด้ากล่าวเยาะเย้ย “พวกคุณไปหาเจ็ดพันล้านมาจากไหนกัน? ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน? ผมว่าต้องเป็นเจ้านายพวกคุณที่ไปหาหม่าฮั่วเถิง[9]หลังไมค์จนได้เงินมาเจ็ดพันล้านเหรียญ QQ[10] ล่ะมั้ง”
เสียงของตัวแทนจากมูลนิธิคอนราดถึงกับสูงขึ้นแปดคีย์ “นึกว่าทุกคนจะเป็นเหมือนบริษัทพวกคุณหรือไง ลงทุนให้บริษัทเทนเซนต์ไปแล้วจะเอาแต่ฮั้วกันลงข่าวบทความอุตสาหกรรมของตัวเองเรียกยอดคนอ่านอีกนะ!”
“พอได้แล้วมั้ง” ผู้จัดการสาขาพูดขึ้น “ทุกคนต่างก็มาทวงหนี้กันทั้งนั้น เลิกทะเลาะกันเองสักที ฉันจำได้ว่าตอนแรก เพื่อจะลงทุนให้อีพีอุสแล้ว พวกนายก็ทะเลาะจนเกือบจะตีกัน ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรก ตอนนั้นจะทะเลาะกันไปทำไมกันนะ”
ผู้คนในห้องประชุมต่างก็เงียบลงกันอีกครั้งราวกับกำลังรอคอยเข้าร่วมพิธีศพของบัฟเฟตต์

เมื่อเทียนเหอเข้าบริษัท พนักงานในชั้นผู้บริหารเหมือนมีแสงสว่างเกิดขึ้น แต่แล้วก็กลับไปมืดมนเหมือนเดิม
“ประธานที่สอง นี่กาแฟของคุณครับ”
“ขอบคุณ แต่ผมไม่ดื่มสตาร์บัค วันหลังก็ไม่ต้องเรียกผมว่าท่านประธานที่สองด้วย” เทียนเหอยิ้มให้ผู้ช่วยแล้วหันไปถามผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน “เหมยซี พวกผู้บริหารมากันครบในห้องประชุมแล้วใช่ไหม?”
ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินตอบทันที “วันนี้มีแขกอยากเข้ามาพบคุณอยู่หลายคน พวกเขามานั่งรอกันในห้องประชุมใหญ่ พวกเราก็คิดว่าคงไม่ดีเท่าไหร่นักถ้าให้พวกเขาเปลี่ยนที่”
เทียนเหอผลักประตูห้องประชุมก่อนจะหันมากล่าว “งั้นฝากคุณแจ้งทุกคนทีว่าเลื่อนการประชุมผู้บริหารเป็นตอนบ่าย… พวกคุณในนี้คือ?”
ในห้องประชุม ปฏิกิริยาของตัวแทนเหล่าผู้ถือหุ้นเหมือนเห็นบัฟเฟตต์ลุกขึ้นจากโลงศพ ต่างก็ยืดตัวขึ้นพร้อมตะโกน “เซอร์ไพรส์!”
“สวัสดีครับ… ทุกคน วันนี้ไม่ใช่การประชุมผู้ถือหุ้นประจำไตรมาสนี่ครับ? ทำไมฝั่งธนาคารก็มาด้วยล่ะ?” เทียนเหอยังไม่ทันได้เข้าใจสถานการณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินกับรองประธานก็ตามเข้ามาพร้อมปิดประตูห้องประชุมใหญ่ให้อย่างเสร็จสรรพ
ในห้องประชุม คนขับรถหันไปถามผู้ช่วย “เช็คหน้าต่างอีกรอบไหมครับ ในบริษัทล็อคหมดแล้ว ตรงทางเดินล่ะครับ?”
ผู้ช่วยตอบ “เช็คแม้กระทั่งในห้องน้ำชายเลยล่ะ ไม่มีปัญหาแน่นอน”
พนักงานด้านนอกต่างก็เงยหน้ามองประตูห้องประชุมใหญ่เป็นพักๆ

คอมเมนต์

Chapter List