เสพติดหัวใจนายช่างกล้อง ตอนที่ 1-1

Reader Settings

Size :
A-16A+

บทที่ 1.1

ภายในห้องแต่งตัวขนาดห้าตารางเมตร หญิงสาวผมสั้นหน้าตาดีสวมกางเกงขายาวยี่ห้อ Prada ยืนอยู่เหนือศีรษะคนงาม ในมือของเจ้าหล่อนถือเครื่องม้วนผมเซรามิค ม้วนผมของนางแบบสาวอย่างชำนาญ
ดวงตาเฉลียวฉลาดที่กรีดอายไลเนอร์สีดำเต็มไปด้วยความสนใจ กระทั่งผมช่อสุดท้ายม้วนเสร็จ สิบนิ้วของเธอจัดเส้นผมที่ย้อมสีเบาๆ ทำออกมาตามแบบที่คิดเอาไว้ จากนั้นก็ฉีดน้ำยาจัดแต่งทรงผมเพื่อให้เซ็ตตัว
“ทรงผม…”
OK
ผมที่ม้วนเป็นลอนไม่ได้ดูยุ่งเหยิง ทว่ากลับเผยด้านที่เซ็กซี่ของหญิงสาวได้อย่างพอดิบพอดี
“แต่งหน้า?”
เธอยืนอยู่ด้านหลังของนางแบบสาว มือข้างหนึ่งค้ำคาง ตั้งใจมองการแต่งหน้าของเขาในกระจก ทันใดนั้นเธอก็เอื้อมมือไปหยิบแปรงแต่งหน้าที่วางอยู่บนโต๊ะ แตะลงไปที่สีแดงผลท้อ แล้วลงมือปัดไปที่โหนกแก้มทั้งสองข้าง
ระหว่างที่ปัด ผิวที่ขาวราวกับกระเบื้องเคลือบถูกย้อมไปด้วยความมันวาวสีแดงราวกับผลแอปเปิ้ลทันที
“แต่งหน้าก็ OK แล้ว!” ริมฝีปากแดงยกยิ้มอย่างพึงพอใจ
“เสี่ยวหมี่ ลุกขึ้นยืนหมุนตัวให้ดูสักรอบสิ”
เธอตบไปบนไหล่ของนางแบบสาว นางแบบที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวหมี่ลุกขึ้นยืนอย่างเชื่อฟัง จากนั้นหมุนตัวกับที่หนึ่งรอบ
กระโปรงที่ทำจากผ้าซีฟองพริ้วไหวไปตามการเคลื่อนไหวของเขา ราวกับนางฟ้าแสนสวยในสวนดอกไม้ที่กำลังร่ายระบำ การแต่งหน้าที่ขับเน้นความเป็นธรรมชาติเผยความนุ่มนวลและน่ารักของหญิงสาวออกมา
ทว่าหลังจากที่หญิงสาวผมสั้นหรี่ดวงตาคมกวาดมองอย่างละเอียดแล้ว กลับส่ายหน้าและสบถออกมาสองคำ “ไม่ดี!”
เธอเก็บสายตากลับมา จากนั้นสั่งผู้ชายที่จัดเสื้อผ้าบนไม้แขวนเสื้อข้างหลังว่า “เสี่ยวฉี นายไปเอาชุดเดรสตรงนั้นมาสิ”
“ทำไม่ถึงยังไม่โอเคอีกล่ะ พี่เฮ่า” ได้ยินดังนั้น ‘เสี่ยวหมี่’ หรือก็คือ ‘หลี่เหยา’ สีหน้าพลันหมองลง เขายังไม่ได้กินอาหารเช้าก็ต้องมาแต่งหน้าทำผมที่นี่ จนเกือบจะหนึ่งชั่วโมงแล้ว ขนตายาวตกลงมาปกคลุมดวงตาหมองเศร้าคู่นั้น จะบอกว่าในใจรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ว่าได้
“หัวข้อของวันนี้คือเซ็กซี่อย่างมีคลาส ผ้าซีฟองดูโรแมนติกมากเกินไป” หลี่เหยากระตุกมุมปาก เขาไม่สนใจเหรอกว่าหัวข้อของวันนี้คืออะไร แค่อยากถ่ายให้มันเสร็จๆ หลังจากที่เสร็จ จะได้พาคนรักตัวน้อยของเขาไปเพลิดเพลินกับวันหยุดที่แสนงดงามเสียที
“เอาชุดไหนเหรอ พี่เฮ่า” เวลานี้เอง เสี่ยวฉีก็เอาเสื้อผ้าเข้ามา ทว่าบนแขนกลับพาดเสื้อผ้าไว้สองชุด ตัวแรกเป็นชุดเดรสลูกไม้สีแดง ส่วนอีกชุดเป็นวัสดุหนังให้เธอเลือก
หลี่เฮ่าหยิบเดรสผ้าลูกไม้ชุดนั้นขึ้นมาวางพาดไว้บนพนักเก้าอี้ จากนั้นก็ดึงซิปชุดเดรสของหลี่เหยาลงมาตรงๆ
“ถอดออก”
“ตรงนี้น่ะเหรอ”
ดวงตาหงส์[1]ของหลี่เฮ่าปรากฏคำว่า “จะทำไม!” แล้วทันใดนั้นก็เอื้อมมือไปทางเขา อย่างไรก็ตามเขาถอยหลังอย่างรวดเร็ว หลบได้สำเร็จ
“นายจะอายอะไรอีก เป็นผู้ชายหรือเปล่า รีบมาให้ฉันถอดเร็วๆ เลย!”
“เป็นผู้ชายก็ใช่ว่าจะถอดให้คนอื่นดูได้” แยกเขี้ยวพูดย้อนหนึ่งประโยค สองมือของหลี่เหยาจับเสื้อผ้าแน่นไม่ยอมปล่อย
หลี่เฮ่าไม่สนใจเขา โบกมือให้เสี่ยวฉีออกไปข้างนอก “นายไปดูสิว่าช่างภาพมาถึงแล้วหรือยัง”
เมื่อเห็นว่าเสี่ยวฉีเดินออกไปจากห้องแต่งตัวแล้ว หลี่เหยาก็รีบเดินไปล็อคประตู หามุมมุมหนึ่ง แล้วหันหลังให้หลี่เฮ่าถอดชุดเดรสออกจนเหลือแต่กางเกงชั้นใน จากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบชุดเดรสที่วางพาดอยู่บนพนักเก้าอี้ขึ้นมา
“พี่เฮ่า ชุดนี้มันเล็กเกินไปแล้ว ไซส์ S ผมใส่ไม่ได้หรอก” จ้องมองตัวอักษรภาษาอังกฤษบนแท็กเสื้อผ้าพร้อมกับบ่นพึมพำ
เป็นดังคาด พอสวมลงไป ชุดเดรสติดอยู่ตรงสะโพกของเขาพอดี หากดึงดันที่จะใส่ต่อ อาจจะต้องจ่ายเงินชดใช้เสื้อผ้าชุดนี้เป็นแน่
“งั้นเหรอ”
หลี่เฮ่าเดินมาข้างหลังของเขามองดูท่าทางที่น่าสังเวชนี้ จากนั้นก็สบถออกมาคำหนึ่งเบาๆ แต่กลับไม่มีความคิดที่จะล้มเลิก ดวงตากลมกวาดมองไม่หยุด ลองหาวิธีแก้ไข ทันใดนั้นเธอก็ตะโกนสั่งเสียงดังว่า “เกร็งท้องกลั้นหายใจซะ!”
หลี่เหยาเดิมทีฟังไม่ชัดว่าเธอพูดอะไร ก้นของเขาก็ถูกตีเข้าอย่างแรงโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ดอกเบญมาศดอกเล็กหดลงอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากนุ่มที่เคลือบด้วยลิปกลอสหลุดเสียงกรีดร้องราวกับหมูถูกเชือดออกมา “โอ้ย!”
“นายดูสิ แบบนี้ไม่ใช่ว่าใส่ได้แล้วเหรอ” ไม่มองใบหน้าที่บิดเบี้ยวเจ็บปวดของอีกคน หลี่เฮ่ายิ้มอย่างได้ใจ
เอว…เอวของเขาใกล้จะหักแล้ว
“โอ้ย…” เขาตัวสั่นพิงเก้าอี้ หลี่เฮ่าดึงซิปของชุดเดรสขึ้น ขณะนั้นหลี่เหยารู้สึกเหมือนกับว่าตนเองเป็นไส้กรอกที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ อวัยวะภายในทั้งหมดใกล้จะถูกบีบรวมเข้าด้วยกัน
“พี่เฮ่า ผมใกล้จะหายใจไม่ออกแล้ว…”
“งั้นก็กลั้นหายใจสิ เป็น Model มาตั้งนานยังอดทนไม่ได้อีก” หลี่เฮ่าตบลงบนมือของเขาที่อยู่ไม่นิ่งเพราะมัวแต่จะดึงซิปลง
“ก็มันทรมานมากจริงๆ หนิ”
ทั้งใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว รู้สึกยังไม่ชินกับการแต่งกายร้อนแรงเช่นนี้ เขาค้อมเอวลง สองขาโก่งเป็นรูปตัวอักษรเลขแปด (八) ยืนอยู่ด้วยความรู้สึกอึดอัดไม่สบอารมณ์
“กระโปรงสั้นขนาดนี้ จะไม่โป๊เหรอพี่” เขาพูดขึ้นอย่างกังวล สองมือของหลี่เหยาลอบดึงกระโปรงลงมาอีกครั้งเพื่อปิดน่อง ทว่าด้านบนกลับเผยสีเนื้อของ Nu Bra[2] และเทปกาวขนาดใหญ่ทันที
“ให้ตายสิ! ไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะช่วยยัดหน้าอกคัพ B ให้นายได้ ขืนขยับตัวอีกครั้ง รอดูได้เลยว่าฉันจะค่อยๆ ถลกหนังของนายออกมาซักหนึ่งชั้น” หลี่เฮ่าเข้ามาช่วยจัดหน้าอกให้เขาอย่างโมโห พร้อมกับชี้จมูกเตือนเขา “อย่าลืมนะว่า ตอนนี้นายเป็นผู้หญิง ผู้หญิงก็ต้องมีท่าทางของผู้หญิง ถ้าตรงนั้นโป๊ออกมา เงินเดือนของเดือนนี้ก็อย่าหวังว่าจะได้”
“ไหงงั้นล่ะ!” ไม่สนใจดวงตาที่เบิกโตของอีกคน หลี่เฮ่าจัดผมของเขา พร้อมกับพูดว่า “คิดว่าฉันพูดโกหกหรือไง เงินพวกนั้นช่วยให้ฉันซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมคอลเลคชั่นใหม่ได้เลยนะ”
“ใช้แรงงานเด็กผิดกฎหมายนะพี่” หลี่เหยาพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“ฉันรู้ แต่ถ้าโอตาคุพวกนั้นรู้ว่าเทพธิดาของพวกเขาเป็นผู้ชาย ต้องมีคนเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้อีกต่อไปแน่นอน”
“นี่ไม่ใช่เป็นเพราะว่าพี่ใช้ชื่อในวงการของผมเปิดกรุ๊ปแฟนคลับอะไรนั้นโดยไม่ได้รับอนุญาติหรือไง!” เมื่อเผชิญหน้ากับใบหน้าของหลี่เฮ่าที่ไม่สำนักผิดและเยาะเย้ยแล้ว หลี่เหยากัดฟันกรอดอย่างโมโห
“ถึงยังไงสุดท้ายคนที่ต้องทุกข์ทรมานก็ไม่ใช่ฉัน”
หลี่เฮ่ามองใบหน้าของเขาอย่างกวนๆ อีกครั้ง หลี่เหยาลอบกำหมัดแน่น แทบจะทนไม่ไหวอยากพุ่งเข้าไปเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้
ทว่าเมื่อคิดถี่ถ้วนแล้ว ถึงจะถูกบังคับให้แต่งตัวเป็นผู้หญิง ก็ไม่ได้ทำไปเสียเปล่า ในเมื่อเป็นการทำข้อตกลงกันแบบหนึ่ง และการต่อสู้กับนางมาร หลี่เฮ่า จอมมารผู้มีประสบการณ์ทำงานโชกโชนเช่นนี้ ตลอดมาเขาก็ทำได้เพียงยอมรับกับความพ่ายแพ้เท่านั้น
“รู้แล้ว…” เดือนนี้เขาพยายามรับงานเยอะมาก หากนำเงินเดือนทั้งหมดซึ่งเป็นค่าเหนื่อยมารวมกัน ก็นับว่าเป็นจำนวนตัวเลขที่น่าประทับใจไม่น้อย
ตอนนี้เหลืออีกแค่นิดเดียวเท่านั้น ก็จะมีเงินพอซื้อกล้อง Canon 80D ที่ใฝ่ฝันถึงได้ ถ้าพี่เฮ่าไม่ให้เงินเดือนเขา เขาก็คงต้องกลับไปชื่นชมอยู่ที่ตู้กระจกร้านนั้นอีกครั้งและจับจ้องอยู่เป็นวันๆ อีกแน่
เพื่อกล้องดีเอสแอลอาร์[3] ตัวนั้น เพื่อขยับเข้าใกล้ความฝันของเขาอีกก้าว ต้องอดทน…และอดทนเท่านั้น เขาสูดลมหายใจเข้า หายใจออก หายใจเข้า หายใจออก จากนั้นฝืนดึงมุมปากเผยรอยยิ้มมีเสน่ห์ให้กับปีศาจสาว
“ดีมาก วันนี้ต้องเป็นวันที่สมบูรณ์แบบมากแน่นอน รีบไปที่สตูดิโอกันเถอะ” หลี่เฮ่าตบไปที่ไหล่ของเขา แล้วหยิบสมุดบันทึกที่วางอยู่บนโต๊ะเดินออกไปจากห้องแต่งตัวอย่างสง่างาม
หลี่เหยารู้สึกไม่ดีเดินตามอยู่ข้างหลังทำหน้าบูดบึ้งใส่เธอ แต่เมื่อเห็นฝีเท้าของเธอหยุดชะงัก ร่างกายก็เหยียดตัวตรงขึ้นทันควัน ไม่กล้าก่อเรื่องอีก ยอมรับชะตากรรมแล้วเดินไปยังทิศทางของสตูดิโอ

จากที่กล่าวมาข้างต้นก็คือหลี่เหยาซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรูปร่างผอมบางคนหนึ่ง ถูกบังคับให้มาเป็นนางแบบ การแสดงเหมือนวันนี้ก็ทำมาแล้วสามครั้งในหนึ่งเดือน เขาจึงขนามนามอีกฝ่ายว่า ‘ปีศาจสาวที่บังคับน้องชายให้ขายเรือนร่าง’
ขอแนะนำตัวเองกับทุกคนก่อน…เขาชื่อว่าหลี่เหยา ‘Miu’ เป็นชื่อในวงการของเขา ส่วนเสี่ยวหมี่เป็นชื่อเล่นที่คนในครอบครัวเรียกเขา
คนที่เรียกเขาว่าพี่เฮ่า ก็คือพี่สาวแท้ๆ ของเขา
เขาเกิดมาในครอบครัวสามัญธรรมดา แม่ซึ่งเป็นโรคหัวใจตั้งแต่เกิดเสียชีวิตตอนที่คลอดเขา ดังนั้นสมาชิกภายในบ้านจึงเหลือแค่ เขา พ่อและพี่สาว สามคนพึ่งพาอาศัยกัน
ตามหลักแล้ว เขาขาดความรักของมารดาตั้งแต่เด็ก เขาก็ควรพึ่งพาและเคารพรักพี่สาวที่โตกว่าเขาสิบสองปีถึงจะถูก แต่เพราะประโยค ‘พี่สาวคนโตก็เหมือนแม่’ นั้นกลับทำให้เขาไม่ต่างกับตกนรกทั้งเป็น
หลี่เฮ่ามีความเป็นผู้ใหญ่และรู้ความตั้งแต่เด็ก เธอช่วยพ่อแบ่งเบาภาระงานในบ้าน ทั้งยังออกไปทำงานเล็กๆ น้อยๆ เพื่อจุนเจือครอบครัว
แต่พี่สาวของเขาคนนี้ ในหัวใจของหลี่เหยารู้สึกว่า ตลอดชั่วชีวิตนี้เธอไม่มีทางจะเป็นแม่แท้ๆ ได้แน่
เหตุผลหลักๆ ก็คือนิสัยของเธอแข็งกระด้างเกินไป ตั้งแต่ที่หลี่เหยาจำความได้ เขาต้องเชื่อฟังคำสั่งของเธอมาตลอดทั้งชีวิต
และปัจจัยที่ทำให้เขาไม่กล้าต่อต้าน ก็เป็นเพราะว่าพ่อมักทิ้งพี่สาวให้ดูแลเขา ทำให้เธอต้องสูญเสียรักแรกที่คบหากันมาถึงสองปี
เพราะความรู้สึกติดค้างนั้น ดังนั้นเรื่องที่เธอสั่ง เขามักจะคิดเสมอว่าเป็นคำสั่งของกษัตริย์ ไม่ว่าฝนตกฟ้าร้อง หรือเป็นวันที่อากาศร้อนจัดอุณหภูมิสูงถึงสามสิบเจ็ดองศาเซลเซียล หรือจะเป็นตอนที่ปลดหนักปลดเบาในห้องน้ำ หรือตอนกลางดึกที่เขากำลังนอนหลับฝันหวานว่าได้จูบไอดอลสาวที่เขาชื่นชอบ ขอเพียงเธอสั่ง เขาก็จะมีความคิดของ Fedex [4]
‘ทำตามคำสั่งทันที’
สรุปก็คือ หลี่เฮ่าก็เป็นเหมือนจักรพรรดินีอู่เจ๋อเทียน[5]ในสายตาของเขา ส่วนเขาก็เป็นข้ารับใช้ที่คอยติดตามเธอตลอดเวลา

________________________________________
[1] ดวงตาหงส์ เป็นลักษณะของผู้ที่มีหางตาเชิดขึ้น ถือว่ามีความสง่างาม
[2] Nu Bra คือยี่ห้อของผลิตภัณฑ์ซิลิโคนเสริมหน้าอก
[3] กล้องดีเอสแอลอาร์ หมายถึง กล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวระบบดิจิทัล (Digital single-lens reflex camera) มีลักษณะเหมือนกล้องที่ใช้ฟิล์ม เพียงแต่ใช้เซ็นเซอร์ในการรับภาพแทนฟิล์ม
[4] Fedex หรือ เฟดเอกซ์ คือบริษัทขนส่งสินค้าสัญชาติอเมริกัน
[5] อู่เจ๋อเทียน หรือ บูเช็กเทียน จักรพรรดินีพระองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีน

คอมเมนต์

Chapter List