ลูกหมาของผมกลายเป็นเสือขาว! ตอนที่ 3-3

Reader Settings

Size :
A-16A+

ตอนที่ 3-3 สวนดอกไม้ซอชอน

เมื่อร่ำลากันเสร็จเสือขาวก็เริ่มออกวิ่งอีกครั้ง อาการของฮันตอนนี้น่าเป็นห่วงมากจนไม่รู้ว่ามันรุนแรงขนาดไหนแล้ว เขากระชับมือที่ถือขวดน้ำเต้าไว้แน่นเพื่อไม่ให้น้ำข้างในเอ่อล้นทะลักออกมา
“ฮัน!”
เสือขาวตะโกนเสียงดังก้องกังวานทันที เมื่อเห็นเงารางๆ ของทงมกกำลังเดินประคองคนที่ตนตามหาอยู่ไกลๆ แต่ทว่าทงมกกลับไม่หยุดเดินและไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ ราวกับไม่ได้ยินเสียงของเขา
“ฮัน!”
เมื่อเสือขาวตะโกนเรียกเสียงดังอีกครั้ง ฮันที่กำลังซุกหน้าอยู่บนหลังทงมกจึงเงยหน้าขึ้นแล้วหันมามอง ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ ถึงแม้ว่าจะมองเห็นไม่ชัดเจนเพราะสายตาพร่าเลือน แต่ผู้ที่วิ่งเข้ามาหาพร้อมเส้นผมสีขาวสลวยก็เป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากอุนยอง
“ท่านอุนยองเหรอ”
พอได้ยินเสียงแผ่วเบาของฮัน ทงมกจึงหยุดเดินและหมุนตัวกลับมา ซึ่งทันทีที่หันกลับมาก็เจอกับเสือขาวที่กำลังยืนเหนื่อยหอบอยู่ข้างหน้าตัวเองโดยไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไร เส้นผมสลวยที่มักจะถูกจัดไว้อย่างดีกำลังปลิวกระจัดกระจายคนละทิศคนละทางไม่เป็นทรง
“ทงมก ส่งฮันมาให้ข้า”
ทงมกกำลังยืนกะพริบตาด้วยความมึนงง แล้วก็ได้แต่มองเสือขาวคว้าตัวฮันไปต่อหน้าต่อตาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เสือขาวพาคนตัวเล็กนั่งลงกับพื้นแล้วป้อนน้ำอะไรบางอย่างให้ดื่ม ทุกอย่างเกิดขึ้นมันเร็วมากจนทงมกไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้เลย
“ท่านเสือขาว นี่มันอะไรกัน…”
คนที่กำลังสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพยายามพูดกับเสือขาว แต่เขากลับไม่ได้ยินเพราะมัวแต่ป้อนน้ำอะไรบางอย่างให้ฮันดื่ม หลังจากยืนมองฮันกับเสือขาวด้วยดวงตาเหม่อลอยสักพัก ทงมกก็ค่อยๆ ย่อขานั่งลงข้างๆ ทั้งสองคน
“อาการของฮันเริ่มดีขึ้นแล้วล่ะ นี่เจ้าเอาอะไรให้กินงั้นรึ”
“อ๋อ ผมป้อนกลีบดอกไม้ที่เทพพิทักษ์สวนดอกไม้ให้มาน่ะครับ”
“ตาแก่เจ้าเล่ห์เอ๊ย…”
จากการกระทำแบบนี้ ดูท่าเทพพิทักษ์สวนดอกไม้คงจะมาก่อกวนบ่อยขึ้นแล้วไม่ปล่อยตัวเขาไปง่ายๆ แน่นอน ถึงแม้ว่าจะเห็นเสือขาวสบถอย่างร้อนใจก่อนหน้านี้ เทพพิทักษ์สวนดอกไม้ก็ทำเพียงแค่จ้องมองเขาแล้วอมยิ้มแปลกๆ โดยที่ไม่ทำอะไรตอบโต้กลับ
เสือขาวต้องทำการตำหนิติเตียนอีกฝ่ายที่มัวแต่ลีลาบอกว่ามีเวลาเยอะแยะจะรีบทำไมแล้วหัวเราะร่าก่อนถึงจะได้น้ำนี้มา เขาขู่เข็ญเทพพิทักษ์สวนดอกไม้ที่กำลังหัวเราะเหมือนคนบ้าไม่มีความคิดด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
‘ถ้าเจ้าทำอะไรไร้มารยาทอีกแค่ครั้งเดียว ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่’
เทพพิทักษ์สวนดอกไม้มีอายุยาวนานกว่าเขา แต่กลับไม่มีความสุขุมนุ่มลึกเลยสักนิด เสือขาวไม่ค่อยชอบเจ้าฮันรักกุงอีมากพอๆ กับที่ทุกคนให้ความเคารพเจ้านั่น แต่เทพพิทักษ์สวนดอกไม้ก็ไม่สามารถทำอะไรตนที่เป็นถึงเทพพิทักษ์ทิศทั้งสี่ได้
แต่ถึงแม้ว่าจะถูกขู่เข็ญแบบนั้นก็ตาม แต่อีกฝ่ายผู้ที่ชื่นชอบความสนุกสนานก็หัวเราะไปหมด ไม่ว่าจะรู้สึกผิด รู้สึกยังไง ก็มักจะเอ่ยว่าฤดูใบไม้ผลิมาเยือนแล้ว สวนดอกไม้ซอชอนเป็นพื้นที่มีฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปีดังนั้นเมื่อไหร่ที่ได้ยิดว่าฤดูใบไม้ผลิมาเยือนแล้ว จึงฟังแปลกประหลาดยิ่งนัก เสือขาวที่กำลังกระวนระวายใจจึงได้แต่มองเทพพิทักษ์สวนดอกไม้หัวเราะ ก่อนจะรีบลงมายังโลกมนุษย์อย่างรวดเร็ว
“ไม่รู้ว่าเจ้าเทพพิทักษ์สวนดอกไม้นั่นคิดอะไรอยู่”
เสือขาวกอดฮันไว้ในอ้อมแขนพลางส่ายหัวไปมา จากนั้นก็หันไปก้มหัวขอบคุณทงมกที่ยังคงมีสีหน้ามึนงงอยู่เหมือนเดิม
“ขอบใจเจ้ามากนะมก หากไม่ได้เจ้าคงเกิดเรื่องไม่ดีกับฮันไปแล้ว”
“จะรักษาคุณคังฮันหรือขอรับ”
“ใช่”
“ท่านเสือขาวก็ทราบนี่ขอรับ ว่าเทวะจตุรทิศไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ได้”
“มันไม่เหมือนกันน่ะสิ เด็กคนนี้เป็นข้อยกเว้น”
ร่างสูงลูบเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนของฮันพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ก่อนจะมุ่งหน้าก้าวเดินกลับไปทางบ้านของพวกเขา ทิ้งให้ทงมกนั่งมองแผ่นหลังของเสือขาวด้วยสายตาแปลกๆ จากนั้นก็เริ่มขยับตัวลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับไปร้านดอกไม้ที่คุณแม่ของตนกำลังรออยู่ มือใหญ่สั่นไหวเล็กน้อยของทงมกุมดอกไม้สีม่วงสะดุดตาเอาไว้ ช่างเป็นสัมผัสที่ติดตรึงใจเหลือเกิน

* * *

เสือขาวเหลือบมองฮันที่กำลังอ่อนแอและบอบบางอยู่บ่อยๆ เขากังวลจนไม่สามารถปล่อยมืออีกฝ่ายได้เลย ตอนนี้ความร่าเริงของฮันมลายหายไป มือที่จับเด็กคนนี้เอาไว้ตลอดเวลาสัมผัสได้ว่ามีหลายๆ อย่างแปลกไปจนไม่คุ้นเคย
ช่วงเวลานี้ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด แต่ยังไม่ดึกมากนักจึงมีผู้คนมากมายออกมาพักผ่อนคลายความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน พร้อมกับมีการเปิดแสงไฟระยิบระยับสวยงามตามทางเดิน
แต่ทว่าแสงไฟเหล่านั้นกลับไม่สามารถส่องสว่างเข้ามาในบ้านหลังนี้ได้เลย สงผลให้เจ้าของบ้านดำดิ่งสู่ห้วงนิทราในบ้านที่ปกคลุมไปด้วยความมืดมิดหลังนี้
บนเตียงนุ่มมีเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิงเล็กน้อยนอนแผ่ราบหลับตาและกำลังแหวกว่ายอยู่ในความฝัน ใบหน้าขาวซีดของคนบนเตียงตอนนี้ไร้ความกังวลหรือความหวาดกลัวใดๆ
ถึงแม้ว่ามนุษย์ที่กำลังนอนอยู่บนเตียงจะมีรูปร่างงดงามเรียบเนียน แต่ใบหน้ายังดูอ่อนเยาว์อย่างชัดเจน ฮันมักจะดูโตกว่าคนรุ่นเดียวกันเสมอ เนื่องจากต้องเเบกรับภาระมากมายต่างกับใบหน้าอ่อนวัยนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสภาพร่างกายแบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้คนตรงหน้ามีปฏิกิริยาเหมือนเด็กมากกว่าเดิม อุนยองถอนหายใจแล้วยื่นมือขึ้นลูบเบาๆ บริเวณหน้าผากขาวเนียน
จากนั้นก็ต้องนิ่วหน้าเล็กน้อย เมื่อสัมผัสได้ว่าความร้อนจากตัวคนตรงหน้ายังไม่หายไป เขาจึงไม่สามารถวางใจเพราะจู่ๆ ไข้ก็กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เกือบจะหายดีแล้วแท้ๆ
อุนยองส่งเสียงในลำคอเล็กน้อยแล้วขยับตัวหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเล็กข้างหัวเตียงตัวขึ้นมา หลังจากเห็นคังฮันกำลังเปร่งเสียงแหบพร่าด้วยความทรมาน เขาวางผ้าขนหนูชุ่มน้ำบนหน้าผากมนเพื่อขับไล่ความร้อนให้หายไป
“อึก… ทรมานเหลือเกิน”
ท่าทางของฮันที่กำลังส่งเสียงครางด้วยความเจ็บปวดขณะกำลังนอนหลับ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก อุนยองเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากันจนผูกเป็นปมอีกครั้ง ทว่าจังหวะนั้นคนบนเตียงก็เอื้อมมือมาคว้ามือเย็นๆ ของอุนยองขึ้นมาแนบแก้มร้อนของตัวเอง พอมือใหญ่สัมผัสแก้มแล้ว ฮันก็กลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งพร้อมลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
เสือขาวรู้สึกแปลกๆ หลังผิวนุ่มของฮันสัมผัสโดนมือตัวเองจึงพยายามเอามือออก แต่อีกฝ่ายกลับยึดมันแน่นกว่าเดิมจนไม่สามารถเอาออกมาได้ เมื่อทำอะไรไม่ได้เสือขาวจึงปล่อยมือซ้ายไว้อย่างนั้น แล้วขยับมือขวาจับผ้าขนหนูชุบน้ำขึ้นมาเช็ดใบหน้าขาวเนียนใหม่ ช่วยลดไข้ให้หายไปอย่างเงียบๆ
ระหว่างซับเม็ดเหงื่อที่ไหลออกมาด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำ ฮันก็ขยับตัวทีละนิดจนเสือขาวต้องเอาผ้าออกเพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะตื่น พอวางผ้าขนหนู ร่างสูงจึงนั่งมองใบหน้าของฮันอย่างละเอียด
แพขนตาเริ่มขยับไปมาเป็นสัญญานว่ากำลังจะตื่นจากนิทรา จากนั้นดวงตาใสก็เปิดออกสะท้อนเห็นตัวเขา นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนปรือลงแค่ครึ่งเดียวของฮันขยับกลอกไปมาไร้ทิศทาง เมื่อร่างบางเห็นนัยน์ตาสีฟ้าของอุนยองจึงหยุดนิ่งแล้วจ้องมอง
“ท่าน… อุนยอง”
อุนยองมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงแหบแห้งจนน่าสงสารที่ฮันเปล่งออกมา ทั้งๆ ที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เขารู้ดีมากกว่าใครว่าปกติเด็กคนนี้ชอบทำตัวเหมือนสบายๆ เพื่อไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังเอื้อมมือมาหาเขาอย่างน่าเวทนา ภาพตรงหน้าทำให้หัวใจเขาเหมือนจะพังทลายลงแตกเป็นเสี่ยงๆ
“ผมไม่ไหวแล้ว มัน…เจ็บมากเลยครับ ทำไมมันถึงทรมานขนาด…”
วินาทีนั้น อุนยองไม่สามารถเมินมือเล็กๆ ที่ยื่นมาด้วยความกระสับกระส่ายได้เลย ความร่าเริงของฮันหายไปแล้วอย่างสิ้นเชิง พอมือของตนสัมผัสตัวคนบยเตียงก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาทันที
หยาดน้ำตาบางๆ เอ่อล้นออกมาจากดวงตาใส อุนยองจับมือฮันไว้แน่น แล้วเอื้อมมืออีกข้างขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้ พร้อมกับนั่งนิ่งไม่พูดอะไรเพื่อรอฟังคำพูดของอีกคน
“ทำไม ทำไมถึงเจ็บ… ปวดแบบนี้ล่ะครับ”
“…”
“ผมน่ะ ผมทำตัวไม่ดี… ก็เลยเป็นแบบนี้เหรอครับ พวกสิ่งไม่ดีเลยมาตามรังควานผม”
“ฮัน”
“ผมเป็นคนเลวเหรอครับ ที่ผ่านมาผมก็ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนั้นนะ”
เมื่อเห็นใบหน้าเศร้าโศกพร้อมกับน้ำตาที่ร่วงเป็นสายฝนของฮัน อุนยองก็ได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองแล้วเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม ร่างสูงก้มตัวให้หน้าผากสัมผัสหน้าผากขาวเนียนเบาๆ เพราะไม่สามารถทนมองใบหน้าที่กำลังสะอื้นไห้อย่างน่าสงสารได้
ฮันส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางหอบหายใจรุนแรง ก่อนจะรั้งอุนยองลงมากอดด้วยแขนทั้งสองข้าง จากนั้นก็ปลดปล่อยความโศกเศร้าให้พรั่งพรูออกมา อุนยองเองก็ปล่อยให้ฮันร้องไห้ ทว่าตนก็โอบกอดอย่างอ่อนโยนแล้วค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากไปซับน้ำตาให้เบาๆ หยดน้ำตาของคังฮันแทรกซึมเข้าไปในริมฝีปากของอุนยอง
“อย่าร้องไห้เลย”
“ท่านอุนยองมันทรมาน ฮึก ผมไม่ไหวจริงๆ”
“นี่ ฮัน มันไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอกนะ”
“ไม่ชอบเลย มันทรมาน ดูเหมือนจะไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดาเลยครับ ท่านอุนยอง ผมทรมาน…”
ฮันกอดอุนยองไว้แน่นเหมือนเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่กำลังออดอ้อนพลางบดขยี้ใบหน้าตัวเองไปมาบนไหล่กว้าง ร่างบางเหนื่อยจนไม่สามารถเปล่งคำพูดใดๆ ออกมาได้อีก ทำได้แค่ร้องไห้ปล่อยน้ำตาไหลรินเท่านั้น แต่ในจังหวะที่ฮันค่อยๆ คลายมือทั้งสองข้างออก กลับกลายเป็นอุนยองที่กระชับกอดฮันให้แน่นขึ้นอีกครั้ง
เขาดึงอีกฝ่ายมากอดและค่อยๆ ประคองให้นั่งบนตักตัวเอง จากนั้นก็จ้องมองนิ่งๆ หลังจากเงียบและเฝ้ามองฮันขยับปากเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง อุนยองก็เอ่ยคำพูดออกมา
“ฮัน เจ้าอย่าร้องไห้ไปเลย”
“มะ ไม่ไหวจริงๆ”
เมื่อหยดน้ำตาทะลักออกมาจากดวงตาไหลไปจนถึงแก้มขาวเนียน อุนยองเลยขยับริมฝีปากไปซับแล้วกดจูบลงบริเวณขอบตาของฮัน เขาดูดซับน้ำตาที่ไหลออกมาจนหมดและประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากมน
“ถ้าอย่างนั้น เจ้ามอบความเจ็บปวดเหล่านั้นให้ข้า”
“…”
“ข้าจะรับมันไว้เอง มอบมันให้ข้า”
นัยน์ตาสีฟ้าเข้มของอุนยองสะท้อนอยู่ในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของฮัน สองสีที่ดูไม่ค่อยเข้ากันค่อยๆ ผสมผสานกันและส่องแสงอยู่ในความมืดมิด
ฮันจ้องมองดวงตาสีฟ้าสวยก่อนจะขยับตัวแล้วส่ายหน้าไปมา อุนยองขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังปฏิเสธทั้งๆ ที่ตัวเองอ่อนแอขนาดนี้ ร่างสูงแตะริมฝีปากลงบริเวณจมูกของฮันเหมือนจะถามว่าทำไมถึงปฏิเสธ และค่อยๆ ซับน้ำตาของฮันที่เอ่อล้นออกมาอีกครั้ง
“ถ้าทำแบบนั้น ท่านอุนยองก็จะป่วยไปด้วยนะครับ”
พูดจบก็ไอค่อกแค่กออกมาอีกครั้งเหมือนมีอะไรติดอยู่ที่คอ อุนยองมองฮันด้วยสายตาคาดเดาความหมายไม่ได้ แล้วค่อยๆ ขยับเข้าไปจนช่องว่างระหว่างพวกเขาใกล้กันมากกว่าเดิม โดยอีกฝ่ายที่มัวแต่กระวนกระวายใจเพราะพิษไข้จนไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่ร่างสูงทำ
“ฮัน ส่งมันให้ข้าเถิด”
“…”
“เจ้าจะได้ดีขึ้น แทนที่จะทรมานอยู่เช่นนี้”
ริมฝีปากอวบอิ่มของอุนยองค่อยๆ ประทับลงบนริมฝีปากบาง มันเคลื่อนตัวช้าๆ ราวกับเป็นผีเสื้อตัวน้อย กดทับริมฝีปากของฮันที่มีไอร้อนออกมาจากข้างในอย่างเนิ่นนาน ก่อนจะสอดลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงหวานพร้อมกับหลับตาลง
ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างดูดดื่มจนน้ำลายของทั้งคู่หลอมรวมเข้าด้วยกัน เสียงกระทบกันของน้ำลายดังกึกก้องไปทั่วห้องอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อุนยองเพิ่มแรงไปที่มือตัวเองประคองท้ายทอยของคนตัวเล็ก แม้ว่ามือของฮันที่กำลังคว้าแขนแกร่งเอาไว้จะค่อยๆ ร่วงหล่นอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่ร่างกายส่วนอื่นกลับมีพลังงานบางอย่างเข้ามาแทนที่
ทั้งสองคนหอบหายใจพลางลืมตาขึ้นและหลับตาลงพร้อมกันราวกับนัดกันไว้ อุนยองโลมเลียริมฝีปากบางของฮันอีกครั้งแล้วดื่มด่ำความหวานของคนตรงหน้าที่อ้าเปิดอย่างอ่อนแรง
“อย่าเป็นอะไรอีกนะ”
อุนยองกระซิบเบาๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับฮันที่ทนความเหนื่อยล้าไม่ไหวแล้วผล็อยหลับไป ชายหนุ่มผมขาวอมยิ้มพลางดึงอีกฝ่ายเข้ามาโอบกอดอีกครั้ง จากนั้นอุณหภูมิร้อนในร่างกายของฮันค่อยๆ ปกคลุมไปด้วยความเย็นอีกระลอก

* * *

คอมเมนต์

Chapter List