เจียงโจวซือหม่า เมื่อรักหวนมา ตอนที่ 9
ตอนที่ 9 นายแบบจำเป็น (3)
เมื่อเสี่ยวฮวาพาซือหม่ากลับมา เจียงโจวเห็นความทึ่งในสายตาของทุกคนในสตูดิโอ พริบตาแรกเขาคิดตำหนิซือหม่าว่าทำไมถึงได้เป็นคนพูดง่ายอย่างนี้นะ!
แต่ในไม่ช้า แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังโดนซือหม่าดึงดูดเข้าไป
รูปร่างที่สวยงามได้รูปกับหน้าตาที่หล่อเหลา ขนาดที่หล่อจนทำให้คนหน้าแดงได้นี่คือสิ่งที่ดึงดูดคนมากที่สุดของซือหม่า แต่ที่ทำให้คนทึ่งไปยิ่งกว่านั้นคือความเป็นธรรมชาติของเขา ซือหม่าตอนนี้ยังมีออร่าซูเปอร์โมเดลมากกว่าเมื่อเทียบกับนายแบบ T บนเวที ทำให้คนรู้สึกใจเต้น “ตึกตัก” ตื่นเต้นจนหัวใจตกวูบจนต้องลงไปคุกเข่ายอมศิโรราบต่อแรงดึงดูดนี้
ช่วงเวลาสั้นๆ ที่เหมือนจะยาวนาน ซูหงกระแอมไอออกมาหลายรอบพลางพูดติดตลกว่า “ทุกคนรีบดึงสติกลับมาแล้วเริ่มทำงานกันได้แล้ว! จ้องกันไม่วางตาอยู่อย่างนี้ พวกนายไม่อยากจะพักกินข้าวกันหรือไง?!”
ชั่วขณะที่เจียงโจวดึงสติกลับมาได้นั้นก็เห็นซูหงมายืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างๆ ทำให้เจียงโจวรู้สึกเขินขึ้นมาเล็กน้อย จริงๆ ก็เคยเห็นดารามาแล้วตั้งมากมาย ทำไมถึงได้โดนซือหม่าดึงดูดได้ง่ายดายขนาดนี้นะ!
ซือหม่าเองเมื่อสัมผัสได้ถึงอาการเขินอายของเจียงโจวก็มีความสุขไม่น้อย อาการตอบสนองแบบนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองช่างเป็นคนที่พอใจอะไรง่ายๆ เสียจริง เพียงแค่เห็นว่าเจียงโจวมองเขาจนเหม่อลอย จู่ๆ ก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาเสียอย่างนั้น เขาก็คงไปไหนไม่รอดแล้ว!
แต่ในขณะเดียวกัน ซือหม่าเองก็รู้สึกเชื่อว่าจะต้องมีเจียงโจวในชีวิตของเขาแน่นอน แม้ว่าจะไม่ได้เจอกันเจ็ดปี ความสุขความทุกข์ของเขาล้วนยังเป็นเพราะเจียงโจว คนคนนี้เขาจะไม่มีทางปล่อยไปแน่!
พริบตาเดียวนั้นเจียงโจวก็รู้สึกว่าดูเหมือนจะมีบางสิ่งสื่อออกมาจากดวงตาของซือหม่ามากขึ้น แต่เขาก็ดูไม่ออกว่าคืออะไร จึงต้องหันความสนใจของตัวเองไปอยู่ที่กล้องในมือ
พอเห็นเจียงโจวมีท่าทางเขินอาย ซือหม่าก็ใจสั่น อดไม่ได้ที่จะเศร้ากับวันเวลาของตัวเองนับจากนี้ เขาอาจมีชะตากรรมที่ต้องถูกเจียงโจวข่มเหงรังแกไปชั่วชีวิตก็ได้
เพียงแต่คนเจ้าเล่ห์ร้ายกาจอย่างซือหม่านั้น ไม่ว่าจะมีอะไรรบกวนภายในใจ ใบหน้าของเขานั้นยังคงดูดีอยู่เสมอ รอยยิ้มยังคงอบอุ่นราวกับแสงอาทิตย์
…
กว่าสองคนจะถ่ายภาพเสร็จก็เลยเวลาหกโมงเย็นแล้ว หลังจากวุ่นวายมาตลอดทั้งวันและได้กินข้าวกล่องไปมื้อเดียว ท้องของเจียงโจวจึงเริ่มร้องประท้วงอยู่นานแล้ว แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพทำให้เขาต้องปล่อยให้ตัวเองหิวมาจนถึงตอนนี้
ซือหม่าเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าของตัวเองก็เห็นเจียงโจวพักผ่อนอยู่ด้านนอกสตูดิโอ เขากำลังดูฝ่ายศิลป์ตกแต่งรีทัชรูป
“นี่ เจียงโจว พวกเราไปได้แล้วหรือยัง” ถึงแม้ว่าซือหม่าจะสนุกกับการใช้เวลาเดินเล่นอยู่ในที่ทำงานของเจียงโจว แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถทนดูเจียงโจวหิวจนท้องกิ่วได้ เมื่อกี้เขาได้ยินเสียงท้องของเจียงโจวร้องโครกคราก แล้วอย่างนี้จะไม่รีบได้เหรอ?
“หือ? อ่อ ไปได้แล้วล่ะ” เจียงโจวตอบแบบงงๆ เขาหันไปบอกลากับฝ่ายศิลป์อีกครั้ง จากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมที่เมื่อกี้ถอดออกเพราะเครื่องทำความร้อนเกิดร้อนเกินไปขึ้นมา แล้วจึงพาซือหม่าเดินออกไปข้างนอก
ระหว่างที่เดินไปนั้น ซือหม่าก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “นายทำงานจนไม่มีเวลากินข้าวแบบนี้บ่อยๆ เหรอ”
“หือ? ไม่หรอก ครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษน่ะ” เจียงโจวเปิดประตูให้ซือหม่า รอจนเขาเดินออกไปแล้วจึงก้าวตามไป
“นิตยสาร ‘แฟชั่น’ ฉบับ New edition จะถูกตีพิมพ์ทุกเดือนมกราคม เรียกได้ว่าเป็นการอำลาส่งท้ายปีเก่า ดังนั้นสองวันนี้เลยค่อนข้างจะยุ่งน่ะ”
ซือหม่าลอบพยักหน้าในใจ คิดว่าถ้าเจียงโจวยุ่งมากขนาดนั้นทุกวัน เขาคงต้องเรียกใครบางคนมาคุยด้วยเสียแล้ว
“อ้อ จริงสิ ทำไมฉันไม่เห็นช่างภาพคนอื่นๆเลย‘ แฟชั่น’ นิตยสารยักษ์ใหญ่ไม่น่าจะมีเจียงโจวเป็นช่างภาพคนเดียวหรอกนะ!
คำตอบคือ ถูกต้อง!
เจียงโจวพยักหน้าตอบ “เพียงในนาม ฉันเป็นช่างภาพพิเศษของนิตยสาร ‘แฟชั่น ’ แต่ในความเป็นจริงก็คือพวกเขาเป็นช่างภาพระดับสูง ดังนั้นทั้ง‘แฟชั่น ’ นอกจากเสี่ยวหวาก็เป็นฉันล่ะที่จะต้องใช้กล้อง ”
เสี่ยวหวาก็คือผู้ช่วยคนที่เมื่อกี้เพิ่งพาเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า…
อืม…ซือหม่าคิดในใจ ดูเหมือนว่าจะต้องคุยกับใครสักคน ‘แฟชั่น ’ หนึ่งในยักษ์ใหญ่ด้านสื่อจะทำให้ผู้คนพึงพอใจหรือไม่ กลัวว่าจะเป็นใครสักคนกำลังล้อเล่นอยู่!
คอมเมนต์