White Night ตอนที่ 2-1
บทที่ 2 (1)
โชคดีเหลือเกินที่เป็นนาย
“ไม่ได้แต่ง เตรียมไว้จริงด้วยแฮะ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเจอฝีมือท่านชินยองแอสักหน่อย รับรองจะเสกห้องโล่งโจ้งให้สวยปิ๊งยังกับสตูดิโอถ่ายภาพแต่งงานเชียว”
ชินยองแอแต่งตัวมาเสียสวยเช้ง หล่อนม้วนผมเป็นลอนปล่อยสยายแล้วเหน็บเครื่องประดับผมให้ปัดเคลียไหล่ข้างเดียว ชุดเดรสคล้องคอสีแดงสดทิ้งถ่วงแนบทรวดทรงโค้งเว้างดงามดั่งงานจิตรกรรมชั้นดี
“ถึงบุคลิกจะไม่ให้ แต่ฉันค่อนข้างชอบดอกไม้นะ พี่ว่าใช้เจ้านี่เป็นเซ็นเตอร์พีซ[1] ดีไหม”
อีซึงโดจนปัญญา ไม่รู้ว่าควรวางตัวอย่างไรกับอสูรสาว ชินยองแอเป็นผู้หญิงแบบที่เขาเพิ่งเคยพบเจอ เจ้าหล่อนประกาศขอทำหน้าที่ตกแต่งห้องจัดเลี้ยงให้ แล้วก็ปรากฏตัวชนิดไม่มีเคอะเขินที่คฤหาสน์สกุลแทตั้งแต่ไก่โห่ ทั้งที่เขากับหล่อนเพิ่งพบหน้ากันจัง ๆ เป็นครั้งแรก แต่ชินยองแอกลับวางตัวสนิทสนมประหนึ่งรู้จักเขามานานปี สวนสัตว์ที่อีซึงโดเคยทำงานมีเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เป็นสาวขาเฮ้วอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เรียกว่าจืดสนิทใจหากเทียบกับคุณหนูชินผู้แสนจี๊ดจ๊าดตนนี้
“เอ่อ…ก็สวยดีนะ…”
อีกครั้งที่อีซึงโดกระดากจนปล่อยให้ปลายประโยคแผ่วลง ชินยองแอพูดจากับเขาอย่างเป็นกันเอง ไม่ลงท้ายคะขากับเขาทันทีที่มาถึงโถงทางเข้าอีซึงโดประดักประเดิดกับความสัมพันธ์ที่จู่ ๆ ก็ก้าวกระโดด ท่าทางของชินยองแออาจดูคล้ายตีสนิท ทว่าอีซึงโดกลับไม่นึกรังเกียจวิธีผูกสัมพันธ์แบบมัดมือชกของเจ้าหล่อน เพราะบุคลิกของอสูรสาวดันชวนให้นึกเชื่อมโยงไปถึงแทกูกยองได้อย่างน่าประหลาด
ดวงตางามเย้ายวนของชินยองแอโค้งยิ้ม
“ฉันเอาของขวัญอวยพรวันแต่งงานมาให้ด้วย”
อสูรสาวหยิบกล่องทรงเหลี่ยมหน้าตาคล้ายตู้ปลาจากกองดอกไม้มากมายที่พวกผู้ติดตามหล่อนช่วยกันขนเข้ามาส่งให้เขาแล้วกล่าวว่า
“ดอกไม้สดอบแห้งน่ะ ถึงคู่พี่จะมีลูกด้วยกันแล้ว แต่ก็ถือเป็นคู่แต่งงานใหม่ ฉันเลยจัดไว้เป็นรูปหัวใจ ของชิ้นอื่นฉันสั่งซื้อก็จริง แต่มีแค่ชิ้นนี้ละที่พิเศษ เพราะฉันลงมือทำเอง”
ภายในกล่องของขวัญบรรจุลูกแก้วโค้งทรงโดมที่ภายในมีดอกไม้สีสันละลานตา กลีบดอกสวยสดจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นดอกไม้จริง ทั้งงดงามและสดใหม่คล้ายมีชีวิต อีซึงโดรับมาถืออย่างเบามือก่อนเอ่ยถามว่า
“ดอกไม้สดหรือ”
“อ้าว ได้ฟังกันบ้างไหมเนี่ย มันคือดอกไม้สดอบแห้งหรือพรีเซิร์ฟฟลาวเวอร์[2] เป็นการใช้เทคนิคอบแห้งดอกไม้สด เก็บไว้นานสี่ห้าปีก็ยังสวยหรืออาจคงสภาพนานกว่านั้นก็ได้นะ”
“ขอบใจนะ สวยมากเลย แม่นมครับ วางแต่งไว้ในห้องนอนน่าจะดี”
“ห้องต้องสวยสดชื่นขึ้นเพราะรสนิยมคุณยองแอแน่นอนค่ะ งั้นนมไปวางให้เดี๋ยวนี้เลยนะคะ”
แม่นมรับของขวัญมาแล้วเดินหายลับตาไป ชินยองแอกวาดตามองห้องโล่งโจ้งอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มสดใสก่อนจะร้องว่า
“เอาละ ของขวัญก็ให้แล้ว ได้เวลาจัดห้องรับงานเลี้ยงเสียที นี่!เด็ก ๆ เลิกวิ่งเล่นแล้วมาช่วยพี่เร็ว!”
“ว้าว-ว-ว! ช่วย! ช่วย!”
แทอีกยองกับยออึนแทวิ่งปรู๊ดเข้ามาทันใด ดวงหน้าเด็กชายระบายรอยยิ้มกว้าง ดูท่าทางคงถูกใจปีกกับวงแหวนเทวดาที่ได้รับเป็นของขวัญมากทีเดียว
“เทวดาน้อยอีกยองมาแล้วคร้าบ!”
มาถึงแทอีกยองก็หันหลังขยับแขนเต้น ส่งผลให้ปีกติดขนขาวฟูฟ่องกระพือตาม
“พี่อึนแทชมว่าผมเหมือนเทวดาจริง ๆ ด้วย พี่ยองแอซื้อจากไหนเหรอ”
“ของซื้อที่ไหนเล่า ของขวัญน่ะนะเราต้องลงมือทำเองถึงจะมีความ-หมาย”
“ถามจริง? พี่ยองแอทำเองหมดเลยเหรอฮะ สุดยอด”
“ตื่นเต้นทำไม แค่ของหมู ๆ สำหรับปรมาจารย์ด้านของตกแต่งงานเลี้ยงแบบพี่น่ะ แค่นี้ง่ายเหมือนปอกกล้วย”
ชินยองแอพูดปด หล่อนหงุดหงิดแทบคลั่งตอนประดิษฐ์ปีกกับวงแหวนเทวดา ตอนจับห่านมาถอนขนยังไม่เท่าไร แต่ตอนติดขนห่านแต่ละเส้นนี่สิ อสูรสาวสบถตลอดเวลา แถมยังโวยวายอย่างหัวเสียว่างานประดิษฐ์ช่างวุ่นวายจนโยนทิ้งตั้งหลายครั้ง
แต่แล้วท่าทางกำมือแน่นกับดวงตาเป็นประกายของเด็กชายก็ลบล้างความตั้งใจเดิมที่ชินยองแอบอกตัวเองเมื่อวานว่าหล่อนจะไม่มีวันทำงานประดิษฐ์อีก หล่อนเคยเจอแต่อสูรเด็กที่แข็งแกร่งจนน่าหมั่นไส้และชอบข่มฝ่ายอ่อนแอกว่า จึงนึกยินดีแกมชอบใจกับนิสัยผ่าเหล่าของแทอีกยอง
“พี่ยองแอให้ของขวัญผม เดี๋ยวผมจะทำมงกุฎดอกไม้ตอบแทนนะฮะ ในเรือนกระจกของแม่นมปลูกดอกไม้สวย ๆ ไว้เพียบ”
“เธอทำมงกุฎดอกไม้เป็นด้วยหรือ”
“อื้อ ผมทำให้พี่แจฮีตอนเล่นด้วยกันบ่อย ๆ พี่แจฮีชอบมาก ยังเคยชมว่าผมทำสวยด้วย”
“จ้ะ เดี๋ยวพอจัดห้องเสร็จ เราไปเล่นด้วยกันบ้างดีกว่า”
“ดี ๆ! งั้นรีบลงมือกันเลยเถอะ อยากให้พวกเราช่วยอะไรฮะ”
แทอีกยองตื่นเต้นใหญ่ ยออึนแทผู้ยืนอยู่ข้าง ๆ จึงกล่าวเสริมบ้าง
“อีกยองกับผมจะช่วยงานเอง พี่ยองแอนั่งพักสบาย ๆ ไม่ต้องออกแรงก็ได้”
“อื้อ พี่ยองแอนั่งสั่งเป็นเจ้าหญิงได้เลย”
ชินยองแอตอบรับคำพูดเสียสละอันแสนจะโอ้อวดของเด็ก ๆ อย่างยินดี
“ขอบใจจ้ะ เจ้าพวกสุภาพบุรุษตัวน้อย งั้นเราเริ่มจากปูโต๊ะให้สวยก่อนจัดดอกไม้ดีไหม”
ชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับใช้ในงานเลี้ยงถูกขนมาวางสุมตรงมุมห้องตั้งแต่เช้า แน่นอนว่ายังขาดผ้าปู ชินยองแอให้ยออึนแทผู้เสนอตัวอยากทำงานออกแรงช่วยย้ายมาจัดเรียง ส่วนเธอกับแทอีกยองช่วยกันปูผ้าคลุมโต๊ะที่เธอเตรียมมาเอง
ระหว่างที่อีซึงโดช่วยเปลี่ยนผ้าม่านเป็นผ้าลูกไม้เนื้อดี เขาก็ถูกเรียกไปชั้นสอง เพราะลูกเสือที่แทกูกยองเพิ่งช่วยกล่อมนอนดันตื่นเสียแล้วทันทีที่อีซึงโดเปิดประตูห้องนอนเข้าไป อสูรน้อยผู้ร้องโยเยเรียกหาแม่ก็กระโดดผลุงเข้าสู่อ้อมกอดทันที
แม่ พย็อล หม่ำ ๆ! หม่ำ ๆ!
“อื้อ พย็อลของเราหม่ำ ๆ เนอะ แม่นม ขออาหารของพย็อลหน่อยสิครับ”
แม่นมผู้เดินตามอีซึงโดมาด้วยรับคำ “นมจะรีบเตรียมมาให้ค่ะ”แล้วออกจากห้องไป อีซึงโดใช้มือข้างหนึ่งรองสะโพกของลูกเสือไว้แล้วเดินไปที่เตียง
“พย็อลนอนเต็มอิ่มแล้วหรือ ฝันดีไหม”
แม่ไม่อยู่ ไม่นอน
“แม่ต้องอยู่รับแขกข้างล่าง หนูนอนกับพ่อก็ได้”
อีซึงโดเกาศีรษะเจ้าตัวเล็กเบา ๆ แล้วนั่งลงข้างเตียง ใบหูที่มีขนสีดำปุยของอสูรน้อยลู่ไปข้างหลังพร้อมเสียงครางครืดคราดในคออย่างอารมณ์ดี
“ซึงโด เจ้าบ่าวของนายก็ไม่ยอมนอนเหมือนกันนะ”
ถ้าเห็นอีซึงโดใส่ใจแค่ลูกเล็กแล้วยอมหยวนคงไม่ใช่แทกูกยองอสูรหนุ่มผู้นอนเอกเขนกหนุนแขนตัวเองด้วยมาดหนุ่มเจ้าสำราญพูดจาอ้อนเอาแต่ใจตามลูกอีกคน
แทกูกยองโอบแขนข้างหนึ่งรอบเอว อีซึงโดโอนอ่อนตามแรงรั้งนั้นจนลงไปนอนอิงศีรษะเข้ากับแผ่นอกของอีกฝ่าย ได้ยินเสียงชีพจรหนักแน่นชัดเจนเมื่อซีกหน้าของเขาแนบทับลงมา นิ้วมืออีกข้างของแทกูกยองสอดเส้นผมที่พลิ้วไหวของเขาเล่น
“ขนาดเจ้าจิ๋วนอนละเมอยังเรียกหาแต่แม่ ไม่หัดสำนึกบุญคุณเล้ยว่าพ่อตัวเองอุตส่าห์ทนเบื่อคอยตบก้นกล่อมนอนให้เนี่ย”
“แต่ลูกก็ไม่กัดนายนี่นา จะโวยวายทำไม”
“ดูพูดเข้า คอยให้ท้ายแบบนี้ ลูกจะนิสัยเสีย”
“เขายังเด็ก ยอมหน่อยเถอะน่า”
“ก็เพราะยังเด็กไงถึงได้ยอม รออายุครบขวบเมื่อไรยังกล้าทำหางพองขู่ใส่พ่อละก็ โดนดีแน่ รู้ไว้ด้วย”
แทกูกยองเคาะนิ้วชี้ลงบนกระหม่อมลูกเสือ เจ้าตัวเล็กส่งเสียงขู่แฟ่แล้วใช้เท้าหน้าไล่ตบนิ้วพ่อ ทั้งที่ยังพูดไม่ค่อยเป็นภาษา แต่อสูรน้อยก็ดูไม่เกรงกลัวสิ่งใดบนโลกเลย อีซึงโดกำเท้าหน้าของลูกเสือมาคลึงเบา ๆ
“พย็อล ห้ามกางเล็บใส่พ่อ”
คอมเมนต์