ลูกหมาของผมกลายเป็นเสือขาว! ตอนที่ 1-4

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 1-4 เก็บลูกหมาตัวนั้นกลับมา

“นี่ครับ น้ำว่านหางจระเข้กับน้ำมะเขือเทศครับ”
“หือ สีมันต่างจากที่กินไปเมื่อก่อนหน้านี้นี่นา”
“อ๋อ วัตถุดิบมันต่างกันน่ะครับ”
ฮันหน้าบูดเพราะชายหนุ่มใส่มาสก์ที่เจอระหว่างทางไปร้านสะดวกซื้อ เสือขาวรู้สึกสงสัยเล็กน้อยกับท่าทางของฮัน มันส่ายหน้าไปมาแล้วเช็ดปากตัวเองพลางมองตาปริบๆ
“มีเรื่องอะไรรึ”
“ก็ระหว่างทางมีคนบ้ามาบอกผมตัวเหม็นน่ะครับ มันเสียมารยาทมากๆ เลยใช่ไหมครับคุณเสือขาว”
“กลิ่มเหม็นเหรอ”
“ครับ กลิ่นเหม็น”
ดวงตาสีฟ้าของเสือขาวเริ่มเปล่งประกายแวววับ คาริสม่าเอ่อล้นต่างจากภาพลักษณ์ไร้ความน่าเชื่อถือก่อนหน้าจนฮันไม่คุ้นชิน เขากลืนน้ำลายแล้วจ้องตาเสือขาว
“ทำไม ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะครับ”
“ข้าไม่ได้โกรธเจ้า ไม่จำเป็นต้องจ้องด้วยความหวาดกลัวเช่นนี้”
“เอ่อ ครับ…”
แม้อีกฝ่ายจะพูดแบบนั้น แต่ฮันก็อดกลุ้มใจไม่ได้ เขาชำเลืองมองหว่างคิ้วที่ขมวดอยู่ของเสือขาวอย่างประหม่า ในที่สุดเสือขาวก็ถอนหายใจยาวๆ กับท่าทางแบบนั้นของฮัน ก่อนกลับไปจะดื่มน้ำผลไม้อีกครั้งราวกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“รีบเข้านอนซะ ดึกแล้ว”
“ก็ไม่ได้ดึกขนาดนั้น…”
“เด็กน้อยอย่างเจ้าต้องนอนเร็วๆ รีบนอน”
“ผมไม่ได้เด็กนะครับ…”
“เอ๊ะ ตัวก็แค่กะเปี๊ยกเดียว อย่าเถียงผู้ใหญ่แล้วรีบไปนอนเสีย!”
ฮันกลืนคำว่า นายโตเท่าไรกันเชียว ถึงมาบอกว่าฉันตัวกะเปี๊ยกเดียว ลงคอไปแล้วยู่ปาก สุดท้ายก็ต้องยอมเข้าไปนอน ถึงจะแสดงสีหน้าไม่พอใจ แต่เจ้าเสือขาวก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย
“พรุ่งนี้ข้าจะปลุกเอง”
“ครับๆ”
ฮันฟังคำของเสือขาวหูซ้ายทะลุหูขวา ก่อนที่เช้าวันต่อมาเขาจะรู้สึกเสียใจอย่างเจ็บเข้ากระดูกดำ

* * *

“…ตื่น”
“อืออ…”
“บอกให้ตื่นได้แล้ว!”
“อ๊ากก!”
ฮันกุมแก้มร้อนวูบวาบด้วยสองมือพร้อมกับลุกขึ้นพรวดจากเตียง ก่อนจะมองเห็นเสือขาวกำลังถือพัดที่ดูหรูหราจากไหนไม่รู้ด้วยสองเท้าทู่ๆ นั่น เขากลืนน้ำลายกับสายตาเย็นยะเยือกที่เขม้นมองกันด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดอันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง จากนั้นก็นั่งคุกเข่าอย่างเรียบร้อยโดยอัตโนมัติ
“ปกติแล้ว นักปราชญ์จะตื่นมาแต่เช้ามืด ทำกายใจให้สะอาดเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ รีบลุกแล้วไปอาบน้ำเสีย เหมือนจะมีกลิ่นเหม็นจากตัวเจ้าแล้ว”
“ไม่ทราบว่าตอนนี้กี่โมง…”
“รุ่งสาง”
“รุ่งสางคือกี่โมง…”
“เอ๊ะ มนุษย์โง่เง่านี่ไม่รู้อะไรเลยสินะ ถ้าตามที่พวกเจ้านับ ตอนนี้คือตีห้า รีบตื่นเร็ว!”
“ไอ้ เวร”
“พูดว่าอะไรนะ”
“จะ… จะไปอาบน้ำแล้วครับ”
ฮันรีบลุกแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำทันที เขาเอากำปั้นยัดใส่ปากแล้วแผดเสียงออกมา เพราะดันพลาดหยิบไอ้ตุ๊กตาเวรๆ มา วันนี้ที่มีเรียนตอนเที่ยงก็เลยได้มาเริ่มวันใหม่ตั้งแต่หกโมงเช้าแบบนี้ ฮันกระทืบพื้นพลางน้ำตาคลอด้วยความเสียใจ ถ้าหากเป็นไปได้ เขาอยากจะกลับไปตบหน้าตัวเองในอดีตมากๆ

* * *

“อาบน้ำแล้วมันดีล่ะสิ ราศีเกลี้ยงเกลาขึ้นทีเดียว”
ราศีเกลี้ยงเกลาขึ้นบ้าบออะไรเล่า… ฮันบ่นพึมพำก่อนจะเบ้ปาก
“ครับ ดีมากเลยครับ มิหน้าผู้คนเลยต้องตื่นมาแต่เช้า ถึงสดชื่นขนาดนี้…”
“ใช่ ต่อไปข้าจะปลุกเจ้าในเวลานี้ตลอดเอง”
“มะ… ไม่เป็นไรครับ ไม่จำเป็นต้อง…”
“ไม่หรอก ข้าเป็นหนี้เจ้าอยู่ ข้าจะปลุกเจ้าในเวลานี้เสมอ”
ฮันตะโกนร้องอย่างไม่มีเสียง เขาพยายามกลั้นน้ำตาที่เหมือนจะกระทักออกมาพลางพยักหน้าด้วยใบหน้าใกล้ร้องไห้เต็มทน จากนั้นก็ขยับร่างกายที่ยังเคลื่อนไหวได้ไม่ดีนักเพื่อเตรียมอาหาร พอผ่านไปสามสาทีพอดิบพอดี ก็มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งเฉียดผ่านจมูก ซึ่งสายตาของเสือขาวที่จมูกดีกว่าฮันก็เลื่อนไปมองแกงกะหรี่อัตโนมัติ
“สิ่งนั้นคืออะไร”
“อ๋อ แกงกะหรี่ครับ”
“แกงกาหรี่เหรอ มันคืออะไรรึ”
“เป็นอาหารที่ราดข้าวแล้วก็กินน่ะครับ”
เจ้าเสือขาวเดินเข้ามาถึงตรงนี้ด้วยขาสั้นๆ เหมือนตื่นเต้น ก่อนกระโดดขึ้นมาบนไฟล์ฮันพร้อมพ่นคำอุทาน เพิ่งเคยได้กลิ่นเป็นเอกลักษณ์แบบนี้ แล้วก็เพิ่งเคยเห็นสีสันน่ากินมากๆ แบบนี้เป็นครั้งแรก
ถ้าฟังสำนวนการพูดแล้ว เจ้าเสือขาวมีลักษณะการพูดรวมถึงการกระทำเหมือนกับท่านอาจารย์ในหมู่บ้านเกาหลีโบราณ เหมือนไม่เคยได้รับผลิตผลทางอารยะธรรมใหม่ๆ ราวกับอาศัยอยู่ในหุบเขามาก่อนจริงๆ จนความน่าสงสัยเกี่ยวกับเสือขาวสำหรับฮันฟุ้งออกมา
“ทานไหมครับ”
ฮันกล้ำกลืนฝืนทนเสนอแกงกะหรี่ให้พลางมองสีหน้ากังวลเล็กน้อยของอีกฝ่าย ถึงจะทำเป็นกังวล แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะมาแย่งกินส่วนของเขา เมื่อดูจากการจัดการไก่ทอดไปสามวันเมื่อวานนี้ ฮันพ่นลมผ่านจมูกมาทางเสือขาวที่เกาะติดอยู่บนไหล่ของตัวเอง
“ดีล่ะ ไหนข้าลองกินดูสักครั้ง”
เขาแค่นหัวเราะ หลังเห็นเสือขาวแกว่งขาหน้าไปมาอย่างคล่องแคล่วเหมือนเพิ่งตัดสินใจได้ยอดเยี่ยมอะไรอย่างนั้นกับแค่การกินแกงกะหรี่สักจาน จากนั้นฮันก็วางอีกฝ่ายลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว ชั่วขณะก็กังวลว่าเจ้าเสือขาวตัวเล็กนิดเดียวจะยกขาหน้าขึ้นบนโต๊ะอาหารได้ไหม แต่ฮันก็ตักข้าวและแกงกะหรี่ใส่ถ้วยอย่างพอดีแล้ววางไว้ให้ตรงหน้า
และสมกับเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวเรื่องการกินของเสือขาวจริงๆ อีกฝ่ายใช้ขาหน้าจับช้อนได้ ทว่า… ก็ทำได้แค่จับช้อนเท่าไหร่ ไม่สามารถตักกินได้ อีกฝ่ายเลยเริ่มใช้สายตามองมาทางฮัน
ฮันกลั้นคำสบถที่ออกมาอัตโนมัติ ก่อนจะเริ่มป้อนข้าวให้เสือขาวทีละคำๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พยยามกลั้นความต้องการอยากเทถ้วยราดใส่ตัวเจ้านี่จนมือสั่น
“อร่อยมากจริงๆ มนุษย์นี่ทำแต่อาหารดีๆ เยอะแยะเลยสินะ”
“ครับ อย่างนั้นแหละครับ แต่ถ้าเคี้ยวหินเคี้ยวกรวดได้ก็กินๆ ไปซะสิ”
“พูดอะไรของเจ้า”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไรครับ”
ระหว่างที่เจ้าเสือขาวกินข้าวไปสามถ้วยแล้ว ฮันก็ยังไม่ได้กินแม้แต่คำเดียว พอป้อนจนหมดแล้วถึงได้จับช้อนกินบ้าง ฮันจึงตักข้าวใส่ปากอย่างเฉือดเฉือน
“กินช้าๆ สิ ดูตะกละตะกรามเสียจริง”
“ผมไม่ได้รับการสั่งสอนมารยาทบนโต๊ะอาหารก็เป็นอย่างนี้แหละครับ”
“ถ้าเช่นนั้นเรียนเสียสิ ภูมิใจในเรื่องโง่เง่ารึไง ไอ้เด็กเมื่อวานซืน”
“ครับ ผมเป็นคนแปลกๆ หน่อยน่ะครับ”
“ไร้สติจริงๆ”
จากนั้นเสือขาวก็กระโจนไปบนเตียงแล้วฝังร่างที่กินข้าวอิ่มแล้วอ่อนเพลียเข้ากับผ้าปูเตียง ฮันยู่ปากมองอีกฝ่ายที่เกลือกกลิ้งไปมาพลางมุดหน้าตัวเองกับผ้าห่มเนียนนุ่ม ก่อนจะเริ่มทำการล้างภาชนะใส่อาหารทั้งหลายที่ตัวเองใช้ รวมถึงของเสือขาว
“เอาน้ำแกงสีเหลืองที่ข้ากินเมื่อวานมาอีกสิ”
เสือขาวแกว่งเท้าหน้าข้างหนึ่งไปมาขณะกำลังพักผ่อนอยู่บนเตียง ฮึนจึงหยิบแก้วออกมา ไม่รู้ว่าเขาเกร็งมือแค่ไหน แต่ถ้าออกแรงมากกว่านี้อีกนิดก็ดูเหมือนแก้วอาจจะแตกได้เลย
“นี่ครับ”
ฮันเอาน้ำส้มมาให้ด้วยใบหน้าบึ้งตึงเล็กน้อยพร้อมสายตาขวางๆ แต่เสือขาวก็เอาน้ำผลไม้จากมือเขาไปอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนไม่ใส่ใจสีหน้าของฮันเลย
อีกฝ่ายกลืนอึกๆ แล้วส่งเสียงถอนหายใจต่ำๆ ก่อนจะมองคนตาขวางๆ แล้วยกมุมปากข้างหนึ่งขึ้น
“เก็บให้ข้าด้วย”
ฮันปากสั่นกับความคิดที่ว่าเหมือนตัวเองกลายเป็นคนรับใช้ จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าห้องครัวแล้วเริ่มล้างมรสุมจานชามเป็นการคลายความโมโหที่พลุ่งพล่านขึ้นมา จนหยดน้ำทั้งหลายกระเด็นขึ้นมารอบๆ ตัวฮันแย่งรุนแรง
“เจ้าจะออกไปข้างนอกกี่โมง”
“ว่าจะออกประมาณสิบเอ็ดโมงครับ”
“เช่นนั้นรึ เรียนรึ”
“ครับ ไปเรียน”
ฮันสะบัดน้ำที่เปียกมือ ทว่าระหว่างถูมือเข้ากับผ้าเช็ดมือแห้งๆ เจ้าเสือขาวก็วิ่งพรวดมาอยู่ตรงหน้า เนื่องจากเห็นเจ้าเสือขาวเดินด้วยเท้าสองข้างบ่อยแล้ว ฮันเลยไม่ค่อยชินเมื่อเห็นอีกฝ่ายวิ่งด้วยสี่เท้า
“ลองยื่นมือมาสิ”
“อะไรครับ ทำไมเหรอครับ”
“เอ๊ะ บอกว่าให้ยื่นมา อย่าให้ข้าต้องเอ่ยซ้ำซากสิ เหตุใดถึงพูดมากเช่นนี้เล่า”
พอฮันยื่นมือขวาไปให้เสือขาวพร้อมใบหน้าเจื่อนๆ เจ้าเสือขาวก็ใช้ปลายจมูกสีชมพูถูกับฝ่ามือของเขาก่อนจะดมกลิ่นอยู่พักหนึ่ง ผ่านไปไม่นาน เสือขาวก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจพลางตบหลังมือฮันเบาๆ เขาเลยมองอีกฝ่ายเหมือนเห็นสัตว์ประหลาด
“ทำไมถึงดมกลิ่นล่ะครับ แปลกๆ นะ”
“ทุกอย่างมีเหตุผล”
“ขอโทษนะครับ…”
“อันใด”
ฮันฉีกยิ้มประหม่าๆ ทันทีเมื่อเสือขาวเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะรีบพูดออกมาเพราะสายตากดดันจ้องเขม็งเหมือนบอกให้พูดออกมาสักที
“ทำไมสำนวนการพูดถึงเป็นแบบนั้นล่ะครับ”
“การพูดของข้ามันทำไมรึ”
“เหมือนคนสมัยก่อนหน่อยๆ น่ะครับ ไม่สิ ไม่หน่อย มากๆ เลยล่ะ”
“ข้าอายุมากแล้ว”
“ไม่สิครับ… ครับ ถึงจะเหมือนอายุมากแล้ว แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดแบบนั้น…”
“สำนวนของข้ามันทำไม”
ฮันหลุดหัวเราะเอ็นดูออกมาพลางเกาแก้มเบาๆ กับสำนวนการพูกที่เหมือนหลุดออกมาจากหนังสือประวัติศาสตร์ พอเห็นใบหน้าเจื่อนๆ ของเสือขาว เขาเลยกลืนถ้อยคำต่างๆ ที่อยากจะสาดออกมาแรงๆ กลับคืนไป
“ฮ่าๆ ก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะดี ใช่ไหมล่ะครับ เนอะ”
“ถ้าข้าพูดแบบเจ้า ถึงจะดีอย่างนั้นรึ”
“ไม่ใช่ครับๆ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำหรอกครับ มันแค่มีเอกลักษณ์มากไปหน่อยน่ะครับ”
“ถ้าเจ้าไม่สะดวก ข้าก็จะพยายามแก้ไขดู”
ฮันยิ้มแห้ง เพราะรู้สึกเหมือนจตัวเองไปทำให้เอกลักษณ์เฉพาะตัวของอีกฝ่ายเสียหาย
“อ้อ วันนี้เจ้าก็จงมุ่งมั่นรักษาตัว… ไม่สิพยายาม ให้ตาย ยากอะไรแบบนี้”
“ค่อยๆ เปลี่ยนก็ได้ครับ แล้วก็คำว่า ‘มุ่งมั่น’ เดี๋ยวนี้เขาก็ไม่ค่อยใช้กันแล้วนะครับ”
“อย่างนั้นสินะ เหมือนว่าข้าจะอายุมากแล้วจริงๆ”
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเสือขาวดูเศร้าสร้อยขึ้นมากะทันหัน ฮันจึงขมุบขมิบปากแล้วรีบเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง เขาเอาช็อกโกแล็ตบาร์จากตู้กับข้าวออกมาถือ ด้วยความคิดว่าของหวานๆ น่าดีต่อการปลอบใจและเกลี้ยกล่อมเด็กที่อารมณ์ไม่ดี ซึ่งเสือขาวก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยมากนัก จากนั้นฮันเลยแกะเปลือกช็อกโกแล็ตบาร์อย่างไม่ลังเลแล้วยัดใส่ปากเสือขาว
พอฮันทำท่าเคี้ยวง่ำๆ ซ้ำๆ เหมือนบอกให้อีกฝ่ายที่เบิกตาโตกัดช็อกโกแล็ตบาร์อยู่รีบเคี้ยวมัน เสือขาวถึงจะได้ยอมเคี้ยวทีละนิดละหน่อย
ฮันรู้สึกว่าท่าทางแบบนั้นดูน่ารัก ก่อนจะกุมหัวใจตัวเองไว้แน่น ฉันมองว่าฆาตกรไก่ทอดเสือขาวดูน่ารักงั้นเหรอ พร้อมกับกะพริบตาปริบๆ
“สิ่งนี้ สิ่งนี้คืออะไร!”
พอเขายื่นแก้วน้ำส้มหวังให้เสือขาวสงบลง อีกฝ่ายก็ส่ายหัวไปมาพลางทำท่ากระพือปีก หายใจเข้าออกหลายครั้งแล้วมองฮันด้วยดวงตาเปี่ยมความปรารถนา
ฮันยิ้มประหม่าพร้อมอธิบายเกี่ยวกับช็อคโกแล็ตบาร์ให้ฟัง ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นเสือขาวยัดช็อกโกแล็ตบาร์ลงท้องไปในท้องน้อยๆ ของตัวเองทีเดียวห้าอัน ขณะนั้นเขาก็ตระหนักถึงความตะกละพลางลอบกลืนน้ำลาย ถ้าหากเป็นแบบนี้แล้ว ต้องมีเงินกี่ล้านวอนที่ต้องจ่ายเป็นค่าอาหาร ฮันพูดอะไรไม่ออกเลย
“ซื้อสิ่งนี้มาด้วยฮัน”
“อ่า ครับ”
เสือขาวใช้เท้าหน้าของตัวเองตีพุงที่ยื่นออกมาเยอะกว่าเมื่อครู่หลังสวาปามจนอิ่มแล้ว ฮันสบถคำด่าออกมาในใจกับท่าทางแบบนั้น
“วันนี้ก็ไม่ต้องสนใจผู้คนแปลกๆ ที่ไล่ตามเช่นเมื่อคืนวาน แล้วเดินไปตามทางของเจ้าล่ะ”
อีกฝ่ายเอ่ยกับฮันขณะกดปุ่มรีโมททีวีที่คว้าได้จากที่ไหนสักที่ ฮันหยิบเปลือกช็อกโกแล็กบาร์ไปทิ้งลงถังขยะด้วยใบหน้าเรียบเฉยพลางฟังคำแนะนำแค่พอผ่านๆ พร้อมความคิดว่าคงไม่มีใครทำให้ชีวิตฉันแย่ได้เท่านายอีกแล้ว

* * *

คอมเมนต์

Chapter List