ลูกหมาของผมกลายเป็นเสือขาว! ตอนที่ 3-1

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 3-1 สวนดอกไม้ซอชอน

เสือขาวนอนตื่นสายอย่างผิดปกติ ค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆ ตัว
ขณะปรือตา ก็ต้องกระดิกหูเล็กน้อย ทั้งๆ ที่ยังง่วงสะลึมสะลืออยู่ และไม่ใช่เพียงเท่านั้น เสือขาวยังถูหน้าในอ้อมแขนของฮันจนขนอันงดงามชี้โด่ชี้เด่
เสือขาวอ้าปากหาวกว้างๆ แล้วใช้เท้าหน้าขยี้ตาตัวเอง จากนั้นก็ยืดตัวราวกับแมวเหยียดแข้งเหยียดขา ก่อนจะส่ายหางไปมาหลายครั้งแล้วปักหลักนั่งลงตรงนั้น
“ฮัน”
ฮันหน้ามุ่ยเหมือนกำลังฝันอะไรสักอย่าง หว่างคิ้วขมวดเข้าหากันแน่นจนหน้าตาดูดุดันหน่อยๆ แต่เนื่องจากฮันมีใบหน้าน่ารักจึงไม่ได้มองดูแย่อะไรมากนัก ดวงตาของเสือขาวโค้งเป็นจันทร์ครึ่งเสี้ยวจากการฉีกยิ้มผ่านดวงตางดงาม
เสือขาวเกลี่ยผมหน้าม้าปรกหน้าผากฮันด้วยเท้าสั้นๆ ก่อนจะกดอุ้งเท้านุ่มนิ่มของตัวเองลงบนนั้น ไม่รู้ว่ากดไปแรงแค่ไหน แต่มันก็มีรอยเหมือนฝ่าเท้าแมวจางๆ ปรากฎบนหน้าผาก โดยที่ฮันก็ยังหลับไหลอยู่เหมือนเดิมไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเลย
จนสิ่งมีชีวิตสี่ขาต้องส่ายหน้าไปเป็นเชิงว่าเจ้าเด็กนี่สุดยอด แต่ก็กดอุ้งเท้าลงบนหน้าผากฮันอีกรอบ แต่ฮันก็ทำแค่พลิกตัวครู่หนึ่งแล้วหลับต่อ
เสือขาวลูบท้องของตัวเองไปมาก่อนจะทรุดนั่งลงบนผ้าปูที่นอนนุ่มละมุน ท่าทางการนั่งเหมือนคนแล้วลูบท้องตัวเองเป็นภาพที่หายาก ซึ่งคนที่ควรได้เห็นภาพนี้ก็มีแค่เพียงฮันที่นอนอยู่ข้างๆ เท่านั้น ไม่ใช่ใครอื่น
เสียงครืดคราดดังมาจากท้องของเสือขาวส่งเสียงร้องขอข้าวไวๆ เดิมทีเทพไม่ต้องกินอะไรเลยก็ได้ แต่ทว่าเดี๋ยวนี้ใช้แรงมากเกินไป หากไม่กินอะไรก็จะทนไม่ไหว ยิ่งตอนนี้ท้องว่างเป็นเวลานานๆ เสือขาวก็เลยไม่มีแม้กระทั่งแรงยกแขนขาเลย
“ฮัน เจ้านี่นิ”
น้ำเสียงไร้เรี่ยวแรงดังลั่นห้อง แต่เหมือนว่าฮันที่อยู่ในโลกความฝันพร้อมกับหายใจสม่ำเสมอจะไม่ได้ยินอะไรเลย
“ฮันตื่นได้แล้ว!”
สุดท้ายเมื่อทนไม่ไหว เสือขาวก็ตะโกนใส่หูฮัน พอโดนรบกวนฮันเองก็ตื่นขึ้นมาด้วยความสะลึมสะลือ ทำได้เพียงแค่นอนกะพริบตาปริบๆ เท่านั้น
เสือขาวหัวเราะเยาะท่าทางเช่นนั้น ก่อนจะขึ้นไปบนหัวยุ่งเหยิงเป็นรังนกแล้วยกหางตัวเองฟาดลงไปที่หัวของฮัน
“รีบไปเตรียมข้าวได้แล้ว”
“ปลุกเพราะเรื่องนั้นเหรอครับ”
“ใช่ ข้าอยากกินอะไรสักอย่าง”
เพราะหลับไปนาน ฮันเลยตอบด้วยน้ำเสียงอู้อี้ ก่อนจะไออยู่ไม่กี่ทีแล้วลงมาจากเตียง มุ่งหน้าไปห้องครัวด้วยความโซเซเล็กน้อยพลางอ้าปากหาว เสือขาวก็เองท่าทางของฮันแล้วก็ลงจากเตียงตามไป
“วันนี้มีอะไรกินรึ”
“…วันนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีน่ะครับ เดี๋ยวอุ่นของที่มีอยู่ให้ครับ”
ฮันง่วงโงนเงน พูดงึมงัมแล้วก็ไอออกมา เสือขาวทำหน้าฉงนเมื่อเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนั้นจนต้องจ้องเขม็ง มันเป็นหน้าตาไม่น่าดูเอามากๆ ต่างจากท่าทางแข็งแรงอย่างเป็นปกติของฮัน ใบหน้าของเสือขาวกังวลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินวนรอบๆ ตัวฮันเพราะเป็นห่วงว่าฮันคงไม่เป็นลมล้มไป
เสือขาวคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะร่างกายอ่อนแอเพราะเคราะห์ร้าย จึงลองพินิจพิจารณาสิ่งรอบๆ ตัวฮันอีกครั้ง แต่กลับกลายเป็นว่าขนาดของอะไรเหล่านั้นกำลังลดลง สุดท้ายเสือขาวเลยสรุปว่าฮันเหนื่อยอ่อนเพราะไม่สบายจริงๆ จนยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นและออกจากข้างๆ ไม่ได้
“นี่ครับ ข้าวผัด วันนี้ผมคงป้อนให้ไม่ได้ ขอโทษนะครับ”
“กินหยูกกินยาเสีย มียาหรือไม่”
“อ่า เหมือนที่บ้านจะไม่มียานะครับ รู้สึกตอนนั้นจะกินหมด… แค่ก!”
“ฮะ… ฮัน!”
เสือขาวกระโดดโหยงราวกับตกใจเกินเหตุ ทว่าคังฮันก็ปัดมือไปมาเพื่อบอกอีกฝ่ายว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แล้วฝังตัวล้มไปบนเตียง
เสือขาวที่เคยหิวมากๆ จนไม่มีสติ ตอนนี้กลับหลงลืมความหิวไปกับการเป็นห่วงฮัน เดิมทีพลังของเทวะจตุรทิศเกี่ยวข้องกับสมดุลของโลก ไม่สามารถพัวพันกับการอยู่และการตายของมนุษย์ได้ตามอำเภอใจ จึงไม่มีความสามารถอย่างเทพองค์อื่นๆ ที่สามารถทำให้สิ่งมีชีวิตกลับคืนสภาพได้
เพราะแบบนั้นเสือขาวเลยทำอะไรไม่ได้ นอกจากมองฮันหอบหายใจแรงๆ สัมผัสความรู้สึกเหมือนใจคนพังทลาย รสชาติของความตาย เสือขาวตำหนิตัวเองเพราะไม่เคยรู้สึกไร้กำลังเฉกเช่นเวลานี้ ก่อนจะยกขาหน้าขึ้นอย่างคล่องแคล่วพร้อมกับพยักหน้าเหมือนนึกอะไรออก
“อดทนหน่อยฮัน เดี๋ยวข้ามา”
ฮันตั้งสติไม่ได้เลย เสือขาวจึงกระโดดลงจากเตียงไปยืนบนพื้น แสงจ้าปกคลุมร่างเล็กๆ และเปล่งประกายส่องสว่างรอบๆ อย่างอบอุ่น ในช่วงเวลาที่แสงเกือบจะมอดดับ รูปร่างของเสือขาวก็เปลี่ยนเป็นรูปร่างของชายหนุ่ม
“ต่อไปต้องเช็ดผมให้แห้งก่อนจะนอน ข้าบอกเจ้าแล้วแท้ๆ …เดี๋ยวข้าจะกลับมา อดทนอีกนิดฮัน”
ชายหนุ่มสะบัดปลายแขนเสื้อก่อนก้าวจะออกไปข้างนอก เสื้อผ้าของเสือขาวนั้น นอกจากจะมีลวดลายรูปทรงเลขาคณิตมากมายปักด้วยสีทองประปรายแล้ว ก็ยังมีสีขาวสว่างทั้งตัว เป็นชุดที่เหมาะสมกับเส้นผมสีขาวของเขาเป็นอย่างมาก
เสือขาวเรียกก้อนเมฆมาก่อนจะขึ้นไปขี่มันอย่างรีบร้อน ปกติแล้วเขามักจะเดินด้วยฝีเท้าเชื่องช้าเพื่อสำรวจมรอบข้าง แต่เนื่องจากคราวนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนมากๆ จะเอ้อระเหยไม่ได้ เสือขาวจึงลอยตัวขึ้นราวกับกระโดดขึ้นไปบนก้อนเมฆ
ก้อนเมฆลอยเคว้งสั่นไหวกับน้ำหนักอยู่ครู่หนึ่ง แต่เสือขาวก็ทรงตัวได้ด้วยความมั่นคงในทันที จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังที่พักอาศัยของเทพเต่าดำ ผู้เป็นหัวหน้าที่ตนไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนมานาน ก้อนเมฆส่ายไปซ้ายขวาหยอกล้อด้วยความอารมณ์ดี แต่สุดท้ายก็ต้องตกใจกับการตะคอกจาดเสือขาวที่อดทนต่อความรีบร้อนไม่ไหวจนต้องสั่งให้เร่งความเร็ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปก้อนเมฆก็ขุ่นเคืองเจ้านายของตัวเอง

* * *

“เต่าดำ! เต่าดำ! เจ้าอยู่ไหม”
“หนวกหูจริง… นี่เสือขาว ข้าอยากรู้จริงๆ เพราะเหตุใดถึงกล้ามาปลุกข้าในเวลากลางวันเช่นนี้”
เทพเต่าดำส่วนใหญ่จะนอนหลับในเวลากลางวัน ไม่ใช่กลางคืน สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติที่ติดตัวมาของเต่าดำทั้งในยุคปัจจุบันและยุคโบราณ เนื่องจากมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการตายของมนุษย์จึงต้องทำหน้าที่ของตัวเองในช่วงเวลาตั้งแต่เย็นไปจนถึงเช้ามืด
ด้วยเหตุนี้ช่วงเวลากลางวันจึงเป็นเวลาพักผ่อนของเหล่าเทพเต่าดำ ดังนั้นการที่เสือขาวมาปลุกตนที่กำลังหลับสนิทเช่นนี้จึงถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้มารยาทมากสำหรับเต่าดำ
“นี่เจ้ารู้ใช่หรือไม่ ว่าทำเช่นนี้เรียกว่าไร้มารยาท แต่ก็เอาเถอะ ข้ารู้ว่าที่เจ้าทำแบบนี้ มันต้องมีเหตุผล แล้วเหตุใดถึงทำให้เจ้ามาขัดขวางการนอนหลับของข้าเช่นนี้”
“คือ ข้าอยากรู้ว่ามีสมุนไพรอะไรที่สามารถใช้กับมนุษย์ได้บ้าง”
“เจ้าว่าอะไรนะ ข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้ากำลังพูดเลย แล้วเหตุใดถึงมาตามหายาใช้รักษามนุษย์กับข้าอย่างกะทันหันเช่นนี้ล่ะ หรือเจ้าลืมไปแล้วว่า ข้ากับเจ้าต่างเป็นสัตว์เทวะจตุรทิศเช่นเดียวกันน่ะ”
“มีมนุษย์กำลังป่วย ข้าอยากช่วย น่าจะป่วยหนักมาก”
“อุนยอง”
เต่าดำทำหน้ายู่เชิงรำคาญพลางจ้องมองเสือขาวกลับไป เขาพยายามกระตุ้นอีกฝ่ายด้วยสายตาจริงจังเหมือนกับจะสื่อว่าต้องตั้งสติได้แล้ว ทว่าขณะแสดงสีหน้าเคร่งเครียด ก็ต้องหลุดยิ้มออกมาให้กับท่าทางขอร้องอ้อนวอนของเสือขาว
“นี่เจ้ากินอะไรผิดสำแดงมาหรือไม่ เจ้าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์งั้นหรือ”
“ข้าแค่อยากช่วย เจ้ามนุษย์ดูป่วยมากจริงๆ”
“แล้วเจ้านั่นป่วยตรงไหนล่ะ ไม่สิ คนผู้นั้นเป็นใครกันรึ”
“เป็นเด็กที่คอยดูแลข้าน่ะ”
“เจ้าบ้าไปแล้วรึ นี่เจ้ากำลังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์จริงๆ สินะ”
เต่าดำกระเดาะลิ้นแล้วหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ จากนั้นก็เริ่มสกัดชาใส่ถ้วยน้ำชาที่วางตรงหน้าราวกับเสือขาวไม่ได้อยู่ในสายตา กลิ่นดอกเบญจมาศอ่อนๆ ลอยอบอวลไปทั่วที่พักของเต่าดำ
ตรงกันข้ามกับเสือขาวที่ในหัวมีแต่ความกังวล จนทำได้แค่จ้องมองเต่าดำด้วยสายตารีบร้อน เต่าดำจึงเบะปากให้เพื่อนที่ดูไม่รื่นรมย์กับชาที่ตนอุตส่าห์ทำให้เลยแม้แต่น้อย
ร่างหนารู้สึกสนุกที่ได้เห็นท่าทางของเพื่อนสนิทที่ปกตแทบจะไม่ค่อยสนใจอะไร ทว่าตอนนี้กลับกระตื้อรือร้นราวกับลูกม้าที่มีไฟติดอยู่ตรงหาง แต่ถึงอย่างไร เขาก็ลำบากใจกับการเห็นด้วยในสถานการณ์แบบนี้เนื่องจากยังไม่คุ้นชินกับสิ่งที่เห็น
“ไม่มีเรี่ยวแรง ไข้ก็ขึ้นสูง แถมยังไออีกด้วย ข้าจึงอยากรีบเอายาไปให้”
“ก็ประมาณนั้นไม่ใช่หรือ มันเป็นไข้หวัดทั่วไปที่พวกมนุษย์เป็นกัน ปล่อยไว้สักพักก็จะหายเองตามธรรมชาติ มันมีอะไรต้องห่วงอีกรึ”
“เด็กคนนั้นถูกปีศาจร้ายจากใดไม่รู้ครอบงำอยู่น่ะ เจ้าปีศาจตนนั้นร้ายกาจมาก ราวกับรวบรวมความชั่วร้ายทั้งหมดเข้าด้วยกัน พอข้ามาคิดดูอีกทีเจ้าเด็กนั่นน่าจะกำลังรับผลกรรมที่ผู้อื่นทำไว้แทนแน่ๆ”
“แล้วอย่างไร”
“กลิ่นอายความชั่วร้ายมากมายที่มารวมตัวกันมันใหญ่มาก… ใหญ่จนเจ้าต้องตกใจเป็นลมล้มลงไปเลยล่ะ ถ้าสิ่งเหล่านั้นทำให้จิตใจของเด็กคนนี้อ่อนแอลงเมื่อไร มันก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นจนกลืนกินเข้าไปแน่ๆ เพราะฉะนั้นเด็กคนนี้จะป่วยไม่ได้”
“นี่เจ้าจะบอกว่าท่านยมทูตทำผิดพลาดงั้นหรือ มันจะเป็นไปได้อย่างไร คำพูดของเจ้ากำลังสื่อว่าปรโลกทำงานไม่รอบคอบอยู่นะ”
ระหว่างบนสนทนาที่ค่อยๆ ยาวขึ้น เสือขาวจึงยกชาร้อนขึ้นมาดื่มอย่างร้อนใจ เมื่อชาในถ้วยหมดลงก็วางถ้วยลงบนโต๊ะดังปึก เต่าดำคลายสีหน้าที่แข็งทื่อแล้วมองเสือขาวอย่างพินิจพิจารณา
นัยต์ตาสีฟ้าของเสือขาวลุกวาวราวกับกำลังมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ ทำให้เต่าดำถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางยกสองมือเข้าหากัน
“เช่นนั้นเจ้าลองไปที่สวนดอกไม้ซอชอนดูเถิด ไปเจอฮันรักกุงอี เทพพิทักษ์สวนดอกไม้ แล้วขอน้ำจากบ่อน้ำต้นหลิวมา ข้าว่ามันอาจจะไม่ได้ผลอะไรมากนัก เหมือนยาที่ใช้รักษาอาการป่วยของพวกมนุษย์หรอกนะ ถ้าเป็นบนสรวงสวรรค์ ก็คงมีประสิทธิภาพมากกว่า”
“ขอบใจเจ้ามาก”
“ข้าจะเตือนเจ้าอีกครั้ง สิ่งที่เจ้าต้องไปนำมา ไม่ใช่ดอกไม้นะ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ปลูกกระดูกหรือดอกไม้ปลูกเนื้อหนังก็ตาม เจ้าแค่ต้องไปขอน้ำจากบ่อน้ำต้นหลิวเพียงอย่างเดียว แล้วก็ไม่ใช่น้ำสามสีที่อยู่ติดกับทางไปสวนดอกไม้ซอชอนด้วย ต้องเป็นน้ำจากบ่อน้ำต้นหลิวเท่านั้น เข้าใจที่ข้าพูดหรือไม่”
“ข้าไม่ได้โง่นะ ที่เรื่องแค่นี้จะไม่รู้น่ะ เจ้าอย่ากังวลไปเลย ถึงข้าจะเป็นแบบนั้นบางครั้งก็เถอะ”
“เจ้าฮันรักกุงอีมักจะชอบพูดเล่นเสมอ ส่วนบริวารของเจ้านั้นชอบหยอกล้อเหล่าเทพไม่แพ้กัน ฉะนั้นเจ้าอย่าไปหลงกลพวกนั้นล่ะ”
“เข้าใจแล้ว ขอบใจเจ้ามาก”
“เมื่อถึงตอนนั้น ข้าคิดว่าเจ้าควรบอกสิ่งที่เจ้ากำลังพยายามอยู่ ให้เด็กนั่นได้รับรู้ก็ดีนะ”
เทพเต่าดำพ่นคำพูดออกมามากมายราวกับพ่นลมหายใจพลางส่ายหน้าไปมา เมื่อหมุนตัวกลับมาก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะสายตาของเสือขาวกำลังจ้องมองตนอย่างไม่ลดละ นัยน์ตาลุกวาวสว่างสดใสคู่นั้น ทำให้เดาได้ไม่อยากเลยว่าเพื่อนของเขากำลังมีความรู้สึกลึกซึ้งให้กับมนุษย์ผู้นั้นแน่นอน
“เด็กคนนั้นเป็นคนดีมากเลยล่ะ”
เสือขาวเอ่ยคำชมที่หาฟังได้ยากแล้วเคลื่อนตัวไปข้างหน้าจนชายเสื้อพลิ้วไหวตามแรงลม ส่วนเต่าดำก็ได้แต่หัวเราะกับท่าทางที่เสือขาวแสดงออกให้เห็น จากนั้นก็ยื่นมือออกไปหยิบถ้วยชาแล้วรินชาดอกเบญจมาศที่เหลือลงไป กลิ่นดอกเบญจมาศอ่อนๆ จึงลอยอบอวลไปทั่วที่พักของเต่าดำอีกครั้ง

* * *

คอมเมนต์

Chapter List