White Night ตอนที่ 1-3
บทที่ 1 (3)
แทซองมุนสังเกตเห็นอาการผิดปกติของหล่อนที่จู่ ๆ ก็มีท่าทีเศร้าสร้อย
ไม่น่าพูดเลย แทซองมุนคิด เขาเดินกระสับกระส่ายไปทางหน้าต่างพอมองออกไปยังสวนเบื้องล่างก็ร้องบอกด้วยกิริยาที่โอเวอร์ราวกับนักแสดงละครเวที
“โอ้โห! คุณนมครับ! หญ้าแห้งสนิทเลย! ขนาดหยดน้ำฝนยังต้องหลบทางให้ท่านเจ้าบ้านเลยนะครับ! น่ายินดีจริง ๆ!”
แม่นมตื่นจากภวังค์ หล่อนรีบเดินไปจนชิดหน้าต่างเพื่อมองทัศนียภาพเบื้องล่าง เป็นดั่งคำพูดของแทซองมุนจริง ๆ ร่องรอยพายุฝนกระหน่ำเมื่อคืนวานอันตรธานไปแล้ว ตอนที่คนงานขนสัมภาระกัน พื้นดินกับใบไม้ใบหญ้ายังเปียกชุ่ม ทว่าบัดนี้กลับแห้งสนิท มวลอากาศยามเช้าช่างแจ่มใสปลอดโปร่งสมใจแม่นม
“จริงด้วย! อากาศเหมาะกับงานมงคลเหลือเกิน!”
แม่นมยิ้มแก้มปริ ท่าทางดีใจดั่งสาวน้อย เค้าแห่งความโศกเศร้าเมื่อครู่หายเกลี้ยง แทซองมุนก็พลอยโล่งใจจนส่งยิ้มขี้เล่นให้กับผู้สูงวัยด้วย
งานวิวาห์ของเผ่าพันธุ์อสูรไม่ได้จัดอย่างหรูหราและซับซ้อนเท่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพียงจัดขึ้นในสถานที่ที่ได้รับการรับรองตามความเหมาะสมเพื่อประกาศความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ ไม่มีลำดับพิธีการอื่นใด อนึ่งแขกเหรื่อผู้ได้รับเชิญมักมีจำนวนน้อย หลัก ๆ อาจเป็นประมุขกลุ่มองครักษ์ของประมุข และเหล่าเจ้าบ้านประจำสกุลต่าง ๆ ที่มีชื่อในบัญชีรายชื่อของเผ่าพันธุ์ นอกเหนือจากนั้นก็อาจมีแขกที่บ่าวสาวเชิญมาร่วมงานเป็นกรณีพิเศษ
แทกูกยองตั้งใจจะไม่พาใครไปด้วย ทว่าแม่นมผู้ดื้อรั้นก็ยืนกรานจะขอไปถ่ายรูปให้ ส่วนแทซองมุนผู้ยกฐานะตนเองเป็นเงาของอีซึงโดก็ขอตามไปด้วยจนได้ ขนาดถูกแทกูกยองด่าเอือม ๆ ว่าเกาะเป็นปลิง ทั้งคู่ก็ยังคงยิ้มหน้าระรื่น
“ทั้งสองท่านนี่สวมใส่อะไรก็รูปงามไปหมด นมละปลื๊มปลื้ม”
แม่นมสุขใจเหลือล้นเมื่อจัดแจงให้อีซึงโดสวมแจ็กเก็ตสีอ่อนลายดอกไม้จาง ๆ เสื้อผ้าบางชิ้นหากไม่เหมาะกับผู้สวมใส่ ใส่ออกมาก็คงเชยระเบิด แต่ไม้แขวนที่ชื่ออีซึงโดนั้นกลับดูดีเป็นอย่างมาก เขาแต่งตัวออกมาได้เข้าท่าทีเดียว ส่วนรูปร่างของแทกูกยองนั้นก็กำยำสมส่วนใส่อะไรก็หล่อไร้ที่ติอยู่แล้ว อีซึงโดจึงถือเป็นกรณีที่เกินคาดสำหรับแม่นม
“แปลกจัง คุณซึงโดหุ่นดีขนาดนี้เชียวหรือนี่ คราวก่อนตอนหาชุดสำหรับใส่ในงานวันเกิดของคุณหนู นมว่ารูปร่างของคุณไม่ใช่แบบนี้นี่นา”
แม่นมเอียงคอด้วยสีหน้าหลากใจ คราวก่อนหล่อนเป็นคนวัดหุ่นและหาชุดให้อีซึงโดเองกับมือเลยจำได้แม่น จึงอดแปลกใจในความเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ตอนแรกแม่นมคิดว่าร่างกายของอีซึงโดมีน้ำมีนวลขึ้นหลังคลอดแต่ก็ไม่น่าจะถูกต้องเสียทั้งหมด หล่อนรู้สึกว่าโครงร่างของเขานั้นต่างจากเดิมไปเล็กน้อย ซึ่งน่าประหลาดเพราะอีซึงโดไม่ใช่หนุ่มวัยรุ่นที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตเสียหน่อย
“คงเพราะพย็อลน่ะครับ”
แม่นมเบิกตากว้างกับคำตอบเหนือความคาดหมาย
“เอ๊ะ คุณหนูทำอะไรหรือคะ”
อีซึงโดถอดแจ็กเก็ตส่งให้คนรับใช้ เขายิ้มบาง ในรอยยิ้มนั้นเจือความเหนื่อยอ่อนเล็กน้อย เนื่องจากเพิ่งรู้ซึ้งถึงเหตุผลที่ทำให้แทกูกยองขยาดการไปงานเลี้ยง
“ดูเหมือนตอนพย็อลส่งเลือดให้หัวใจผมเต้นใหม่ จะส่งผลดีต่อสภาพร่างกายบริเวณอื่นด้วยครับ รอยแผลเป็นเล็ก ๆ ยังหายเกลี้ยงกูกยองบอกว่าข้อต่อกับชิ้นส่วนกระดูกที่เคยงอหรือบิดเบี้ยวก็ถูกจัดระเบียบใหม่ให้เข้าที่ด้วย”
“เส้นผมกับผิวพรรณยังเรียบลื่นขึ้นด้วยนะ” แทกูกยองเอ่ยแทรก
แม่นมหันมองท่านเจ้าบ้านด้วยสีหน้าตกใจ ไม่สิ ถ้าให้พูดชัด ๆ ต้องบอกว่าหล่อนมองลูกเสือตัวน้อยผู้นอนพาดพุงไว้บนศีรษะของแทกูกยองต่างหาก อีซึงโดกำลังสาละวนกับการลองเสื้อ เดี๋ยวเปลี่ยนตัวนั้น เดี๋ยวสวมตัวนี้ ลูกเสือไม่มีใครให้อ้อนเลยปีนไปเกาะบนศีรษะพ่อที่คอยเดินตามอีซึงโดต้อย ๆ
แทกูกยองจิ้มจมูกลูกเสือผู้นอนย้วยอยู่บนกระหม่อมตัวเองก่อนพูดต่อ
“เจ้าจิ๋วไม่รู้หรอกว่าแค่ทำให้หัวใจเต้นใหม่ก็พอแล้ว เด็กนี่กลัวแม่ตายจัด เลยหลับหูหลับตาส่งเลือดมาเสียเยอะ ร่างกายซึงโดของเราเลยอิ่มเอิบขึ้นตั้งแยะ”
“พระเจ้าช่วย คุณหนูพย็อลทำได้ดีมากค่ะ!”
พอเห็นทุกคนมองมา พย็อลหรือแทอึนกยองก็ส่งเสียงร้องในคออสูรน้อยที่เพิ่งอายุได้สามเดือนยังฟังภาษามนุษย์ไม่เข้าใจแตกฉาน แต่พอเดาได้จากคำเรียกชื่อตัวเองกับท่าทางชื่นชมที่มีให้
“ขอนมดูหลังหน่อยสิคะ”
แม่นมเอ่ยขอด้วยสีหน้าดีใจ อีซึงโดหันหลังแล้วเลิกชายเสื้อกล้ามให้หล่อนดูอย่างว่าง่าย
“พระเจ้า…จริงด้วยค่ะ ไม่มีรอยแผลเป็นแล้ว”
แผ่นหลังเปลือยเปล่าใต้ร่มผ้าเรียบลื่นไร้รอยตำหนิ แผลเป็นซีดจางกับรอยนูนจากแผลเก่าล้วนหายเกลี้ยง แม่นมยกสองมือแตะริมฝีปากตัวเองราวกับจะพนมมือ
หล่อนพึมพำ “ดีจัง ดีจริง ๆ นมก็ว่าทำไมเดี๋ยวนี้บุคลิกคุณซึงโดถึงได้สง่านัก ที่แท้เป็นความดีความชอบของคุณหนูพย็อลนี่เอง”
แม่นมเสียงสั่นด้วยความประทับใจ อีซึงโดจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ พอหันกลับไปก็เห็นใบหน้าที่มีรอยยิ้มกว้างกับดวงตารื้นของหล่อน
แม่นมคงนึกถึงการพบกันครั้งแรกของพวกเขาทั้งสาม อีซึงโดเองก็จดจำวันนั้นได้แม่นยำเช่นกัน
“สวัสดีค่ะคุณหนู สวัสดีค่ะคุณซึงโด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดิฉันจะรับหน้าที่ดูแลท่านทั้งสอง ฝากตัวด้วยนะคะ”
คำทักทายแรกของแม่นมจุดประกายสว่างเล็ก ๆ มาสู่ชีวิตที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น อีซึงโดยังจำบทสนทนาที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้ดี กลิ่นหอมของอาหารที่อบอวลไปทั่วห้องที่ใช้เป็นที่กักขัง ตลอดจนสัมผัสกับอ้อมกอดที่อบอุ่นของแม่นม
เขาหวนนึกถึงอดีตที่ไม่ได้ทุกข์ใจแล้ว ตอนที่รอยแผลบนร่างกายจางหายคงพัดพาความเจ็บปวดในตอนนั้นให้จากไปด้วยกระมัง
“แม่นมครับ ผมไม่เห็นอีกยองกับอึนแทสักพักแล้ว”
อีซึงโดเปลี่ยนเรื่องแบบยิ้ม ๆ แม่นมจึงเลิกนึกถึงอดีต หล่อนตอบรับเจตนาของอีซึงโดโดยใช้หลังมือปาดขอบตาแบบลวก ๆ
“ทั้งคู่ไปว่ายน้ำที่สระกันตั้งแต่เมื่อกี้แล้วค่ะ เห็นบอกว่าวันนี้คุณซึงโดยุ่งก็เลยไม่อยากรบกวน”
“น่ารักกันจัง”
“ใช่ค่ะ โชคดีที่คุณหนูอีกยองไม่เหมือนท่านเจ้าบ้าน แต่เหมือนคุณซึงโด แล้วก็โชคดีมากอีกเหมือนกันที่คุณอึนแทไม่เหมือนท่านประมุข อ๊ะหมายถึงอดีตท่านประมุขน่ะค่ะ”
“ทำไมวกมาเล่นงานกันได้ ฉันอุตส่าห์อยู่เงียบ ๆ แล้วนะ”
แทกูกยองบ่นเคือง ๆ แล้วเบะปาก แม่นมส่งเสียง “ฮึ” ไม่สนใจท่านเจ้าบ้านแต่อย่างใด
“คุณซึงโด นมว่าแจ็กเก็ตตัวนี้เหมาะที่สุดแล้วค่ะ เนื้อผ้ากับลายดูหรูหราดี”
“ไม่หรูเกินไปหรือครับ”
“อุ๊ยตาย หรูหน่อยแล้วไงคะ คุณใส่ขึ้นออกอย่างนี้ อีกอย่างทั้งสองท่านก็เป็นเจ้าของงานวันนี้ แต่งหรูบ้างไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“ครับ งั้นใส่ตัวนี้ก็ได้”
อีซึงโดพยักหน้าเห็นดีด้วย เขาไม่เคยสวมเสื้อผ้าลายดอกไม้มาก่อนแต่ไม่เป็นไรหรอก ไม่สิ ต้องบอกว่ายินดีเชียวละ มีอย่างที่ไหน แค่เลือกแจ็กเก็ตตัวเดียวต้องใช้เวลานานขนาดนี้
“เอาละ ชิ้นต่อไปก็เสื้อเชิ้ตค่ะ คุณต้องใส่คู่กับตัวที่ท่านเจ้าบ้านใส่ฉะนั้นเชิญทั้งสองท่านถอดเสื้อแล้วตามนมมาทางนี้นะคะ
คอมเมนต์