องค์รัชทายาท เลิกตีข้าเสียที ตอนที่ 10
ตีครั้งที่ 10
ร่างของฝานอวี้สั่นไปทั้งตัว ร้อง “อ๊า” ด้วยความหวาดกลัว และทำลายวิชาตรึงกายของเซี่ยเหยียน สองมือเขาตบไปที่ศีรษะตนเองจนเกิดลมส่งเสียงหวีดแหลม
“ระวัง” เซี่ยเหยียนร้องเตือนเสียงดัง
หนานเหอดึงปิ่นปักผมที่ใหญ่กว่าตัวเขากระโดดลงไปด้านล่างสบายๆ แต่มือของฝานอวี้ก็เปลี่ยนทิศทางไปด้วย และฟาดไปทางหนานเหอ
เซี่ยเหยียนตกใจจนเหงื่อไหลพราก รีบล้วงยันต์วิเศษออกมาสองใบ ใช้ใบหนึ่งรีบหายตัวไปโผล่ข้างตัวหนานเหอ แล้วใช้อีกใบพาทั้งสองไปโผล่ที่พื้น
“เกือบไปแล้ว” เซี่ยเหยียนใจเต้นรัว
“ท่านเซียน” หลินอิ่งรีบเข้ามาหา
เซี่ยเหยียนกวาดตาไปรอบๆ ก่อนจะขรึมลง “ทำไมพวกเจ้ายังไม่ไปกันอีก”
เหล่าปีศาจที่พ่างหลานรับลงมายังอยู่ ล้อมรอบต้นไม้เป็นวงกลม
“ไปไม่ได้” พ่อหมาป่าพูด “มีม่านอาคม”
กลีบดอกไม้สองกลีบบินออกไปทันที ไม่ไกลเท่าไรก็เหมือนชนกับกำแพง ม่านอาคมจริงๆ ด้วย กลีบดอกไม้หมุนไปตามแนวม่านอาคม เป็นม่านอาคมทรงกลมที่ล้อมต้นไม้ไว้
เสียงกุกกักดังขึ้นมาจากเหนือหัว ทุกคนเงยหน้าก็เห็นคนคนหนึ่งร่วงลงมา ฝานอวี้ แต่ตอนที่ตกลงมากลับตัวเล็กลงเรื่อยๆ
ตอนที่เกือบจะถึงพื้น ขนาดตัวก็ไม่ต่างกับเซี่ยเหยียนและคนอื่นๆ
เซี่ยเหยียนรีบเสกม่านอาคมขึ้นมาอีกในทันที กำแพงม่านอาคมนุ่มมาก พอฝานอวี้ตกลงมาบนนั้นก็เด้งขึ้น เมื่อม่านอาคมหายไปเขาถึงตกลงบนพื้น นอนนิ่งเงียบ ไม่ขยับเขยื้อน
ปีศาจบางตนอยากเข้าไปตรวจดู แต่เซี่ยเหยียนห้ามเอาไว้ “เดี๋ยวก่อน ข้าเอง”
ปีศาจทุกตนจึงมองจากที่ไกลๆ
เซี่ยเหยียนยังไม่ทันก้าวเข้าไป กลีบดอกไม้ก็ลอยไปแล้ว คราวนี้ไร้ซึ่งการขัดขืนของฝานอวี้ กลีบดอกไม้จึงฝังเข้าร่างอย่างราบรื่น เซี่ยเหยียนตรวจดูพลางขมวดคิ้วเป็นปม “ทุกคนถอยออกไป”
“ทำไมหรือ” หนานเหอลงมาถึงพื้นก็ใช้อาคมเสกให้ปิ่นมีขนาดเล็กลงแล้วใส่ไว้ในถุงเฉียนคุนของตัวเอง ได้ยินคำของเซี่ยเหยียนเขากลับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก
“ในร่างเขายังมีกลิ่นอายของผีอยู่ ดวงวิญญาณโดนครอบงำไปมาก ถ้าไม่ช่วยดวงวิญญาณก็จะแตกสลาย เหมือนกับหนูตัวนั้น” เซี่ยเหยียนกล่าว พูดพลางล้วงหยิบยันต์วิเศษในถุงเฉียนคุนของตัวเองไปด้วย
“ให้ข้าทำ?” หนานเหอถาม
“ไม่ต้อง ตอนนี้ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่ร่างหดเล็กลง ท่านเก็บพลังเวทย์ไว้หน่อยจะดีกว่า เผื่อเวลาฉุกเฉิน” เซี่ยเหยียนพูด
ยันต์วิเศษยาวมากกว่าความสูงของคน เซี่ยเหยียนออกแรงดึงยันต์มาคลุมร่างของฝานอวี้ไว้ จากนั้นก็คีบพู่กันพิพากษามาขีดเขียนบนยันต์วิเศษทั้งห้าใบ สุดท้ายก็ตะโกนว่า “เก็บ”
ยันต์วิเศษทั้งหมดแตกออกทันที แสงขาวสาดส่องแยงตาจนลืมตาไม่ได้
ครู่ใหญ่แสงขาวจึงค่อยๆ หรี่แสงลง เซี่ยเหยียนลืมตา ฝานอวี้ยังคงนอนนิ่ง เหนือร่างเขาในอากาศมีไอสีดำที่ถูกแสงสีขาวห่อหุ้มเอาไว้
เซี่ยเหยียนส่งกลีบดอกไม้ออกไป ยังไม่ทันเข้าไปใกล้ไอสีดำก็รู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บเสียดกระดูกชวนให้รู้สึกไม่สบายตัว เซี่ยเหยียนรีบดึงกลีบดอกไม้กลับทันที
กลีบดอกไม้ลอยกลับมาทันใดแล้วร่วงลงบนไหล่ของเซี่ยเหยียนและยังคงสั่นระริก
เซี่ยเหยียนลูบพวกมัน ถือได้ว่าเป็นการปลอบประโลม จากนั้นก็ล้วงยันต์วิเศษออกมาหนึ่งใบสะกดไอสีดำเอาไว้จากนั้นก็ยื่นให้หลินอิ่งเก็บรักษา
“เรียบร้อย” เซี่ยเหยียนพ่นลมหายใจยาว
ครานี้เหล่าปีศาจถึงเข้ามาใกล้
ดวงตาทั้งสองของฝานอวี้ปิดสนิท สีหน้าซีดเซียว แต่ดูสงบนิ่ง น่าจะไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว
เซี่ยเหยียนเหนื่อยหอบ แต่พอเห็นพื้นแสนสกปรกก็ไร้อารมณ์จะพักผ่อน เขาจึงเดินไปข้างม่านอาคมแล้วยื่นมือไปลูบ สัมผัสนั้นแข็งและเย็น ด้วยอาคมอันน้อยนิดที่พวกเขามีนั้นยากจะทลายลงได้ ตอนนี้คงออกไปไม่ได้ชั่วคราว
“เหมือนเป็นกับดักนะ” หนานเหอที่ยืนอยู่ด้านหลังเซี่ยเหยียนพูดขึ้น
เซี่ยเหยียนขานรับ “อืม” เสียงเบา เขาเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน
ไม่ว่าจะเพื่อสืบเรื่องหนูหรือว่าเหล่าปีศาจเคาะระฆัง เขาก็ต้องมาที่นี่ แต่ม่านอาคมนี้ถูกเสกขึ้นมาตอนไหน ใครกันล่ะที่ทำ เขาถึงไม่รู้สึกเลยสักนิด
“จริงสิ ปิ่นปักผมล่ะ” เซี่ยเหยียนถาม
หนานเหอล้วงปิ่นปักผมออกมาจากถุงเฉียนคุน ปิ่นมีขนาดเล็กลงแล้ว แต่ก็ยังคงมองออกว่างานประณีตมาก “สวยงามมาก” เซี่ยเหยียนรับปิ่นมาโดยอดพูดขึ้นมาไม่ได้ แต่วินาทีที่สัมผัสถูกมือ ไอเย็นเยือกก็แล่นขึ้นมาจากปิ่น
“แต่ความแค้นก็มีมาก คงจะเป็นผีสาวที่มีความแค้นหนัก” องค์รัชทายาทกล่าว
“อืม” เซี่ยเหยียนขมวดคิ้วพลางพึมพำกับตัวเอง “ผีสาวที่มีความแค้นหนักหรือ…”
“เจ้ารู้หรือ” เห็นท่าทีนึกอะไรได้แบบนั้นหนานเหอจึงถามในทันที
“ข้าเคยเจอ ร้ายกาจมาก” เซี่ยเหยียนเหมือนจะไม่ยินดีพูดอะไรมาก ปลายนิ้วลูบปิ่นไปมาและหรี่ตาพลางพูดขึ้น “ปิ่นนี่ดูก็รู้ว่าราคาไม่ธรรมดา ไม่ใช่ของที่คนทั่วไปจะใช้ได้ เจ้าของปิ่นจะต้องร่ำรวยแน่นอน ถ้าไม่ใช่ราชวงศ์ก็ขุนนาง”
“เจ้าก็รู้อะไรเยอะพอตัวนี่” หนานเหอมองเขา
เซี่ยเหยียนยิ้ม “แน่นอน ของดีอะไรบ้างที่ข้าไม่เคยเจอ”
หนานเหอหยุดคิดก็เข้าใจในทันที คนตรงหน้านี่ใคร เขาเป็นหมอเทวดา หมอที่ทุกคนประจบแทบตาย!
จะประจบแน่นอนว่าต้องใช้ของที่ดีที่สุด
“เจ้าคิดว่า เจ้าของปิ่นน่าจะเป็นใครมากที่สุด”
“ราชวงศ์ องค์หญิง” เซี่ยเหยียนพูดอย่างมั่นใจ
ราชวงศ์ เจ้าหญิง ผีสาว หนานเหอพึมพำคำพวกนี้รอบหนึ่งแต่ก็ยังนึกอะไรไม่ออก อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้ลงมาแดนมนุษย์บ่อยอย่างเซี่ยเหยียน
“เอ๋” จู่ๆ หนานเหอก็ส่งเสียงสงสัยแสนเจ้าเล่ห์ออกมา
เซี่ยเหยียนเงยหน้ามองเขา “อะไรหรือ” ในขณะเดียวกันก็เอาปิ่นเก็บเข้าไปในถุงเฉียนคุนของตัวเอง
คอมเมนต์