ลูกหมาของผมกลายเป็นเสือขาว! ตอนที่ 1-5

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 1-5 เก็บลูกหมาตัวนั้นกลับมา

ฮันยู่หน้าเล็กน้อยกับความหนาวจนแน่นปลายจมูก ก่อนจะเริ่มเดินจ้ำอ้าวข้ามทางม้าลาย เขาอยากหลีกเลี่ยงลมเย็นๆ ให้ได้มากที่สุดเลยหดคอฝังจมูกลงกับปกเสื้อโค้ท
“เดี๋ยว!”
ทว่าขณะกำลังจะข้ามพ้นทางม้าลาย ก็มีใครบางคนคว้าข้อมือของฮันขึ้นมาอย่างแรงพร้อมเสียงตะโกน
เขาเลยหันหน้าไปทางต้นเสียงโดยอัตโนมัติมองคนที่คว้าตัวเองไว้ ถึงจะมองคร่าวๆ ก็เห็นเป็นชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าสีดำปกคลุมมิดชิด รวมถึงปิดหน้าด้วยผ้าปิดปากสีขาว ซึ่งมันก็เป็นท่าทางที่มีพิรุธอย่างมาก จนความระมัดระวังปรากฎบนใบหน้าของฮันทันที
“ไม่เชื่อดวงครับ ”
ฮันสะบัดมืออีกฝ่ายออกแล้วเริ่มเดินข้ามทางม้าลายต่อ เขาสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อโทรศัพท์มือถืออกมา ทว่าแล้วโทรศัพท์ที่ยังไม่หมดสัญญาก็เกือบตกพื้น เพราะโดนกระชากแขนอย่างแรงอีกครั้งจนฮันทำหน้าย่นบูดบึ้งไปหมด
“เอ๊ะ บอกว่าไม่เชื่อเรื่องดวงไงครับ!”
“ไม่ใช่เรื่องดวงเว้ย”
“ถ้างั้นคืออะไรล่ะครับ คงไม่ใช่การลักพาตัวแต่หัววันนะ”
“มะ ไม่ใช่อย่างนั้น”
แม้คนที่ต้องเดือดพล่านเลือดร้อนควรจะเป็นฮัน แต่คนมีพิรุธอย่างอีกฝ่ายกลับตะโกนอย่างโมโหแล้วดึงมือฮันให้เข้ามาใกล้ๆ ใบหน้าตัวเอง
ชายหนุ่มดมฟุดฟิดที่ฝ่ามือของฮันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมองกันด้วยสายตาประหลาด สวมผ้าปิดปากอยู่แท้ๆ ไม่รู้จะมาดมอะไร
“เอ่อ อืม ผมไม่ค่อยชอบผู้ชายน่ะครับ”
“…ไม่ใช่แบบนั้นเหมือนกัน”
ฮันยักไหล่กับน้ำเสียงที่แผ่วลง ก่อนจะเลิกใส่ใจแล้วเริ่มเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง ถึงแม้หลังจากเปิดเทอม ชั่วโมงแนะแนวจะเป็นชั่วโมงแรก แต่ก็มีพวกอาจารย์ที่ค่อนข้างเข้มงวดอยู่บ้าง บางครั้งอาจจะมีการเช็กชื่อเข้าเรียน ฮันจึงไม่สามารถโดดเรียนได้ เขาเดินอืดอาดอย่างไร้เรี่ยวแรงมุ่งหน้าไปทางมหาวิทยาลัย
ขณะออกแรงที่ขาตั้งใจจะเดินไปข้างหน้าเนิบๆ ชายหนุ่มก็คว้าแขนฮันอีกรอบ ตอนนั้นเขาโมโหจนเดือดพล่าน พยายามอดกลั้นคำด่าทออย่างยากเย็น
“อะไรครับ”
“นี่นามบัตรฉัน ติดต่อมาล่ะ ต้องติดต่อ!”
“ผมไม่ได้สนใจคุณครับ นี่ล่ะนะ เขาว่าคนดูดี มักจะมีปัญหา…”
พอได้ฟังคำพูดของฮัน อีกฝ่ายถอนหายใจพลางใช้มือขยี้ผมสีแดงของตัวเองแรงๆ และเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามองกันด้วยสายตาเหมือนมองคนบ้า ชายหนุ่มจึงดึงผ้าปิดปากลงมาข้างล่าง ให้ฮันได้ยลโฉมใบหน้า ก่อนจะรีบดึงมันกลับขึ้นไปอีกครั้ง
“ตอนนี้สนใจขึ้นมาบ้างหรือยัง ต้องติดต่อมาจริงๆ นะ ฉันไม่ใช่คนบ้าอะไร”
“…ลีจินเหรอ นักแสดงคนนั้น!”
“เงียบหน่อยสิ ไอ้นี่ ถ้าฉันโดนคนอื่นจับได้ก็จะวุ่นวาย แล้วมันก็จะลำบากนายด้วยไม่ใช่หรือไง”
“อ่า ครับ”
ถ้ากดเปิดโทรทัศน์แล้วล่ะก็ คนคนนี้คือนักแสดงจะปรากฎตัวแทบจะทุกช่องรายการ เรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งของวงการโฆษณา แถมยังเป็นชายหนุ่มสุดเซ็กซี่อันดับหนึ่งจากการโหวตของผู้หญิงยุคนี้อีก ชายหนุ่มผู้โอบกอดสิ่งที่คนอื่นคว้ามาอย่างยากลำบาก เขาก็คือลีจินนั่นเอง
ถึงแม้หน้าตาจะดูเหมือนเย็นชา แต่สาวๆ ทั้งหลายก็ต้องกุมหัวใจกับรอยยิ้มและการพูดที่นุ่มนวล อีกทั้งยังเป็นผู้ชายนิสัยดีจนแทบละลาย ด้วยความแตกต่างระหว่างรูปลักษณ์ภายนอกกับนิสัยใจคอ นักแสดงลีจินจึงได้รับความรักจากผู้คนมากมาย ซึ่งชายหนุ่มก็ยึดมั่นในเส้นผมสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก จนทำให้เกาหลีใต้เกิดกระแสสีแดงฟีเวอร์เลยทีเดียว
ฮันไม่เหลือสติพลางอ้าปากค้างกับสถานการณ์ที่มีคนดังผู้ยอดเยี่ยมขนาดนั้นยื่นนามบัตรมาให้ เขากะพริบตาปริบๆ เพ่งมองนามบัตรในมือตัวเอง
“แล้วทำไมถึงให้นามบัตร…”
“โทรมา เดี๋ยวจะบอกให้รู้ นายต้องโทรมาจริงๆ แล้ววันนี้ไปไหนมาไหนก็มองรอบตัวให้ดี”
“อะไรนะครับ จะมีเรื่องไม่คาดคิดอะไร…”
“บอกให้ระวังไง ฉันไปก่อนล่ะ”
ถ้าหากพูดว่า ผมเจอลีจินระหว่างทางไปหมาวิทยาลัยครับ จะมีสักกี่คนที่เชื่อกันล่ะ ฮันมองเหม่อนามบัตรในมือ ก่อนจะเอามันใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์อย่างเงียบๆ เขากลืนน้ำลายแล้วมองตามแผ่นหลังอีกฝ่ายที่ค่อยๆ ห่างออกไป
ชีวิตช่วงนี้ดูไม่ใช่ความจริงเลย ดูเหมือนอยู่ในความฝัน ทุกอย่างล้วนไม่ใช่เรื่องที่น่าจะเกิดขึ้นได้ทั่วไป

* * *

คนเก็บตัวเพลิดเพลินกับการปลีกตัวออกจากผู้คนอย่างฮัน คือคนที่สามารถหลบออกมาจากการแนะแนวและปฐมนิเทศน์อย่างสบายๆ ซึ่งเป็นโชคดีเพราะจำนวนคนในคณะค่อนข้างเยอะ
“เอ๊ ฮันนี่ๆ คังฮันนี่”
“บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกอะไรแบบนั้น”
ฮันมองการเรียกแบบหน้าไม่อายก่อนจะถอนหายใจ เพื่อนร่วมคณะของเขาคนนี้เคยทำตัวตามนักแสดงลีจินช่วงนึงจนได้ฉายาว่าซอสพริกแทยังโช่ ทว่าโชคดีที่ตอนนี้ย้อมผมดำแล้วอันเดอร์คัทจนดูดี สไตล์ของคยูฮยอนเมื่อก่อนย่ำแย่จริงๆ
“ฉันชวนนายให้ไปด้วยกันแล้วนี่นา”
“นายก็ไปไหนมาไหนกับฮาซูทุกวัน แล้วจะมาพูดอะไรเนี่ย”
“ฮาซูเป็นโซลเมทหมายเลขหนึ่งของฉัน ส่วนนายก็คือหมายเลขสอง”
“เลิกพูดไร้สาระสักที จริงๆ เลย”
พอฮันทำท่าขนลุก คยูฮยอนก็หัวเราะคิกคักเหมือนสนุกอะไรสักอย่าง ก่อนจะจะจับจองที่นั่งข้างๆ เขาแล้วนั่งลงทันที ฮันรู้ดีว่าอีกฝ่ายช่วยดูแลตัวเองที่ชอบแยกตัวออกมาจากคณะ แต่ด้วยความที่เขาค่อนข้างชอบการอยู่คนเดียวจึงรู้สึกหนักใจนิดหน่อย
“ถ้าไม่ชอบก็ไปตรงนั้นดีไหม”
“ช่างเถอะ…”
คนเซนส์ดีอย่างคยูฮยอนเลยหัวเราะกรุ้มกริ่มก่อนจะฮัมเพลง จากนั้นก็ค่อยๆ กยิบหนังสือออกมาจากกระเป๋า แล้วเอากล่องดินสอรูปกระต่ายน่ารักๆ ขึ้นมาวางไว้ข้างๆ ฮันชำเลืองมองข้าวของของคยูฮยอนผ่านๆ แล้วพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
“ถ้าไม่ใช้หนังสือเรียนเล่มนั้นแล้วจะทำยังไง”
“มันมีเขียนอยู่ในแผนการเรียนนี่ บอกว่าใช้เป็นเล่มหลัก”
“อาจจะเขียนทิ้งไว้ก็ได้นี่นา ไปเพิ่งเริ่มเรียนแค่วันสองวันหรือไง”
“อ่า นั่นสิ”
คยูฮยอนทำหน้ายู่พร้อมกับเก็บหนังสือเรียนใส่กระเป๋าไปอย่างลวกๆ ถ้าไม่ได้ใช้เป็นเล่มหลักล่ะก็ คยูฮยอนก็คงจะบ่นอาจารย์ทั้งวัน ถ้าไม่ใช่ได้ก็ไม่ต้องเขียนลงในแผนการเรียนสิ สุดท้ายก็ฝังหน้าเข้ากับโต๊ะเรียน แล้วถอนหายใจเป็นเชิงว่าเสียดายเงิน
“อะไรจะเจ็บปวดขนาดนั้น เอาไว้ใช้เป็นแหล่งอ้างอิงก็ได้นี่”
“งั้นเหรอ…”
จากนั้นคยูฮยอนก็เหยียดตัวขึ้นด้วยรอยยิ้มกว้างๆ กับคำพูดของฮัน ก่อนจะเอาหนังสือออกมาวางบนโต๊ะเรียนอีกครั้ง ฮันหลุดหัวเราะออกมากับท่าทางร่าเริงของเพื่อน เขาเองก็เอาสนุดโน้ตขึ้นมาวางบ้าง แต่ดูกระอักกระอ่วนนิดหน่อย
หลังจากมองคยูฮยอนเล่นอยู่คนเดียวแบบนั้น ฮันก็หลุดเข้าไปในความคิดของตัวเอง การได้พบดาราอย่างลีจินครอบงำความคิดเขาไปจนหมด พอนึกถึงใบหน้าของจิน ฮันก็หลุดยิ้ม เส้นผมสีแดงเข้มนั่นเข้ากับอีกฝ่ายจริงๆ
เขาเพิ่งเคยเจอตัวจริงของลีจินเป็นครั้งแรก ทั้งๆ ที่อยู่ในสภาพเหนื่อยอ่อนอิดโรย แต่ใบหน้าก็ยังคงมีแสงเปล่งประกาย ฮันยอมรับว่าอีกฝ่ายดูดีแบบที่เขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน จนต้องพยักหน้าแล้วอ้าปากหวอ ดูเป็นยิ่งกว่าขั้นกว่าของนักแสดง
“….นี่ นี่! ฉันถามว่าเห็นลีจินหรือยัง”
ระหว่างกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ ฮันก็ตกใจกับคำพูดที่จู่ ๆ ก็เข้ามาในหูพลางเบิกตาโตจ้องมองคยูฮยอน เขากลอกตาไปมาพร้อมสีหน้าตกใจ หัวใจของฮันเหมือนร่วงลงพื้นแล้วเต้นโครมครามอย่างรุนแรง จนต้องจับหัวใจตัวเองไว้แน่นพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างประหม่า
“ไม่เห็นเหรอ ซีรีส์เรื่องนี้สุดยอดเลยนะ”
“เอ่อ…”
“นักแสดงหญิงมองหน้าลีจินแล้วตกใจจนเป็นลมเลย สงสัยจะดูดีมากจริงๆ นะเนี่ย”
เมื่อฟังคำพูดของคยูฮยอน ใบหน้าของลีจินที่ตัวเองเพิ่งเจอเมื่อครู่นี้ก็ลอยขึ้นมา ฮันจึงพยักหน้า ก็พอจะเป็นแบบนั้นได้แหละ
เพราะได้เห็นในช่วงเวลาที่สั้นมากๆ เขาเลยลังเลเล็กน้อย แต่ผิวพรรณเหมือนหยกขาวกับใบหน้ากระจ่างมากกว่าที่เห็นในจอ ก็เป็นใบหน้าที่เหมือนในรูปภาพซึ่งผ่านการรีทัชมาอยู่ดี ฮันพยักหน้าแรงๆ ก่อนจะเอนหัวหลบสายตาของคยูฮยอนที่มองตัวเองแปลกๆ
“ทำไม”
“นายเคยเห็นลีจินจริงๆ ไหม”
“พะ พูดอะไรเนี่ย”
“เปล่า ก็นายพยักหน้าแรงๆ เลยนึกว่าเคยเห็นไง”
“ก็พยักหน้าแบบไม่ได้คิดอะไร ฉันไม่ได้ตั้งใจฟังนายพูดอยู่แล้ว”
“โห ดูเจ้าคนไร้มารยาทนี่สิ จริงๆ เลย!”
ฮันระเบิดหัวเราะเสียงประหลาดๆ พลางดิ้นตัวไปมา เมื่อนิ้วมือร้ายกาจของคยูฮยอนเริ่มจิ้มที่สีข้างเขาอย่างไร้ความปรานี ก่อนจะส่งเสียงกระหืดกระหอบมองอีกฝ่ายยกนิ้วชี้ขึ้นข้างบนพร้อมฉีกยิ้มราวกับปีศาจ
“คนเลว”
“ใครเลวกว่ากันแน่”
จากนั้นเขาก็ต้องดีดดิ้นไปมาจนตัวแทบจะหัก เพราะคยูฮยอนเริ่นต้นจั๊กจี้กันอีกครั้ง ทว่าโชคดีที่อาจารย์เขามาได้จังหวะ ฮันเลยรอดพ้นจากเงื้อมมือของคยูฮยอน
ฮันทำใบหน้าหงิกงอ ส่วนคยูฮยอนเดาะลิ้นคล้ายเสียดาย ฮันกางสมุดโน้ตออกแล้วก็ทำหน้าขรึมในชั่วพริบตา เขามองสมุดโน้ตที่เต็มไปด้วยตัวอักษรจีนยากจะทำความเข้าใจเหมือนเป็นการวาดเล่น ก่อนจะเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ต้องเป็นเสือขาวแน่นอน
ถ้าหากทำได้ เขาก็อยากจะผูกแขนขาเจ้าเสือขาวแสนเฮงซวยนั่นแล้วเอาไปทิ้ง ชีวิตจะได้ดีขึ้น ฮันกำหมัดแน่นจนสั่นเทาด้วยความโมโห อยากจะชกแรงๆ สักหมัดเข้าที่ใบหน้ากลมและขาวผ่องนั่น ฮันพยายามจดจ่อกับการเรียนเพื่อทำให้หัววุ่นวายดุเดือดด้วยความคิดมากมายสงบลง แต่ระหว่างนั้นก็มีคำหยาบคายเล็ดลอดออกมาจากปากขมุบขมิบของเขาอยู่ดี

* * *

คอมเมนต์

Chapter List