แผนเอาตัวรอด..ของบุรุษบอบบางอย่างข้า! ตอนที่ 9
ยั่วยุคนใจร้อน
ตอนที่ 5.1
ยั่วยุคนใจร้อน
“น่าเสียดาย น่าเสียดาย” เหอเป่ารำพึงรำพันหากรู้เช่นนี้เมื่อคืนเขาแวะมาหาความสำราญแล้ว ไม่ปล่อยให้เสียของแบบนี้แน่
ตงเซียวกระซิบหวาน “ท่านไปส่งข้าดีหรือไม่ ระหว่างทางพวกเราจะได้กล่าวอำลา”
เหอเป่าเลิกคิ้วสูง ถามเสียงเนิบ “หมายความว่าอย่างไร”
ตงเซียวจงใจตอบเสียงเศร้า “ข้าแอบหลงรักบุรุษผ่าเผยเช่นท่านมานาน วันนี้ต้องจากกันหวังว่าคุณชายจะเมตตาสักครั้ง”
เหอเป่านิ่งอึ้งคิดอะไรไม่ออกชั่วขณะ
ตงเซียวรีบกล่าวต่อ “ท่านคงรังเกียจข้ามาก ขออภัยจริงๆ ” จบคำก้าวเท้าถอยหลังออกห่างเหอเป่า แสร้งยืนก้มหน้านิ่ง
เหอเป่าเห็นการกระทำเช่นนั้นมีหรือวิญญาณนักรักจะไม่สั่นไหวละลายเป็นน้ำ “ไม่ใช่” เผลอหลุดถ้อยคำออกมาก่อนนึกขึ้นได้ในห้องยังมีบ่าวไพร่อยู่อีกหลายคน เขารีบหันไปสั่ง “พวกเจ้าออกไปก่อน”
บ่าวไพร่ต่างขานรับพร้อมเพรียง “ขอรับ/เจ้าค่ะ”
ไม่วายกำชับเสียงเข้ม “รู้ใช่ไหมอะไรควรพูดไม่ควรพูด”
“ขอรับ/เจ้าค่ะ”
คล้อยหลังบ่าวไพร่ทั้งหมด เหอเป่ารีบยื่นมือไปหา “คนดี”
ตงเซียวช้อนตาขึ้นมอง ริมฝีปากระเรื่อเผยอนิดๆ
เหอเป่ากลืนน้ำลายดังเอื้อก ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง “อ่า..ยามนี้เจ้าช่างน่ารักเหลือเกิน”
ตงเซียวยื่นมือขาวเรียวแตะที่อกไล่ไปตามสาบเสื้อเขยิบร่างผอมบางเข้าใกล้ จงใจกระซิบข้างหูพร้อมเป่าลมเบาๆ “ยามอื่นน่ารักเช่นกัน เสียดายท่านไม่ทันได้เห็น”
เหอเป่าตวัดมือรั้งเอวเข้าแนบกายถามเสียงสั่น “ข้าควรทำอย่างไรดี”
“ท่านแอบลอบเดินทางไปกับข้าด้วยดีหรือไม่ ระหว่างทางก็..”
“ที่ไหน” คล้ายอยากถามที่ไหนจะทำได้
“บนรถม้าดีหรือไม่”
“ตงเซียวเจ้าช่างร้อนแรงนัก” เหอเป่าไม่วายกล่าวชม
“ท่านไม่ชอบงั้นหรือ” ไม่พูดเปล่าขบเม้มแลบลิ้นเลียติ่งหูเหอเป่า มือลูบไล้วนเวียนแถวกลีบปากจงใจยั่วยวนสุดกำลัง ตงเซียวเป็นบุรุษย่อมเข้าใจบุรุษด้วยกันดี จุดที่ทำให้บุรุษหลายคนเคลิบเคลิ้มถึงแม้ไม่ทุกคน แต่เห็นได้ชัดสัมผัสนี้มีผลกับเหอเป่าไม่น้อย
เหอเป่าแย้ง “เกิดท่านแม่รู้เข้า”
“คุณชายเป็นทายาทเป็นเจ้าบ้านคนต่อไป ฮูหยินย่อมไม่ขัดใจท่าน”
“แต่ว่าที่นั่นมัน”
ตงเซียวเอียงคอกะพริบตา เอ่ยปากยั่วยุ “ท่านกลัวที่นั่นด้วยหรือ? ”
คล้ายถูกแววตาคนงามจดจ้อง เหอเป่าตอนนี้มองตงเซียวงามหยาดหยดยิ่งกว่าสาวงามคนไหนที่เคยพบเจอมา ใจราวขี้ผึ้งถูกไฟรนอ่อนยวบยาบไปหมดยกเว้นที่เดียวนอกจากไม่อ่อนปวกเปียกแล้วยังแข็งขันพร้อมสู้รบในศึกนี้
ตงเซียวไม่ปล่อยโอกาสงามให้หลุดลอย “อีกอย่างข้าแค่ขอให้คุณชายไปส่งกลางทางเท่านั้น เมื่อใกล้ถึงท่านอยากกลับข้าย่อมไม่รั้งไว้ให้เกิดอันตราย แค่อยากอยู่ใกล้ชิดให้นานอีกหน่อย”
เหอเป่าเกือบหลงใหลคล้อยตามอยู่แล้วเชียว กลับถูกขัดด้วยเสียงฝีเท้าเร่งเร้าพร้อมคำถามร้อนรน “ยังไม่เสร็จอีกหรือ แล้วพวกเจ้าออกมายืนทำอะไรหน้าห้องเล่า” พ่อบ้านส่งเสียงมาก่อนตัวในใจคิดว่านายน้อยไม่ใช่ต่อยตีตงเซียวจนยับเยินไปแล้วหรือ
เหอเป่าอารามตกใจรีบออกแรงผลักร่างตงเซียวให้พ้นตัว
ฝ่ายตงเซียวพอเข้าใจได้ ชิช่ะ..เจ้าลูกเต่าคิดอยากเป็นนักรักทว่าฝีมือไม่ถึงสินะ เด็กน้อยอมมือแอบอยู่หลังแม่ชัดๆ ขาดแม่ไปสักคนคาดว่าคงทำอะไรเองไม่เป็น ที่แท้แค่สุนัขแอบอ้างบารมีเสือ
พ่อบ้านก้าวเข้ามา “คุณชาย”
เหอเป่ากระชากเสียงถามอย่างคนมีอารมณ์หงุดหงิดไม่พอใจ “มีอะไร”
“เอ่อ..เลยฤกษ์ยามที่เหมาะสมแล้วขอรับ”
เหอเป่าเหลือบตามองใบหน้างามล้ำอย่างแสนเสียดาย ส่งเสียงฮึดฮัดกลบเกลื่อนความต้องการแท้จริง “พาตัวไปได้แล้ว จะไปไหนก็ไป”
ตงเซียวส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ พอเหอเป่าหันมามองค่อยพูดจาดูแคลนไม่ไว้หน้า “ไม่คาดคิดเลยว่าคุณชายตระกูลเหอจะใจเสาะถึงเพียงนี้”
อีกฝ่ายหน้าแดงก่ำ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ”
“ท่านย่อมรู้ดีแก่ใจ เสียแรงเป็นถึงผู้สืบทอดหนึ่งเดียวกลับทำตัวเหมือนลูกเต่าหดหัวในกระดอง มิใช่สิเป็นลูกเต่าแอบหลังมารดารอคอยให้ป้อนข้าวป้อนน้ำ”
“เจ้า!”
ตงเซียวร้องเฮอะ “หรือไม่จริง ไม่กล้าเถียงสินะ ท่านมันก็แค่ลูกเต่าน่าสมเพชหดหัวกลัวมารดา”
เหอเป่าหน้าเขียวคล้ำดำทะมึนยิ่งกว่าพายุลูกใหญ่ “เจ้าถอนคำพูดเดี๋ยวนี้!”
ชายหนุ่มฉวยโอกาสตีเหล็กตอนกำลังร้อน “ทำไมต้องถอน เจ้ามันแค่คนขลาดเขลาคอยรับคำสั่งจากมารดาคิดเองไม่เป็น ดูท่าต้องดมก้นมารดาไปทั้งชีวิตเงยหน้าไม่ขึ้นแน่”
เหอเป่ากำหมัดแน่นพุ่งเข้าใส่ตงเซียว ด้านตงเซียวชีวิตก่อนมีประสบการณ์ต่อยตีมาบ้างตามประสาเด็กผู้ชาย ชั้นเชิงไม่งอกง่อยนัก ซ้ำเติบโตมาถูกเพื่อนสาวที่เคยตามจีบลากถูลู่ถูกังไปต่อยมวยไทยนานเป็นปีนับได้ว่ามีวิธีเอาตัวรอดบ้างประปราย ชายหนุ่มเอี้ยวตัวหลบไปด้านข้างตีสีหน้าตกใจสุดขีด แววตาสั่นไหวระริกคล้ายสะเทือนใจรุนแรง ดวงตาหยาดเยิ้มฉ่ำรื้นวาววับราวกับจะกลั่นน้ำออกมาได้ทุกเมื่อ
พ่อบ้านรีบพุ่งเข้าไปประคองร่างนายน้อยของจวนด้วยเกรงอีกฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บ การกระทำนี้เป็นไปเองโดยธรรมชาติทุกทีไม่เคยมีปัญหา เพียงแต่ยามนี้ในสายตาของเหอเป่าราวกับมีหมอกหนากางกั้นเป็นชั้นซ้อนจนยุ่งเหยิง ทุกสิ่งเลยไม่เข้าที่เข้าทางเกะกะลูกตาไปหมด ทรงตัวได้มั่นสะบัดมือพ่อบ้านออกยกสองมือจัดสาบเสื้อ จากนั้นค่อยหันมองจ้องราวจะกินเลือดฉีกเนื้อตงเซียว
น้ำตาคนงามใช้ไม่ได้ผลแล้วกับเหอเป่าในตอนนี้ ท่ามกลางเพลิงโทสะโหมไหม้ร้อนแรงดุจดวงอาทิตย์กลางทะเลทรายแผดเผา เหอเป่าคิดเพียงต้องสั่งสอนไอ้ลูกคณิกาชั้นต่ำ เศษสวะใต้ฝ่าเท้า ลูกที่พ่อไม่ต้องการ คนไร้ค่า เห่าเหมือนสุนัขยังไม่มีใครมองจะมาเทียบกับเขาได้อย่างไร
ความคับแค้นไม่ยินยอมพ่ายแพ้ ต้องการเอาชนะ อยากลบคำสบประมาท ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลมาจากความใจร้อนไม่ยั้งคิดทั้งสิ้น ถึงอย่างนั้นสำหรับบางคนราวกับมันเป็นปมใหญ่หลวงในใจถูกผูกเงื่อนตายไว้แน่น แกะเท่าไหร่ไม่ยอมหลุดออก
“พ่อบ้านจับมันไปขึ้นรถม้า ข้าจะคุมตัวมันไปเอง” เหอเป่าตะโกนก้อง
อีกฝ่ายสะดุ้งโหยงร้อนรนทัดทานเสียงสั่น “ชะ ช้าก่อนคุณชาย นั่นเท่ากับขัดคำสั่งฮูหยินนะขอรับ”
เหอเป่ารู้ดีว่ายามนี้มารดากำลังรั้งบิดาเอาไว้ป้องกันไม่ให้การส่งตัวตงเซียวไปสังเวยถูกขัดขวางกลางคัน ถึงจะกล่าวว่าบิดาไม่แยแสใส่ใจตงเซียวแม้แต่น้อย แต่กันไว้ย่อมดีกว่าตามแก้ทีหลัง แรกเริ่มเหอเป่ากริ่งเกรงมารดาแต่หลังจากถูกยั่วยุให้บังเกิดโทสะพร้อมกับความรู้สึกที่ว่าตัวเองสามารถจัดการได้ ชะล้างความหวาดกลัวทั้งหลายไปสิ้น
อีกอย่างคนปากดีอย่างตงเซียวเขาจะแสดงให้รู้ซึ้งถึงคำว่าหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือดเลย ถึงเวลานั้นร้องขอความเมตตาก็ไม่ทันแล้ว
คนหนึ่งคิดหาทางเอาคืนอย่างสาสม อีกคนหนึ่งพลันโล่งใจสำเร็จตามแผนไปหนึ่งก้าว แม้ต้องลุ้นที่เหลืออีกมาก แต่การมีก้าวแรกย่อมดีกว่าไม่มีเสมอ
เหอเป่าแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างที่สุดน้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงแววเย็นชาแข็งกระด้างมากขึ้น “เจ้าไม่ยินดีทำตามอย่างนั้นหรือ? ”
พ่อบ้านตอบน้ำเสียงกึ่งร้อนใจกึ่งอ่อนใจแฝงอยู่ในที “มิได้ขอรับ แต่ว่าฮูหยินสั่ง..”
ยังไม่ทันที่พ่อบ้านจะกล่าวจบประโยค เสียงตะคอกเต็มเปี่ยมร้อนแรงดังสวนขึ้นเสียก่อน “เจ้าเป็นนายหรือข้าเป็นนายกันแน่ เหตุใดข้าต้องฟังคำของเจ้าอย่าคิดกล่าวอ้างท่านแม่หน่อยเลย เจ้าหวังขัดแย้งให้ข้าได้อับอายมากกว่า”
ละครโรงเล็ก
ตงเซียว : เอะอะก็ลูกคณิกา สวะ ชั้นต่ำ
เหอเป่า : แล้วจะทำไม
ตงเซียว : แล้วนายล่ะ
เหอเป่า : ฉันเป็นนายน้อยของจวน
ตงเซียว : นายเป็นผู้ดีงั้นสินะ
เหอเป่าเชิดหน้า
ตงเซียว : ถ้าเป็นผู้ดีแบบนี้ฉันไม่เป็นดีกว่า สาวใช้แถวนี้กิริยายังดีกว่าเลย
สาวใช้แอบยกนิ้วให้
คอมเมนต์