เสพติดหัวใจนายช่างกล้อง ตอนที่ 1-4

Reader Settings

Size :
A-16A+

บทที่ 1.4

เนื่องจากถูกโจมตี หลี่เหยาจึงตัดสินใจว่าจะโดดคาบต่อไป ใช้การถ่ายภาพที่ชอบที่สุดคลายความทุกข์ใจภายในอก
หลังขับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปที่ร้านหนังสือชื่อดังในเขตตัวเมืองแล้ว เขาเดินผ่านชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือใหม่มากมายตรงชั้นหนึ่ง เดินขึ้นไปบนบันไดไม้ข้างขวาอย่างคุ้นเคย ขึ้นมายังชั้นสองที่มีตู้หนังสือแถวยาวปรากฏอยู่ตรงหน้า
จากนั้นเขาก็หยิบหนังสือสองสามเล่มที่ช่างภาพแนะนำ แล้วนั่งลงบนพื้นไม้ เลือกอ่านอย่างสบายใจ
เดือนนี้เขาใช้เงินซื้ออุปกรณ์ถ่ายภาพไปแล้วครึ่งหนึ่ง ดังนั้นเงินซื้อหนังสือในครั้งนี้จึงมีจำนวนจำกัด เลือกได้แค่สองเล่มเท่านั้น
เขาลังเลตัดสินใจไม่ได้ แต่สุดท้ายก็หยิบหนังสือการถ่ายภาพขั้นสูงกับหนังสือคู่มือซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพ เดินลงมาข้างล่างพร้อมกับดิ้นรนอยู่ในใจว่าเอาหนังสือเพิ่มอีกสักเล่มดีไหม
เมื่อเดินมาถึงโถงของร้านหนังสือ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นหนังสือออกใหม่ขายดีเดือนนี้บนชั้นหนังสือแนะนำโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งคนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
‘Favor’ ความชอบ โฟโต้บุ๊กรวมภาพถ่ายล่าสุดของถังเหยี่ยน
หน้าปกหนังสือเป็นรูปทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกดินในพื้นที่ทุรกันดารของประเทศแอฟริกา ท้องฟ้าย้อมด้วยสีส้มสวยคล้ายกับภาพวาดบนผืนผ้าใบ ปลายขอบฟ้ามียีราฟน้อยใหญ่เดินอย่างเชื่องช้า เงาของไม้ยืนต้นตั้งตรงสูงตระหง่านกับฝุ่นที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศระหว่างท้องฟ้าและผืนดิน
แค่รูปภาพเดียวก็กระตุ้นจินตนาการได้ไม่จำกัด
ถังเหยี่ยนเป็นไอดอลที่หลี่เหยาเทิดทูน เขาไม่สนใจว่าราคาเท่าไหร่ หยิบหนังสือโฟโต้บุ๊กนั่นอย่างไม่ลังเลสักนิด แล้วเดินตรงไปที่เค้าน์เตอร์จ่ายเงินทันที
จากนั้น มือที่หอบถุงกระดาษสองห่อก็เดินตรงไปยังคาเฟ่นอกร้านหนังสือ สั่งช็อกโกแลตลาเต้และนั่งลงข้างหน้าต่าง แทบทนรอไม่ไหวที่จะได้ดูภาพถ่ายในหนังสือ
หลังจากที่แกะห่อพลาสติกออกอย่างระมัดระวังแล้ว เขาลูบตัวหนังสือสีดำแข็งบนหน้าปกเบาๆ จากนั้นก็เปิดหน้าแรกด้วยอารมณ์ประหม่าและตื่นเต้น
แต่ละภาพที่ปรากฏเข้ามาในสายตาของเขา สร้างสีสันหลากหลายลานตา อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขากลับค่อยๆ สงบลงจากความรื่นรมย์ในตอนแรก เปลี่ยนเป็นครุ่นคิดจริงจัง และถอนหายใจออกมา
สวรรค์…
ทำไมการมองโลกของถังเหยี่ยนถึงได้สมจริงและลึกซึ้งขนาดนี้
ใช้มุมมองที่แหลมคมชำแหละกฎเกณฑ์แห่งชีวิตของทุกสรรพสิ่งได้อย่างละเอียด และนำเสนอออกมาด้วยวิธีการที่หลักแหลม รูปภาพทั้งหมดของถังเหยี่ยนไม่มีความรุนแรงและการปรุงแต่งความสวยงาม แต่กลับทำให้หัวใจของคนสั่นไหวได้
เขาคิดว่าถังเหยี่ยนคนนี้ต้องเป็นคนที่ล้ำลึกเหมือนภาพถ่ายของเขาอย่างแน่นอน สมกับที่เป็นเป้าหมายที่เขาแสวงหา
หลังจากที่ชื่มชมพร้อมกับยกเครื่องดื่มร้อนขึ้นมาจิบแล้ว เขาก็พลิกกลับไปดูเนื้อหาหนึ่งในสามของหนังสืออีกครั้งกระทั่งถึงหน้าแรกสุด เพราะกลัวว่าเมื่อครู่ตนเองจะพลาดอะไรไป จึงอยากจะชื่นชมใหม่อีก
ตอนที่เขาเปิดมาถึงหน้าสุดท้ายของหนังสือ หลี่เหยาคิดไม่ถึงว่าตรงมุมด้านล่างขวา จะมีลายมือเรียบร้อยเขียนเอาไว้ว่า ‘มอบแด่คุณผู้บริสุทธิ์ที่สุดในใจของผม’
ตัวหนังสือไม่ได้พิมพ์ แต่เป็นการเขียนด้วยลายมือ เขาใช้มือสัมผัสคล้ายกับรู้สึกได้ถึงความจริงใจของอีกฝ่าย จากนั้นหัวใจก็เต้นแรงอย่างอธิบายไม่ถูก
ก่อนหน้านี้เขาเคยดูหนังสือโฟโต้บุ๊กของถังเหยี่ยนมาหลายเล่ม ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นภาพถ่ายทิวทัศน์ของแอนตาร์กติกา แม่น้ำ ดอกไม้ ใบหญ้า และสถาปัตยกรรม เขาจำได้ว่าในหนังสือเหล่านั้นแทบจะไม่ได้เขียนความคิดหรือคำพูดใดๆ ที่อยากจะสื่อกับผู้อ่านเลย
ดูแล้วหนังสือเล่มนี้คงจะมีความหมายมากเป็นพิเศษ
มอบแด่คุณผู้บริสุทธิ์ที่สุด…
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหลังจากที่เขารู้ว่าในใจของถังเหยี่ยนมีคนพิเศษเช่นนี้อยู่ เขาถึงได้มีความรู้สึกหึงหวงและริษยาเล็กๆ เพราะเหมือนกับว่าคนธรรมดาแบบเขานั้นทำได้เพียงรู้จักและเข้าใกล้ถังเหยี่ยนผ่านรูปถ่ายและในโลกของความเป็นจริงบุคคลเช่นนี้ไม่มีทางจะมาคุยกับตัวเอง
อีกอย่างถังเหยี่ยนก็ถ่ายรูปคนน้อยมาก ถึงมีก็เป็นภาพเด็กหรือผู้หญิง แทบจะไม่มีผู้ชาย ดังนั้นแล้วเขาแทบไม่มีโอกาสได้เข้าไปในโลกของเขาเลยด้วยซ้ำ
เพียงแต่เขาจำได้ว่าอายุของถังเหยี่ยนเป็นลุงของเขาได้แล้ว จึงคิดเออเองว่าคนที่ถังเหยี่ยนพูดถึงต้องเป็นหลานชายหรืออะไรสักอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้เช่นนี้ก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
เพราะมีเพียงเด็กเล็กที่ราวกับสัตว์ป่าตัวน้อยเท่านั้นจึงจะทำให้คนรู้สึกว่าบริสุทธิ์
ด้วยกังวลว่าตนเองจะไม่ระมัดระวังทำหนังสือสกปรก เขาจึงตัดสินใจว่าเมื่อกลับถึงบ้านค่อยชื่นชมมันอย่างช้าๆ หลังจากดื่มช็อกโกแลตลาเต้ที่เปลี่ยนเป็นอุ่นลงไปอย่างรวดเร็วแล้ว ก็เอาหนังสือใส่กลับเข้าไปในห่อกระดาษ และลุกขึ้นสะพายกระเป๋าเดินออกจากคาเฟ่ไป
…..
ตอนที่กลับมาถึงบ้าน เป็นเวลาประมาณห้าโมงครึ่ง ตรอกซอยแคบที่เงียบสงบทำให้คนรู้สึกหงอยเหงา อาคารซึ่งตั้งอยู่ตรงหัวมุมปกคลุมด้วยแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังลาลับ ข้างประตูใหญ่มีต้นเฟื่องฟ้าสีแดงอมม่วงซึ่งตอนที่แม่มีชีวิตอยู่ชอบมากที่สุดพริ้วไหวไปตามสายลม แต่ละฉากที่ดูเหมือนธรรมดากลับแฝงด้วยความทรงจำแสนลึกล้ำ
หลังจากที่เข้าไป ภายในบ้านเปิดไฟสลัว เสียงครืนๆ ของเครื่องมอเตอร์ดังมาจากห้องครัวทางด้านขวา ตามด้วยกลิ่นควันที่คุ้นเคย ทำให้เขาที่อยู่ข้างนอกมาทั้งวันรู้สึกสงบ
คนที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัวก็คือพ่อของเขา หลี่เชียนจื๋อ
แผ่นหลังผอมบาง สวมผ้ากันเปื้อนลายจุดหลากสี หั่นวัตถุดิบอย่างจริงจัง กำลังเตรียมอาหารเย็น นี่เป็นภาพที่เขาเห็นทุกครั้งเวลากลับมาถึงบ้าน
แตกต่างจากครอบครัวทั่วไป ไม่มีภาพการรวมตัวของคนในครอบครัว มีเพียงปฎิสัมพันธ์อันเรียบง่ายของเขาและพ่อ
หลังจากที่นำของไปไว้ที่ห้องแล้ว เขาก็มายังห้องครัว สองมือสอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อฮู้ดสีดำและนั่งลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะทานอาหาร
“พ่อครับ ผมกลับมาแล้ว” หลี่เหยาจงใจพูดเสียงดังเพื่อให้ผู้ชายที่กำลังยุ่งรู้ถึงการมีอยู่ของตนเอง
เมื่อได้ยินเสียงที่ติดออดอ้อนของลูกชาย หลี่เชียนจื๋อหันตัวกลับมา ดวงตาโค้งขึ้นเล็กน้อย “กลับมาแล้วเหรอ พ่อเพิ่งเริ่มทำอาหาร ถ้าลูกหิว ก็ไปกินขนมบนโต๊ะในห้องรับแขกก่อนสิ”
“ครับ”
หลี่เหยาลูบท้องที่เริ่มส่งเสียงร้องประท้วงออกมา วันนี้มื้อกลางวันเขากินเพียงขนมปังประทังหิว และก็ช็อกโกแลตลาเต้ในคาเฟ่ สำหรับวัยที่กำลังเติบโตแล้ว ของแค่นี้เดิมทีไม่เพียงพอต่อพลังงานที่เขาต้องการเลย
อย่าดูแค่ว่าเขาผอม จริงๆ แล้วปริมาณอาหารของเขาเยอะมาก หนึ่งมื้อเขาต้องกินข้าวสองถ้วยถึงจะอิ่ม ตั้งแต่เด็กก็ชอบกินของจำพวกแป้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าว ดังนั้นคนในครอบครัวจึงเรียกเขาว่าเสี่ยวหมี่[1]
เพียงแต่กระเพาะของเขาไม่ค่อยดี ถึงจะกินเข้าไปมาก ทว่ากลับไม่ดูดซับเข้าไป คนส่วนใหญ่ต่างก็อิจฉาที่เขากินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ผิวขาวนวล ทว่ามีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่รู้ว่าร่างกายผอมบางแบบนี้ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด
เขากลับหวังว่าตนเองจะอ้วนขึ้นอีกนิด แข็งแรงขึ้นอีกหน่อย กลายเป็นลูกผู้ชายที่มีออร่าความแข็งแกร่งแบบนั้น
เมื่อมาถึงห้องรับแขกเขาเปิดกล่องกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะ กลิ่นหอมหวานของน้ำผึ้งฉับพลันโชยแตะมาที่จมูก เนื้อสีเหลืองทองปรากฏเข้ามาในสายตา ผิวภายนอกที่มีสีอำพัน กับเนื้อเนียนนุ่มของเค้กทรงยาว ชวนให้คนน้ำลายสอ
หลี่เหยาเดาว่านี้คงเป็นเค้กที่เพื่อนร่วมงานของพ่อให้มา เพราะความมัธยัสถ์ของพ่อ จึงน้อยมากที่จะซื้อขนมหน้าตาสวยงามเช่นนี้กลับมา
หลังจากที่แม่จากไป ภาระทางการเงินของครอบครัวทั้งหมดล้วนไปตกอยู่ที่พ่อ พ่อซึ่งเวลานั้นเป็นเพียงครูที่เพิ่งบรรจุจึงไม่มีเงินพอจ่ายสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายดำรงชีพของลูกๆ ทั้งสอง ดังนั้นช่วงหนึ่งพวกเขาจึงชักหน้าไม่ถึงหลัง ชีวิตดิ้นรนยากลำบากมาก
แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อน พ่อได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียน ทว่าถึงอย่างนั้นนิสัยของคนจนก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงกันได้
หลังจากที่นำเค้กน้ำผึ้งออกมาแล้ว หลี่เหยาก็เอามีดพลาสติกขนาดเล็กที่แถมฟรีมาด้วยหั่นเป็นชิ้นๆ เพื่อสะดวกสำหรับคนอื่นๆ ในบ้าน จากนั้นเขาก็ใช้มือหยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่ง และกัดเข้าไปคำใหญ่
รสชาติของครีมและความหอมหวานของน้ำผึ้งเต้นเร้าอยู่ภายในปาก หลังจากที่กลืนลงท้องไปแล้ว รสชาติแสนอร่อยยังคงติดอยู่บนต่อมรับรส เขาเผยรอยยิ้มมีความสุขราวกับเด็กน้อยออกมา
ตอนที่เตรียมจะกัดลงไปอีกคำ ทันใดนั้นก็มีเสียงกระทบกันของโลหะดังขึ้นตรงทางเข้าของประตู
จากนั้นประตูใหญ่ก็เปิดผ่างออก พร้อมกับเสียงแหลมสูงเย่อหยิ่งของหญิงสาวที่ดังเข้ามาในโสตประสาทของเขา “พ่อและน้องชายที่รัก นายหญิงของบ้านหลังนี้กลับมาแล้ว!”

………………………………………………………..

________________________________________
[1] หมี่(米) ในภาษาจีนแปลว่า ข้าว

คอมเมนต์

Chapter List