เสพติดหัวใจนายช่างกล้อง ตอนที่ 3-1

Reader Settings

Size :
A-16A+

บทที่ 3.1

ตามปกติก่อนถ่ายภาพ หลี่เหยาจะต้องทักทายทีมงานทุกคนก่อน แต่ครั้งนี้เขากลับยืนอึ้งอยู่กับที่ ความสนใจทั้งหมดพุ่งตรงไปที่ฉากที่เซ็ตอยู่ตรงกลางห้อง โดยไม่ได้สนใจสายตาชื่นชมของทีมงานข้างๆ ที่มองมาทางเขาเลย
ชิงช้าทำมาจากไม้ระแนงและเถาวัลย์ เชือกทักถอจากใบสีเขียวมรกต ตรงส่วนของที่นั่งเป็นแผ่นไม้ที่ผ่านการเหลาและตัดมาเป็นอย่างดี ชิงช้ามีความสูงประมาณสี่เมตร ดูอลังการและโรแมนติก
เพียงแต่การถ่ายแบบปกติที่เคยถ่ายมา ส่วนใหญ่แล้วเขามักจะหันหน้าเข้าหาฉากพื้นหลังสีขาวเท่านั้น นี่จึงเป็นครั้งแรกที่จะได้ถ่ายภาพในฉากพื้นหลังที่พิเศษแบบนี้ ภายในใจเหมือนกับชิงช้าที่แกว่งไปมาตามสายลม มีความสุขอย่างยิ่ง
เมื่อกวาดตามองรอบสตูดิโอที่มีขนาดยี่สิบตารางเมตรกว่าๆ หนึ่งรอบแล้ว แผ่นหลังของคนคนหนึ่งภายในนั้น ทำให้หัวใจของเขาบีบเกร็งขึ้นทันที
เป็นถังเหยี่ยน!
ถังเหยี่ยนสวมเสื้อกั๊กสีดำแนบเนื้อกับกางเกงยีนส์ กำลังยืนยันตำแหน่งของฉากและความปลอดภัยกับทีมงาน
ย้อนนึกถึงเขาเมื่อวาน ที่แต่งตัวด้วยชุดลำลองเสื้อเชิ้ตสีฟ้ากับกางเกงสบายๆ ทว่าวันนี้เขากลับแสดงด้านที่ดิบเถื่อนของตนเองออกมาอย่างเต็มที่ กล้ามเนื้อหลังที่สมบูรณ์แบบกับแขนที่แข็งแรง ทั้งตัวเผยความแข็งแกร่งออกมา
เมื่อมีถังเหยี่ยนอยู่ แม้แต่อากาศก็เปลี่ยนเป็นร้อนขึ้น
คล้ายกับรู้สึกได้ถึงสายตาของเขา ถังเหยี่ยนหันตัวกลับมา
ตอนที่สบตากันนั้น ริมฝีปากบางที่มันวาวกระตุกขึ้นเล็กน้อย ทั่วทั้งร่างของหลี่เหยาราวกับถูกกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน
ทว่าวินาทีต่อมา เมื่อเห็นเยี่ยจวินถิงเดินมาหาถังเหยี่ยนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ตอนที่เข้าไปใกล้เขาและพูดกระซิบกระซาบนั้น ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนแน่นที่บริเวณหน้าอกขึ้นมา
น่าแปลก…เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าหมอนั่นเพิ่งทำท่าเซ็งกะตายกับตนเองหรอกหรือ ทำไมตอนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าถังเหยี่ยนกลับฉีกยิ้มน่ารังเกียจแบบนี้แล้วล่ะ
หรือเขาไม่รู้ว่า ‘ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน’ ประโยคนี้ก็สามารถใช้กับผู้ชายได้
เขารู้สึกอึดอัดใจอย่างอธิบายไม่ถูก อึดอัดใจเหมือนกับของล้ำค่าที่เดิมทีเป็นของตน อยู่ๆ ก็ถูกคนแย่งไปอย่างไรอย่างนั้น
“เอ๊ะ คุณเป็นอะไร ทำใมถึงทำหน้าบูดแบบนั้น” เสียวฉีลอบดึงมือของหลี่เหยา ต้องการให้เขารักษาภาพลักษณ์
ถ้าไม่ได้ยินคำพูดของเสี่ยวฉี เดิมทีหลี่เหยาไม่รู้เรื่องนี้เลย เขารีบหายใจเข้าลึกอย่างรวดเร็ว คิ้วที่ขมวดอยู่คลายลง
“ผมรู้สึกว่าชุดนี้เหมาะสมกับคุณมาก” ทันใดนั้นเสียงของถังเหยี่ยนก็ดังขึ้น
จ้องมองคนที่เข้ามาในสายตาอย่างตกตะลึง กลิ่นกายของบุรุษที่แผ่ขยายออกมาและความรู้สึกบีบคั้นทำให้หัวใจของหลี่เหยาหยุดเต้นไปชั่วขณะ
“ขอบคุณค่ะ” หลี่เหยาตอบกลับไปอย่างสุภาพ ทว่าดวงตาของเขากลับเปร่งประกายแวววาว ปิดบังความปรารถนาที่อยากจะเข้าใกล้ถังเหยี่ยนเอาไว้ไม่อยู่
“วันนี้พวกเราจะถ่ายในส่วนของมู่หลานก่อน อีกเดี๋ยวคุณไปนั่งบนชิงช้า แล้วนึกภาพว่าตนเองกำลังอาบแสงแดดและสายลม สีหน้าผ่อนคลาย” ถังเหยี่ยนเองก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่เขาส่งให้ ปากยกขึ้นเล็กน้อยอย่างสนใจ
“คือว่า…ขอโทษนะคะ ตอนที่ถ่ายภาพฉันต้องสวมรองเท้าอะไรเหรอคะ”
หลังได้ยินหลี่เหยาพูด สายตาของถังเหยี่ยนก็มองไปที่เท้าของเขา จากนั้นก็เคลื่อนไปบนน่องที่ได้สัดส่วน และเอวรวมถึงหน้าอกที่แนบกับเนื้อผ้า ดวงตาค่อยๆ มืดลง
“ตอนถ่ายให้เปลือยเท้าครับ ดังนั้นตอนนี้คุณก็ใส่รองเท้าของตนเองไปก่อน อีกเดี๋ยวค่อยถอด”
“ค่ะ”
การมองอย่างตรงไปตรงมา ความจริงแล้วไม่ได้ลามก แต่กลับทำให้ทั่วทั้งร่างของหลี่เหยาขนลุก
“ถ้าพร้อมแล้ว ก็เริ่มกันเลยเถอะครับ”
เขามักรู้สึกราวกับว่าตนเองหวั่นไหวและประหม่ามากเกินไป แต่ชั่วพริบตา เขาดูเหมือนจะจับได้ถึงการกระทำอันรุกรานจากการแสดงออกของถังเหยี่ยน นั่นคือมองเขาราวกับมองเหยื่อ
ทันใดนั้นเขารีบกำจัดภาพลวงตานั้นออก และสูดลมหายใจเข้าลึก เมื่อเห็นถังเหยี่ยนสาวเท้าเดินไปยังกล้องถ่ายรูปที่วางอยู่กับที่แล้ว เขาก็รีบตามไป เริ่มการถ่ายภาพในวันนี้
…..
“ชิงช้าแกว่งสูงขึ้นอีกหน่อย”
“มืออย่ากำเชือกแน่น”
“ขาสองข้างอย่าขนานกัน”
“เหมือนกับกำลังมองคนรัก”
ภายในสตูดิโอขนาดใหญ่ได้ยินเพียงเสียงทุ้มเข้มที่เด็ดขาดของถังเหยี่ยน แค่ได้ยินคำชี้แนะของถังเหยี่ยน หลี่เหยาก็รีบทำตามอย่างเชื่อฟัง ภายใต้แสงสีขาวที่สาดส่องลงมา กระโปรงของเขาพริ้วไสว ผมยาวที่อ่อนนุ่มปลิวไปตามสายลม
“แชะ แชะ!”
เสียงของชัตเตอร์ดังไม่หยุด แม้ว่าสายตาของหลี่เหยาจะมองไปที่เลนส์กล้อง ทว่าความคิดกลับไปอยู่ที่ถังเหยี่ยนโดยสมบูรณ์
แค่คิดว่าเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของตนเองกำลังจับภาพทุกการเคลื่อนไหวและการแสดงออกของเขาผ่านเลนส์กล้องแล้ว เขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างน่าประหลาด ทุกอณูเซลล์ภายในร่างกายได้รับผลกระทบ กระสับกระส่ายร้อนรน แม้แต่การเต้นของหัวใจก็เร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“มุมปากยกขึ้นอีกหน่อย”
จึงโค้งมุมปากขึ้น ทว่าถังเหยี่ยนกลับตำหนิทันทีว่า “ไม่ได้ ไม่ใช่แสร้งยิ้ม แต่ต้องยิ้มออกมาจากหัวใจ”
หลี่เหยาผ่อนคลายสีหน้าตามคำแนะนำ แต่คำพูดกลับยิ่งเย็นชา
“ยังไม่ใช่ คุณเข้าใจความรู้สึกที่ผมต้องการหรือเปล่า”
เมื่อเห็นแววตาแข็งกร้าวของถังเหยี่ยน ทั้งยังวางกล้องลง หลี่เหยาก็กำเชือกแน่นด้วยความประหม่ารีบรวมรวมสติของตัวเองอย่างรวดเร็ว จะให้ความรู้สึกเคารพเลื่อมใสนั่นมากระทบกับสีหน้าท่าทางของเขาไม่ได้อีกแล้ว
ท่านเทพไว้วางใจเขา ถึงเลือกให้เขามารับหน้าที่เป็นนางแบบ เขาต้องแสดงด้านที่ดีที่สุดออกมาให้ได้
หลี่เหยาสูดลมหายใจเข้าลึก รีบปรับอย่างรวดเร็ว หันหน้าไปเผชิญกับกล้องใหม่อีกครั้ง แล้วเริ่มการถ่ายภาพต่อ
“อีกครั้ง…”
“แกว่งชิงช้าต่อ”
“แสดงออกมากกว่านี้ สีหน้าเหมือนจมอยู่ในห้วงความรัก”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำสั่งของถังเหยี่ยน หลี่เหยาลองถ่ายทอดความรู้สึกหวานล้ำให้กับผู้คนขณะที่ถ่ายภาพ ยิ้มหวาน ทว่าถึงเขาจะร่วมมือพยายามทำตามอย่างไร แต่ก็ยังไม่สามารถทำตามความต้องการของถังเหยี่ยนได้
เวลาผ่านไปน้ำเสียงของถังเหยี่ยนก็เปลี่ยนเป็นจริงจังยิ่งขึ้น แล้วก็ค่อยๆ หมดความอดทน
“แววตาอ่อนโยนอีกหน่อย”
ทันทีที่อีกฝ่ายสั่ง หลี่เหยาซึ่งทนอาการวิงเวียนศีรษะที่เกิดจากการแกว่งร่างกายเป็นเวลานานไม่ไหว กลั้นหายใจ แววตาอ่อนลงจ้องไปที่กล้อง ทั้งยังไม่ลืมเปิดริมฝีปากเล็กน้อย
“ผมบอกให้คุณทำแววตาให้อ่อนโยนอีกหน่อย ไม่ใช่บอกให้สมองของคุณว่างเปล่า”
คำคาดโทษร้ายกาจที่ดังขึ้นทันทีนั้นทำให้มุมปากของหลี่เหยาแข็งค้าง สีหน้าเปลี่ยนเป็นอึดอัดอย่างยิ่ง
ทันทีที่เห็นผีที่น่ารังเกียจตนนั้นเกาะติดอยู่ข้างๆ ถังเหยี่ยน ไม่รู้พูดอะไรกับเขาแล้ว ทั้งยังมองเขาด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน ภายในใจของหลี่เหยาราวกับมีไฟถูกจุด เม้มริมฝีปากแน่นรู้สึกกลัดกลุ้มใจและหดหู่อย่างมาก
ไม่เข้าใจว่าตัวเองมีปัญหาตรงไหนกันแน่
“ทุกคนไปพักกินข้าวก่อน เดี๋ยวผมขอคุยตามลำพังกับ Miu หน่อย” เมื่อเห็นว่าใกล้จะเที่ยงแล้ว ถังเหยี่ยนจึงสั่งด้วยสีหน้าเข้ม
ทีมงานรีบวางงานในมือลงด้วยสีหน้าหงุดหงิดเดินตรงไปที่ประตู ทว่าเยี่ยจวินถิงผีที่น่ารังเกียจตนนั้นกลับยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม จ้องมาทางเขาอย่างโกรธๆ
กระทั่งถังเหยี่ยนใช้ดวงตาสั่งอีกครั้ง เขาถึงออกไปอย่างไม่ยินยอม ปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง
“คุณ…”
“ขอโทษค่ะ!”
ถังเหยี่ยนเพิ่งพูดออกมาคำหนึ่ง หลี่เหยาก็ก้มหน้ายอมรับความผิดต่อการแสดงออกที่ย่ำแย่ของตนเองทันที เขารู้ว่าทำให้ความคืบหน้าของการถ่ายล่าช้าและไม่เป็นมืออาชีพ ตอนที่กระโดดลงมาจากชิงช้าคิดจะขอโทษจริงจังอีกครั้ง ทันใดนั้นขาของเขากลับอ่อนแรง พุ่งตัวไปข้างหน้า
ถังเหยี่ยนมือไวตาไวก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ช่วยเขาไม่ให้จูบพื้น
ตอนที่สายตาปะทะเข้ากับใบหน้าของถังเหยี่ยนที่ขยายใหญ่ขึ้นนั้น ทั่วร่างของหลี่เหยาพลันแข็งค้าง ตระหนักได้ว่าตนเองตกอยู่ในอ้อมกอดของถังเหยี่ยน ถูกถังเหยี่ยนกอดเอาไว้อย่างใจเย็น มือหนึ่งโอบเอว ร่างกายที่แนบชิดร้อนขึ้น ทำให้หลี่เหยารู้สึกว้าวุ่นใจ “ขะ…ขอโทษค่ะ”
เขาขอโทษ พร้อมกับรีบผละออกอย่างรวดเร็ว
“พอแล้ว” ทันใดนั้นดวงตาของถังเหยี่ยนก็มืดลง การแสดงออกเคร่งขรึมขึ้นมา
หลี่เหยารู้สึกเศร้าใจมากที่ทำให้เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่โกรธครั้งแล้วครั้งเล่า
แกมันโง่…หลังจากที่คำพูดคร่ำครวญและคำสาปแช่งโหมซัดเข้ามาในใจแล้ว หลี่เหยากลับเพียงยิ้มขื่นอย่างกลัดกลุ้ม เขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรถึงจะดี จึงทำได้เพียงยืนอยู่ที่เดิมอย่างรู้สึกผิด ปล่อยให้ถังเหยี่ยนดุด่าหรือไม่ก็วิพากษ์วิจารณ์ได้เลย
“คุณเคยตกหลุมรักใครไหม”
ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ หลี่เหยาเชยตาขึ้นอย่างไม่เข้าใจ เวลานี้เอง การแสดงออกของถังเหยี่ยนเปลี่ยนไปอีกครั้ง ระหว่างคิ้วก็คลายลง มุมปากที่แฝงความขี้เล่นมองไปที่เขา ราวเปลี่ยนเป็นคนละคนทว่ากลับยังมีเสน่ห์ที่ทำให้คนไม่อาจต้านทานได้
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมท่านเทพถึงถามคำถามนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดมาก ส่ายหน้าตอบกลับไป
“งั้นอย่าหลบสายตาแล้วมองมาที่ผม”
หลี่เหยามองไปยังถังเหยี่ยนอย่างเชื่อฟัง แล้วก็ต้องตกตะลึงกับดวงตาดำขลับเย็นเยียบของท่านเทพที่ทำให้วิญญาณของตนเองตกอยู่ในภวังค์ หลงลืมไปว่าเมื่อครู่กล้องของเขาบีบบังคับให้หยุดลมหายใจ พอเผชิญกับดวงตาที่เปิดเผยตรงหน้านี้ ทำให้ร่างกายของเขาร้อนขึ้นอย่างน่าประหลาด เลือดร้อนที่หมุนเวียนอยู่ภายในค่อยๆ กัดกร่อนสติสัปชัญญะ แม้แต่หัวใจก็เต้นรัวอย่างกระวนกระวาย
“รู้สึกอะไรไหม” ริมฝีปากของถังเหยี่ยนโค้งขึ้นจ้องมองใบหน้าอย่างลึกซึ้งแผ่กลิ่นอายที่มีเสน่ห์ออกมา
“มะ…มีความรู้สึกอะไรงั้นเหรอ!” เห็นได้ชัดว่าถูกกระแสไฟฟ้าช็อตร่างกายจนรู้สึกมึนงง คนเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติอีกครั้ง ปากของหลี่เหยาแข็งค้างมองไป
ต้องเป็นเพราะเสื้อผ้าผู้หญิงที่ใส่อยู่แน่นอน
“งั้นเอาแบบนี้”
ทันใดนั้นแขนทรงพลังคู่นั้นก็โอบรัดเอวของเขา ทำให้ระยะห่างของคนทั้งคู่หดสั้นลงจนกลายเป็นศูนย์
ร่างของหลี่เหยาแทบจะลอยค้างอยู่กลางอากาศ เขย่งปลายเท้า ร่างกายแนบชิดกับถังเหยี่ยน กลิ่นอายรุนแรงปะทะเข้ามาที่ใบหน้า จนแทบทำให้เขาหลุดเสียงร้องตะโกนออกมา
ดวงตาสอดประสานกับตาของถังเหยี่ยนอย่างตกตะลึง จมูกชนจมูกต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน หลี่เหยารู้สึกสับสนกับสถานการณ์นี้โดยสิ้นเชิง ไม่เข้าใจว่าทำไมถังเหยี่ยนถึงทำเช่นนี้ ถึงอยากจะขัดขืน ทว่าใบหน้าหล่อเหลาของถังเหยี่ยนที่ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามา กลับทำให้รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นอยู่ในอกอย่างรุนแรง ขณะนั้นร่างกายของเขาอ่อนยวบ หัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะพุ่งออกมาจากลำคอของเขา
ตอนที่ริมฝีปากของถังเหยี่ยนใกล้เข้ามานั้น หลี่เหยาคิดว่าตนเองใกล้จะถูกจูบแล้ว แต่ทันใดนั้นเองถังเหยี่ยนกลับปล่อยมือ และพูดสอนเขาที่มีใบหน้าเหม่อลอยไม่ทันได้ตอบสนองว่า “แววตาแบบนี้ ผมต้องการแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกแบบนี้”
บรรยากาศคลุมเครือทั้งหมดหายวับไปทันที หลี่เหยากะพริบตาอย่างตกตะลึง การตอบสนองที่น่ารักและไร้เดียงสานั้น ทำให้ถังเหยี่ยนหลุดยิ้มออกมา
ท่านเทพเพิ่งสอนวิธีใช้สายตาให้เขางั้นหรือ
ความรู้สึกกระดายอายอย่างรุนแรงนั้นทำให้ร่างกายของหลี่เหยาแข็งค้าง ทั้งใบหน้าแดงก่ำ “ฉันรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร ขะ…ขอบคุณค่ะ”
“คุณคิดว่าแบบนี้พอแล้วหรือ” ถังเหยี่ยนรีบหยุดการเคลื่อนไหวของเขาอย่างรวดเร็ว
ขณะที่หลี่เหยาจ้องมองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ถังเหยี่ยนขยับเข้ามาใกล้หูของเขาช้าๆ อย่างเย้ายวนพร้อมกับพูดประโยคหนึ่งด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่คิดจะลองความรู้สึกของการจูบสักหน่อยเหรอครับ”

คอมเมนต์

Chapter List