เจียงโจวซือหม่า เมื่อรักหวนมา ตอนที่ 6
ตอนที่ 6 ไปกินข้าวกันนะ
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อตื่นขึ้นมาเจียงตี๋ที่เห็นเจียงโจวในสภาพขอบตาดำช้ำหนักก็ผงะ “เจียงโจว เมื่อคืนนายไปทำอะไรมา”
เจียงโจวสะโหลสะเหล ส่ายหน้าโดยไม่คิดจะตอบคำถามของพี่สาว ตอนนี้เขาอยากกลับไปหลับต่อให้เต็มตา
เมื่อเที่ยวเที่ยวกับเหมี่ยวเหมี่ยวออกมาเห็นเขาก็ผงะตกใจเหมือนกัน เป็นเที่ยวเที่ยวที่กระโดดไปนั่งบนตักเขา ค่อยๆ ลูบดวงตาของเขาแล้วพูดขึ้นว่า “คุณน้า นี่โดนหม่าม๊าต่อยมาใช่ไหม ตาถึงได้ดำขนาดนี้!”
เจียงตี๋ไม่พูดไม่จาตรงไปจัดการเที่ยวเที่ยว เตะเขาให้ลุกจากตักเจียงโจวแล้วไปนั่งที่นั่งของตัวเอง
“เจียงฉี! เป็นเด็กเป็นเล็กพูดกับหม่าม๊าให้มันดีๆ หน่อยนะ!”
ชื่อเจียงฉีเป็นโค้ทลับของเที่ยวเที่ยว เมื่อไหร่ก็ตามที่เจียงตี๋ตะโกนใส่เขาแบบนี้ เขาจะรู้ทันทีว่าถ้าเขาไม่ทำตามที่แม่พูด เมื่อนั้นเขาก็จะประสบกับความโชคร้าย!
เห็นได้ชัดว่าเหมี่ยวเหมี่ยวมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเที่ยวเที่ยว เขาหยิบไข่ดิบหนึ่งฟองจากตู้เย็นนำมายื่นให้เจียงโจว แล้วพูดว่า “ปะป๊า ในหนังสือบอกว่าถ้าถูกต่อยตาจะต้องใช้ไข่ดิบประคบไว้นะครับ”
เจียงตี๋ “…”
เจียงโจวปล่อยหัวเราะออกมาเสียงดังแบบไม่เกรงใจใคร ไม่รู้ว่าอาการสัปหงกเมื่อครู่นี้หายไปไหนแล้ว เขาอุ้มเหมี่ยวเหมี่ยวขึ้นมานั่งบนตักแล้วบอกว่า “ป้าจะต่อยปะป๊าทำไมกันล่ะ เมื่อคืนปะป๊าแค่นอนไม่หลับต่างหาก”
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วทั้งเหมียวเหมี่ยวและเที่ยวเที่ยวก็พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะพากันเริ่มกินข้าวเช้า เมื่อกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว เพราะว่าวันนี้เจียงตี๋มีสอนตอนเช้า ดังนั้นหน้าที่ส่งเด็กสองคนไปโรงเรียนนี้จึงตกเป็นของเจียงโจว
ตอนจะออกจากหมู่บ้าน เจียงโจวก็เหลือบมองไปที่ฝั่งตรงข้าม ร้านดอกไม้ของซือหม่าเปิดแล้ว น่าเสียดายที่เขาเห็นแค่สาวน้อยคนที่ห่อดอกไม้ให้เขาเมื่อวานเท่านั้น
“คุณน้าครับๆ กำลังมองอะไรอยู่เหรอ!” เที่ยวเที่ยวเห็นเจียงโจวมองไปฝั่งตรงข้ามอย่างไม่ละสายตา จึงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“น้าไม่ได้มองอะไร” เจียงโจวยิ้มก่อนจะอุ้มเที่ยวเที่ยวขึ้น พร้อมกับจูงมือเหมี่ยวเหมี่ยวพาเดินไปยังโรงเรียน เมื่อถึงแล้วแวะส่งเหมี่ยวเหมี่ยวเข้าห้องที่ชั้นเรียนเด็กประถมก่อน แล้วจึงส่งเที่ยวเที่ยวเข้าห้องเรียนชั้นอนุบาลที่อยู่ใกล้กัน ฝากฝังเด็กๆ กับคุณครูอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงกลับไปพร้อมกับสายตาที่มองด้วยความประหลาดใจของใครหลายๆ คน
แต่เมื่อเดินเข้าใกล้เขตหมู่บ้าน เจียงโจวก็จงใจเดินข้ามไปฝั่งตรงข้าม เพราะอยากจะดูว่าซือหม่าอยู่หรือเปล่า และแน่นอนว่า ในใจเขายังไม่มีทางยอมรับ
เข้าไปในร้านดอกไม้แล้วเจียงโจวกลับไม่พบซือหม่า แต่เป็นเสี่ยวโยวที่พอเห็นเจียงโจวก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“คุณผู้ชาย มาซื้อดอกไม้อีกแล้วเหรอคะ?”
เจียงโจวส่ายหน้า ยิ้มแล้วถามเธอว่า “เจ้านายของคุณล่ะครับ?”
“เมื่อครู่โทรมาบอกว่าอีกสักพักจะเข้ามาค่ะ” เสี่ยวโยวเห็นเจียงโจวผิดหวังเล็กน้อย ก็เลยถามขึ้นว่า “คุณผู้ชายมาหาเจ้านายมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
“ครับ มีธุระนิดหน่อยน่ะ แต่ไม่รีบอะไร” เจียงโจวชี้ไปที่โซฟาที่เขานั่งเมื่อวานนี้แล้วถามว่า “ผมนั่งรอเขาที่นี่ได้ไหม”
“ได้สิคะ” เสี่ยวโยวตอบคำโดยที่ในใจมีความสุขเป็นอย่างมาก ดูลักษณะแบบนี้แล้วเจ้านายคงจะไม่ได้รักเขาข้างเดียวแล้วล่ะ
เจียงโจวพยักหน้าแล้วนั่งลงตรงที่เขานั่งเมื่อวานนี้
จริงๆ แล้วที่เจียงโจวมาหาซือหม่าก็ไม่ได้มีธุระอะไร แค่อยากกินข้าวกับเขาสักมื้อเท่านั้น เมื่อคืนที่ทำให้เขานอนไม่หลับ สาเหตุหลักก็เป็นเพราะซือหม่า เขาไม่อยากจะพลาดโอกาสไปอีกครั้ง ถึงแม้ผลลัพธ์จะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด หรือจะถูกซือหม่ารังเกียจก็ตาม เขาเพียงแค่ไม่อยากจะเสียใจอีกแล้ว ไม่ว่าครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ลอง
เสี่ยวโยวจัดแจงเทกาแฟให้เจียงโจวหนึ่งแก้ว เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องรู้สึกเบื่อเกินไป หลังจากนั้นก็ส่งข้อความถึงเจ้านายที่เคารพอย่างรวดเร็ว
[เรียนเจ้านายที่เคารพ ว่าที่นายหญิงกำลังรออยู่ที่ร้านดอกไม้ของพวกเรานะคะ!]
ทางด้านซือหม่าที่กำลังแปรงฟันอยู่นั้นก็ตกตะลึงจนเกือบกลืนยาสีฟันลงคอเมื่อได้เห็นข้อความนี้ แต่เพราะไม่คาดคิดมาก่อน เขาจึงรีบเร่งความเร็วล้างหน้าบ้วนปากจัดการตัวเอง
ดังนั้นเจียงโจวเพิ่งจะนั่งลงไม่ถึงไปไม่ถึงสิบนาที ซือหม่าก็มาแล้ว ผมที่เพิ่งสระเสร็จหมาดๆ ยังไม่ทันแห้งดีก็ถูกแช่แข็งกลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว ทำให้เจียงโจวหลุดขำออกมา
เห็นได้ชัดว่าซือหม่าไม่ได้ใส่ใจอะไร เขายังคงยิ้มด้วยท่าทีสง่างาม ในขณะที่หาไดร์เป่าผมมาเป่าผมตัวเอง ก็ถามไปด้วยว่า “มานั่งถึงในร้านของฉันแต่เช้านี่ มีธุระอะไรเหรอ?”
“มีสิ นายกลับมาถึงนี่ตั้งหลายวันกลับไม่บอกพวกเราเลย ในฐานะที่เป็นอดีตเพื่อนร่วมห้อง ฉันขอเลี้ยงข้าวนายสักมื้อ ได้ไหม?”
คอมเมนต์