ลูกหมาของผมกลายเป็นเสือขาว! ตอนที่ 1-3
ตอนที่ 1-3 เก็บลูกหมาตัวนั้นกลับมา
“เอาล่ะ กินสิ่งนี้สิ”
ฮันยู่ปากกับความอำมหิตของเสือขาวที่เอาแต่ส่งเนื้ออกแน่นๆ มาให้ตัวเอง ก่อนจะฉีกไก่ทอดเงียบๆ ดูท่าปีศาจก็ลิ้นถึงเหมือนกัน
น่าหมั่นไส้เหลือเกินกับการยื่นเนื้อส่วนอกให้เขา แต่ตัวเองกลับสวาปามส่วนขากับปีกจนหมดเกลี้ยง ฮันไม่สามารถซ่อนคิ้วที่ขมวดเข้าหากันได้ เมื่อมองการกระทำของเสือขาวที่เอาแต่ใส่เนื้อนุ่มๆ เข้าปากตัวเอง เป็นบุคคลที่นิสัยเหมือนอะไรสักอย่าง
“…หรือว่า มีเรื่องไม่พอใจงั้นรึ”
“ปะ… เปล่าครับ ไม่มีทางหรอกครับ แค่ซึ้งกับบุญคุณที่กว้างเหมือนมหาสมุทรแค่นั้นเองครับ”
ยิ่งพูดไปเรื่อยๆ น้ำเสียงของฮันก็ยิ่งสั่นเครือด้วยความโมโหที่พุ่งขึ้นมา แต่เขาก็พยายามสะกดกลั้นมันแล้วฉีกกินเนื้อส่วนอกกินลวกๆ เจ้าเสือขาวตัวนั้นสวาปามน่องมาห้าชิ้นแล้ว และหลังจากยัดปีกไปอีกห้าชิ้น ก็เป็นไปได้ว่าจะยื่นเนื้ออกมาให้เขาอีก
ในฐานะที่ฮันพบเจอความสามารถของเสือขาว ซึ่งสามารถทำให้สิ่งของลอยขึ้นไปกลางอากาศได้ ก็เลยต้องยอมจำนนอย่างเลี่ยงไม่ได้และทำแค่เพียงปรนนิบัติอีกฝ่ายเท่านั้น แต่มันก็ไม่มีวิธีอดกลั้นความรู้สึกเหนียวหนึบเหมือนตังเมได้เลย
“เป็นสิ่งที่อร่อยมากทีเดียว ต่อไปก็เตรียมไว้ให้บ่อยๆ ล่ะ”
“เป็นเสือขาวก็รับประทานข้าวด้วยเหรอครับ”
“ทำไม น้อยใจกับสิ่งที่ข้ากินรึ”
“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ ไม่มีทางหรอกครับ ครับ ไม่เสียดายเลยครับ”
พอฮันกัดฟันกรอดแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้เสือขาว เจ้าเสือขาวก็ตอบกลับฮันด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
“ตอนนี้ข้าก็อ่อนโยนขนาดนี้แล้ว หากเจ้าตั้งใจจะส่งข้าออกไปข้างนอกอีก ข้าจะสาปเจ้าให้หนักเลย”
อีกฝ่ายใช้เท้าหน้าป้อมๆ ตีมือเขาพลางฉีกยิ้มให้ ฮันรู้สึกเหมือนสิ่งมีชีวิตตรงหน้าอ่านความคิดเขาออกจนทะลุปรุโปร่ง ก่อนจะขนลุกซู่กับสีหน้าสดใสต่างจากความหมายของคำพูด เขาจึงพยักหน้าอย่างแรงแล้วหัวเราะแห้งๆ นึกว่าจะเป็นปีศาจโง่เง่า แต่เหมือนจะไม่ได้โง่มาก
“ฮ่าๆ ไม่มีทางหรอกครับ ดีมากๆ เลยครับ เป็นเกียรติครับ”
“เป็นการตอบรับที่ดีจริง ถูกแล้ว ได้ใสอยู่กับเทพคุ้มครองอย่างข้า สำหรับเจ้าแล้ว มันก็เป็นเรื่องที่เป็นเกียรติมาก ไม่ใช่งั้นรึ”
ไม่ใช่หรอก ไม่ได้รู้สึกเป็นเกียรติเลย
อีกนิดก็อยากจะปาแกออกนอกระเบียง มือสั่นงักๆ ไปทางนู้นทีทางนี้ที แต่ฮันพยายามอดทนพลางพึมพำในใจ ทว่าสีหน้ากลับปั้นยิ้มชัดเจนไม่น้อยไปกว่าคนทำอาชีพบริการทั่วไป เป็นท่าทางของคนสมัยใหม่ที่รู้จักประคับประครองชีวิตของตัวเองอย่างสุดชีวิต
“ใช่แล้วครับ แน่นอนอยู่แล้วครับ”
ฮันบีบกระป๋องโค้กที่ดื่มหมดแล้วพร้อมคลี่ยิ้ม เจ้าเสือขาวจึงใช้สองเท้าหน้าของตัวเองตบมือเหมือนมีอะไรน่าดีใจขนาดนั้น เขาเองก็เหนื่อยกับภาพลักษณ์น่าหมั่นไส้ของเสือขาวแล้วเหมือนกัน
“เป็นท่าทางที่ดี จะมีมนุษย์ตนไหนที่รู้ว่าควรเคารพเช่นนี้อีกไหม ในภายภาคหน้าข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างดี”
“ครับ ขอบคุณครับ”
ปฏิบัติอย่างดีบ้าอะไรล่ะ… ฮันพึมพำในใจ ถ้าไม่สวาปามไก่ทอดอีกก็คงจะดี
“แต่ช่วยเอาสัตว์ปีกทอดมาให้ข้าอีกเยอะๆ”
“….แค่ก! ครับ ครับบ”
เป็นเพราะเนื้ออกติดคอ ฮันเลยสำลักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพ่นคำสาปแช่งในใจ แล้วเริ่มคิดวิธีไล่เจ้าเสือขาวไร้ยางอายตัวนี้ออกไปจากบ้านตัวเอง ด้วยเหตุผลนั้นฮันจึงได้ใช้สมองที่ช่วงนี้ไม่ได้ใช้งานมานานครุ่นคิด
“แล้วทำไมเจ้าถึงได้กินน้ำเสียสีดำแบบนั้นเล่า น้ำในที่แห่งนี้มันมีน้อยมากเลยรึ”
“อะไรนะครับ อ๋อ นี่เหรอครับ มันคือโค้กน่ะ”
“โค้กคือสิ่งใด”
“เอ่อ อืม คือน้ำที่อร่อยมั้ง… ครับ”
“อะไรกัน มีของแบบนั้นด้วยรึ แต่เจ้าก็ไม่ได้เอาให้ข้า เจ้าเนรคุณ!”
ฮันดื่มของตัวเองหมดแล้ว และกำลังเปิดโค้กส่วนของเสือขาวดื่ม ก็เลยต้องหุบปากแล้วยื่นโค้กไปให้อีกฝ่ายด้วยมือสั่นเทา เจ้านี่คือขยะนิสัยร้ายกาจ แย่งแม้กระทั่งของที่คนอื่นกินอยู่
เจ้าเสือขาวจับกระป๋องโค้กด้วยขาหน้าป้อมๆ สองข้างแล้วดื่มอึกๆ แต่คงดื่มไปแบบลวกๆ ตัวเลยสั่นหงึกๆ จนปล่องกระป๋องโค้กตกลงพื้น
ฮันจึงด่ากราดเพราะพื้นเปียกชุ่มด้วยโคล่าที่หกออกมา เขารีบใช้กระดาษทิชชู่เช็ด ก่อนจะสบสายตากับเสือขาว แต่เจ้าเสือขาวกลับเบิกดวงตาสีฟ้าโตๆ เหมือนงุนงงกับอะไรบางอย่าง โดยที่ยังตัวสั่นอยู่แบบนั้น
“ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ครับ”
“นี่ นี่มันอะไร เหมือนคอข้าจะไหม้เลย มันคือยาพิษรึ เจ้าบังอาจให้ยาพิษเพราะจะฆ่าข้างั้นรึ”
เพราะตกใจกับเสียงตะโกนของเสือเขาที่ผ่าลงมาเหมือนสายฟ้าแล่บ ฮันเลยห่อไหล่เข้าหากันก่อนจะส่ายหน้าอย่างรีบร้อน แต่ความโกรธของเสือขาวก็ไม่ได้สงบลงเลย อีกฝ่ายทำเสียงกระหืดกระหอบ แต่พอเอาไก่ทอดที่เหลือเข้าปากถึงได้คลายความโกรธลงไปหน่อย
“ทำไมถึงกินอะไรแบบนั้น”
“ก็อร่อยไงครับ”
“ดูท่าลิ้นของเจ้าจะสนุกกับความเจ็บปวดสินะ”
“มะ… ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ถ้างั้นจะรับอย่างอื่นแทนไหมครับ”
“ถ้าคราวนี้เหมือนกับอันนั้นอีก ข้าจะฆ่าเจ้า”
“ไม่สิ จะฆ่าผมเพราะเรื่องอะไรแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ”
ฮันบ่นพึมพำๆ ก่อนจะเปิดประตูตู้เย็นแล้วเอาน้ำส้มออกมาด้วยใบหน้าแสดงความไม่เป็นธรรม รู้สึกถึงสายตาของเสือขาวว่ามองทางตัวเองด้วยดวงตาหวาดผวา แต่ฮันก็คิดว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดพลางเทน้ำส้มใส่แก้ว
จากนั้นก็เอาน้ำส้มมาวางให้ตรงหน้า เสือขาวก็มองด้วยดวงตาสั่นไหวแล้วคว้าแก้วน้ำส้มไปเหมือนจะแย่ง ก่อนจะหลับตาลงและดื่มมันเข้าไป ความโกรธก็คลายลงนิดหน่อย
เสือขาวดื่มไปกว่าครึ่งแก้วแล้ววางลงกับพื้น ก่อนจะเบิกตาโพลงมองฮันอีกครั้งเหมือนตอนดื่มโค้ก ฮันจึงตกใจล่วงหน้าจนตัวสั่นในชั่วพริบตา ทว่าอีกฝ่ายกลับเขย่าขาหน้าสั้นๆ ไปมาพร้อมกับตะโกนโวยวาย เหมือนสายตาก่อนหน้านี้ไม่ได้สำคัญ
“นี่ นี่มันอะไรกัน! มันคือผลไม้ของสวรรค์รึ ทำไมถึงเปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยแบบนี้! ไปเอามาอีกเร็ว ไปเอามา!”
“คร้าบ คร้าบ”
ฮันก็เลยแค่นหัวเราะด้วยความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังดูแลคุณชายไร้ความเป็นผู้ใหญ่ เขายื่นเอาขวดน้ำส้มทั้งขวกให้เสือขาว จากนั้นก็ระเบิดหัวเราะอัตโนมัติ เมื่อเห็นเสือขาวรีบเอาขวดน้ำส้มมาเทใส่แก้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รู้ว่าเสือขาวชอบกินน้ำส้ม
“เยี่ยมมาก! ต้องให้รางวัลแก่บุคคลที่คิดค้นสิ่งนี้ขึ้นมาเสียแล้ว!”
“…”
“อร่อยมาก อร่อยมากๆ ต่อเจ้าก็เตรียมสิ่งนี้ไว้ด้วยล่ะ หากว่าเจ้าให้น้ำนี่กับข้าเสมอ ข้าจะไว้ชีวิตสักครั้ง”
“ถ้าให้มัน แล้วจะไว้ชีวิตผมเหรอครับ”
“ใช่! ข้าอารมณ์ดีขึ้นมากเลย จะไว้ชีวิตเจ้าอย่างแน่นอน!”
สุดท้ายฮันจึงสามารถรักษาลมหายใจตัวเองสำเร็จเพราะน้ำส้มหนึ่งแก้ว
“อร่อยอะไรถึงเพียงนี้ อดซาบซึ้งไม่ได้เลยทีเดียว”
เขามองเสือขาวดื่มน้ำส้มอึกๆ จากนั้นก็หันมาจัดการเศษไก่ทอด ระหว่างนั้นก็เริ่มหลุดเข้าไปสู่ห้วงความคิดอย่างกะทันหัน มันคือความทรงจำของวันนั้นที่เจอกับเจ้าปีศาจหน้าขาวๆ มีนิสัยเหมือนอะไรบางอย่างนี่
* * *
เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน
ระหว่างเลิกเรียนแล้วเดินทางกลับมายังห้องพักของตัวเอง ฮันแวะซื้อไข่ที่ราคาถูกมาๆ มาจากร้านสะดวกซื้อที่กำลังจัดโปรโมชั่นลดราคาอยู่ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปห้องพักอย่างร่าเริง ช่วงนี้เป็นราคาทอง ซื้อมาในราคาประมาณนี้ก็เหมือนได้ลาภลอย
วันนี้ฮันมีฝันว่าจะทำไข่ม้วนกิน ทว่าขณะเลี้ยวตรงทางโค้งก่อนจะถึงห้องพัก ท่ามกลางขยะกองพะเนิน ก็มีอะไรบางอย่างดึงดูดสายตาเขา ฮันจึงหันไปมองตามสัญชาตญาณ
เขาใช้มือซ้ายถือไข่หนึ่งแผงอย่างหวงแหนพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ๆ กองขยะช้าๆ กับความรู้สึกเหมือนโดนลากอย่างแรง ภายในกองขยะที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็น ฮันก็มองเห็นอะไรสีขาวๆ จึงหยิบมันขึ้นมาราวกับถูกหลอกล่อ
เมื่อมองไปที่มือก็เห็นว่าตัวเองจับตรงส่วนหางของตุ๊กตาลูกหมาจนส่ายไปมากลางอากาศ พอถือสิ่งนั้นเข้ามาใกล้ๆ ใบหน้าของตุ๊กตาน่ารักน่าเอ็นดูก็ส่องสว่างอยู่ตรงหน้าเขา
“โอ้ น่ารักเนอะ โชคดีจัง”
ฮันแกว่งมันไปมาราวกับเล่นควงกระบองไฟด้วยรอยยิ้มกว้างๆ ขณะมุ่งหน้ากลับบ้านพร้อมไข่ไก่หนึ่งแผง ตอนนั้นก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันไม่ใช่ลาภลอย แต่เป็นการเอาหายนะเข้ามาด้วยมือของตัวเอง
“…เจ้า!”
“…”
“เจ้า เจ้านี่ ตั้งสติดีๆ ไม่ได่รึไง”
ฮันจมอยู่ในความทรงจำ ก่อนเสียงของเสือขาวจะกระแทกเข้าหูดึงให้กลับเข้ามาสู่โลกแห่งความจริง พอเอานิ้วมาแคะหูตัวเอง หนวดบนแก้มเสือขาวก็สั่นเหมือนมีบางอย่างไม่พอใจ
“ข้าขอมันอีกไม่ใช่รึอย่างไร!”
“ดื่มมันหมดแล้วเหรอครับ ไม่ปวดฉิ้งฉ่องเหรอครับ”
“พวกเราไม่ปลดปล่อยอะไรต่ำๆ แบบนั้นหรอก เอ๊ะ! บอกให้รีบไปเอามาอีก”
โชคดีที่ซื้อมาแบบหนึ่งแถมหนึ่ง ไม่งั้นความโมโหของเสือขาวน่าหงุดหงิดคงจะไม่หยุดลง ฮันจึงยิ้มก่อนจะเปิดตู้เย็น พอเปิดฝาขวดแล้วส่งให้ ฮันก็ยู่ปากลงอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นการกระทำอีกฝ่าย
“มีอะไรแบบนี้อีกไหม”
เขามองเสือขาวใช้หลอดดูดไปตรงนั้นทีตรงนี้ที แล้วพยักหน้าด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
“ถ้าเช่นนั้นก็ซื้อมาสิ”
“บอกให้ไปซื้อมาตอนนี้เนี่ยนะครับ”
“ใช่แล้ว ข้าอยากจะดื่มอะไรเช่นนี้เยอะๆ”
“ครับ ครับ”
ฮันจึงทำได้เพียงพยักหน้ารับ และพอเห็นว่าเสือขาวเลิกสนใจตัวเองแล้วตรึงสายตาไว้กับน้ำส้มที่ตัวเองดูดอยู่ เขาก็ค่อยๆ สวมเสื้อคลุมด้วยใบหน้าอิดออด ไม่เห็นปริมาณการกินของอีกฝ่ายจะน้อยเลย
จากนั้นก็ถอนหายใจ เมื่อเปิดกระเป๋าสตางค์ที่มีแต่ฝุ่นออกมา ก็ยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะปิดมันลง เขายิ่งจนอยู่แล้ว แต่เสือขาวก็จะยังเอาแต่สวาปาม อันที่จริงถ้าหากไล่อีกฝ่ายออกจากบ้านตัวเองได้ก็จบ แต่มันก็เหมือนขายจิตวิญญาณของตัวเองเท่านั้น ฮันจับห่วงที่ประตูใหญ่แล้วเปิดออก
แล้วก็ต้องทำหน้าเหยเกกับความหนาวแปลกๆ พลางสอดมือเข้ากระเป๋าตัวเองเพื่อหยิบเอากระเป๋าสตางค์ออกมา สีหน้าของเขาดิ่งลงอย่างหมองหม่นพร้อมกับบ่นพรำว่าถ้าหากไม่ใช่ปีศาจล่ะก็ จะต่อยจนเละแน่ ตามด้วยคำบ่นว่าถ้าอยากจะกินน้ำผลไม้ขนาดนั้น ก็ไปซื้อกินเองสิเป็นระลอก
ช่วงพลบค่ำมืดสนิท ฝีเท้าของฮันบนทางเดินแคบๆ ก็ไม่มีความปราดเปรียวเลย ระยะก้าวเดินของเขาที่เดินด้วยความตั้งใจว่าอยากซื้อน้ำผลไม้แล้วรีบกลับบ้านเร็วๆ ก็ยืดยาวกว่าปกติ
ทางเดินที่มีไฟข้างทางกระพริบคล้ายจะพังเป็นบางครั้งบางคราวให้ความรู้สึกว่าอ้างว้าง ฮันออกแรงก้าวเท้าเร็วขึ้น ก่อนจะเริ่มโล่งใจขึ้นมาหน่อยเมื่อเห็นว่ามีคนเดินใกล้เข้ามา
“โอ๊ะ”
จังหวะที่ทั้งคู่เฉียดผ่านกัน อีกฝ่ายที่มากระแทกไหล่ก็ตัวเซแต่ทรงตัวได้ ทว่าฮันกลับถอยหลังไปหลายก้าวพลางยกสองแขนก็ตะเกียกตะกายเหมือนอีกนิดจะล้มจนดูน่าเป็นห่วง
ชายหนุ่มอีกคนเลยยื่นแขนออกมาอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นแล้วคว้าตัวฮันไว้แน่น อีกฝ่ายสวมมาสก์สีขาวปกปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่งจนเห็นเพียงแค่ดวงตาเท่านั้น ทว่าตอนคว้าแขนฮันไว้ คนๆ นี้ก็เบ้หน้า และทันทีที่เช็กว่าฮันทรงตัวได้แล้ว ชายหนุ่มแล้วก็เลื่อนมือขี้นมาบีบจมูกตัวเอง
“อ่า เอ่อ… อืม ขอบคุณครับ”
ฮันมองคนสวมมาสก์ที่ค่อยๆ ถอยห่างจากตัวเขาในสภาพบีบจมูกเอาไว้ ก็เลยยกแขนขึ้นมาดมฟุดฟิดด้วยใบหน้าเฝื่อนๆ แต่จมูกเขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงกลิ่นแปลกๆ อะไรจึงมองอีกฝ่ายด้วยสายตาแปลกๆ
“ขอตัวนะครับ”
จากนั้นก็ก้มหัวให้ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้า ทว่าหูของฮันกลับได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่ไม่ได้ยินยังจะดีซะกว่า
“เหม็นจนน่าขนลุก…”
ฮันจึงยกแขนขึ้นมาเช็คกลิ่นอีกครั้งพลางทำสีหน้าบูดเบี้ยว ไร้มารยาท มาพูดว่ามีเหม็นกับคนอื่นแบบนี้งั้นเหรอ ไว้เจอกันคราวหน้า เขาจะแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังแน่นอน ฮันเดินไปร้านสะดวกซื้อด้วยความโมโห คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างอารมณ์เสีย
* * *
คอมเมนต์