เจียงโจวซือหม่า เมื่อรักหวนมา ตอนที่ 2
ตอนที่ 2 ฉันชื่อซือหม่า
ภายใต้แสงอาทิตย์ที่แผดเผา ในที่สุดเจียงโจวก็ลากกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ของเขามาถึงที่หอพักแล้ว แต่เขายังมีปัญหาใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือเขาต้องขนกระเป๋าของเขาทั้งหมดนี้ไปที่ชั้นหก! ประเด็นคือมหาวิทยาลัยที่ซอมซ่อและไม่มีอะไรที่พอจะเป็นลิฟต์แบบนั้นได้ นั่นทำให้เจียงโจวรู้สึกหมดหนทางจนคิดอะไรไม่ออก เขาจึงจัดการฝากกระเป๋าใบหนึ่งไว้กับคุณน้าแผนกบริการรับฝากสัมภาระของหอพัก หลังจากรับกุญแจมาแล้ว เขาก็เห็นโน้ตเล็กๆ ที่แปะไว้ นั่นทำให้เจียงโจวรู้สึกได้เลยว่าช่วงเวลาสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัยของเขาต่อจากนี้คงไม่ราบรื่นอย่างแน่นอน
666 ขอถามหน่อย ใครเป็นคนแบ่งห้องให้เขา?
เจียงโจวแบกกระเป๋าเดินทางหอบฮืดฮาดเดินขึ้นไปถึงชั้นหกและเปิดประตู….แต่เขากลับไม่เห็นใครพูดทักทายอย่างที่คิดไว้ เพราะไม่มีใครอยู่ในหอพักเลย
เจียงโจวจัดแจงวางกระเป๋าไว้ที่หน้าเตียงนอนของตัวเอง ก่อนจะเตรียมปิดประตูห้องพักแล้วลงไปเอากระเป๋าที่เหลือ…แต่กลับถูกเรียกเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวก่อน!”
เจียงโจวหันกลับไปมอง เห็นเป็นชุดเสื้อแขนสั้นสีขาวพิมพ์ลายรวมกับกางเกงยีนสีอ่อน ใส่แว่นตากรอบสีทอง ดูแล้วเป็นเด็กหนุ่มผู้ดีมีตระกูล แบกผ้าห่มผืนใหญ่โตมาด้วยผืนหนึ่ง ในมือของเขายังหิ้วกระเป๋าเดินทางมาอีกหนึ่งใบ เดินมาหาเขาอย่างกระหืดกระหอบ
เมื่อเห็นผ้าห่มของเขากำลังจะร่วงลงพื้น เจียงโจวก็รีบสาวเท้าก้าวเข้าไปจับผ้าห่มกลับมาไว้บนไหล่ของเขา ชายหนุ่มรีบเอ่ยขอบคุณในทันที เจียงโจวส่ายหน้าน้อยๆ ยิ้มแย้มแล้วตอบ “ไม่เป็นไร”
เมื่อเก็บของเข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว เจียงโจวก็ยิ้มและยื่นมือออกไปทักทาย “ฉันชื่อเจียงโจว เจียงโจวที่มาจาก เจียงโจว ซือหม่า เสื้อสีฟ้าเปียก[1]”
ชายหนุ่มเช็ดซับเม็ดเหงื่อบนใบหน้า แล้วจับมือทักทายเขาตอบ “ฉันชื่อหลี่หรานนะ หลี่ที่มาจากหลี่ป๋าย[2] หรานที่มาจากระเบิด”
“จากนี้ไปพวกเราเป็นเพื่อนร่วมห้องกันนะ” เจียงโจวพูดอย่างเป็นมิตร “ฉันจะลงไปเอากระเป๋าก่อน แล้วเดี๋ยวเราไปกินข้าวด้วยกันนะ?”
“ได้เลย!” หลี่หรานพลางลูบผมตัวเองไปมาแล้วพูด “ให้ฉันลงไปกับนายด้วยไหม?”
เจียงโจวส่ายหน้า ยิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไร แล้วจึงลงไปเอากระเป๋า
เมื่อรับกระเป๋าจากคุณน้าที่รับฝากสัมภาระแล้ว เจียงโจวก็กลับมาที่ห้องพักอีกครั้ง เมื่อมาถึงห้องในห้องนอกจากหลี่หรานแล้วยังมีคนอื่นมาเพิ่มอีกสองคน
“เฮ้! สวัสดี” หนึ่งในนั้นเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อแต่งตัวฮิปฮอปจ๋าหันมาทักทายเจียงโจว กับผู้ชายอีกคนที่อยู่ข้างๆ เทียบกันแล้วการแต่งตัวค่อนข้างดูสบายๆ กว่า เสื้อแขนสั้นสีน้ำตาลบวกกับกางเกงขาสั้นสีเทาทำให้ดูสบายตากว่ามาก
“สวัสดี” เจียงโจวทักทายยิ้มตอบ จัดการลากกระเป๋าไปไว้ใต้เตียงของตัวเอง แล้วเริ่มจัดเตียง
เด็กหนุ่มฮิปฮอปพูดขึ้นว่า “ฉันชื่อซูเหยี่ย คนนี้เพื่อนสนิทฉันลู่ไห่ชวน คนหล่อข้างห้องถัดไปน่ะ แล้วพวกนายล่ะ?”
“ฉันชื่อเจียงโจว เจียงโจวที่มาจากเจียงโจวซือหม่า เสื้อสีฟ้าเปียก” เจียงโจวเงยหน้ามองเขาแล้วตอบ
หลี่หรานหยิบโปสเตอร์ Hatsune miku[3] ขึ้นมาใบหนึ่งวางลงบนเตียงที่เพิ่งจัดเสร็จแล้วตอบว่า
“ฉันชื่อ หลี่หราน หลี่ที่มาจากหลี่ป๋าย หรานที่มาจากระเบิด”
“ว้าว! การแนะนำตัวของพวกนายนี่น่าสนในจริงๆ ถ้าอย่างนั้นฉันควรจะพูดว่าฉันเป็นคนป่าเถื่อนซูโจว ซูเหยี่ย[4]สินะ!?” ซูเหยี่ยพูดล้อเล่นติดตลก ทำให้สามคนพากันระเบิดหัวเราะออกมา
หลังจากเก็บของเรียบร้อยก็เป็นเวลาใกล้จะค่ำแล้ว แต่สมาชิกคนสุดท้ายของห้อง 66 ก็ยังไม่ปรากฏตัว
“เอ่อ พวกเราไปหาของกินกันหน่อยไหม?” เจียงโจวเสนอ
ซูเหยี่ยรีบพูดต่อทันทีว่า “ดีเลย! ฉันรู้มาว่ามีแผงอาหารมาเปิดใหม่ใกล้มหาลัย ไม่เลวเลยนะ พวกเราอยากจะไปลองดูด้วยกันไหม”
“ร้านของเถ้าแก่เนี้ย[5] นั้นใช่ไหม?” หลี่หรานถามต่อ
ซูเหยี่ยตกตะลึง ร้องออกมาอย่างแปลกใจ “เฮ้! นายรู้ได้ยังไงน่ะ”
หลี่หรานกระอักกระอ่วน กลอกตาตอบกลับแก้เขิน “ฉันเคยเห็นมาก่อน”
เขาใช้เวลาหนึ่งวันในการทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมรอบๆ มหาวิทยาลัยเป็นพิเศษ แต่ที่จริงแล้ว สิ่งที่เขาต้องการคือหาของกิน…
“ที่แท้นายก็เป็นจอมตะกละคนหนึ่งนะเนี่ย!” ซูเหยี่ยยิ้มล้ออีกทีและพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ ตอนนี้เถ้าแก่เนี้ย น่าจะเปิดร้านแล้ว”
“ไปกัน!”
ระหว่างมื้ออาหาร เจียงโจวได้รู้จักคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมห้องทั้งสองของเขาอย่างลึกซึ้งมากขึ้น
หลี่หรานเป็นโอตาคุ[6]รุ่นที่สอง และสิ่งที่เขาชอบคือการได้ดูการ์ตูนอยู่ที่บ้านทุกวัน
และซูเหยี่ยเป็นคอดนตรี ตอนนี้เป็นนักร้องของบาร์ที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย
หลังจากกินดื่มกันไปพอประมาณ ก็เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว ซูเหยี่ยก็ชวนทุกคนไปเที่ยวบาร์ที่เขาร้องเพลงประจำต่อ น่าเสียดายที่เพราะเจียงโจวท้องเสีย จึงขาดเขาไปแบบจำใจ
เจียงโจวกลับมาที่ห้องนอนเพียงคนเดียว หลังปฏิเสธน้ำใจของซูเหยี่ยและเพื่อนๆ ที่ต้องการจะส่งเขากลับมาที่ห้อง
เมื่อยืนอยู่หน้าประตูห้อง เจียงโจวก็เอากุญแจออกมาไข ทันทีที่ประตูเปิดออกนั้น เขาก็ยืนนิ่งอึ้งไป
ชายที่อยู่ตรงหน้าดูแล้วอายุน่าจะพอๆ กันกับเขา แต่สูงกว่าเขาหนึ่งช่วงศีรษะ ดังนั้นเจียงโจวจึงจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อให้มองเห็นใบหน้าเขาอย่างชัดเจน
ผมของเขาที่ยังไม่แห้งแนบติดอยู่กับใบหน้า หยดน้ำใสไหลผ่านแก้มลงไปที่พื้น ตาหงส์ชวนหลงใหลคู่นั้นดูจะมึนงงเล็กน้อย ดูเหมือนเขาก็ไม่คิดว่าจู่ๆ จะมีใครโผล่มาปรากฏตัวตรงหน้า ริมฝีปากที่เซ็กซี่ภายใต้จมูกที่งุ้มสูงนั้นทำให้คนดูปากแห้งกระหายน้ำอยู่บ้าง
ร่างกายของเขาถูกพันไว้ด้วยผ้าเช็ดตัวเพียงหนึ่งผืน เผยให้เห็นร่างส่วนบนที่แข็งแกร่ง หยดน้ำที่เกาะกลิ้งอยู่บนผิวสีน้ำผึ้ง คงจะเพราะเพิ่งอาบน้ำมา
เจียงโจวมองคนที่อยู่ตรงหน้าตัวแข็งเกร็ง กุญแจในมือร่วงตกพื้น ดูเหมือนว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเจียงโจวจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาเข้ามาเก็บกุญแจแทน และดึงเจียงโจวเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู
“สวัสดี ฉันชื่อซือหม่า ซือหม่าที่มาจากเจียงโจวซือหม่า เสื้อสีฟ้าเปียก!”
________________________________________
[1] เจียงโจวซือหม่าเสื้อสีฟ้าเปียก Bai Juyi กวีในสมัยราชวงศ์ถังถูกขับไล่ลดระดับเป็นซือหม่าในเจียงโจว บทกวีของเขา《琵琶引》กล่าวว่า: “ใครร้องไห้มากที่สุด? เจียงโจวซือหม่า เสื้อสีฟ้าเปียก” ซึ่งต่อมาถูกใช้เรียกแทนเขาและใช้นำมากล่าวแทนความโศกเศร้าอย่างที่สุด ปัจจุบันใช้เรียกผู้ที่ตำแหน่งทางราชการไม่สูง
[2] หลี่ป๋าย (李白) กวีจากราชวงศ์ถัง
[3] Hatsune miku คือมาสคอตคาร์แรคเตอร์ของโปรแกรม Vocaloid 2
[4] ซูเหยี่ย苏野 แยกเป็น苏 (ซู )มาจาก苏州 แปลว่า เมืองซูโจว 野(เหยี่ย) มาจาก 野人(เหยี่ยเหหริน) แปลว่า คนป่าเถื่อน
[5] เถ้าแก่เนี้ย เป็นคำเรียกหญิงจีนที่เป็นเจ้าของกิจการหรือเป็นภรรยาของเจ้าของ
[6] โอตาคุ ใช้เรียกบุคคลที่มีความสนใจอย่างคลั่งไคล้เกี่ยวกับแฟนดอมอนิเมะมังงะ
คอมเมนต์