White Night ตอนที่ 2-10
บทที่ 2 (10)
“ขอบคุณนะที่นายคอยเลี้ยงดูอีกยองมาอย่างดี”
“ฉันเลี้ยงที่ไหนกัน ฝีมือแม่นมต่างหาก”
“ถึงงั้นก็เถอะ ถ้านายไม่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมให้สมบูรณ์และปลอดภัยพอ ลูกคงขาดร่มเงาให้พึ่งพิงเพื่อการเติบโต แม่นมอาจเติมเต็มพื้นที่ว่างในส่วนของฉันได้ แต่ไม่มีใครทำหน้าที่แทนนายได้หรอกนะ”
แทกูกยองเพียงอยู่ในที่ที่เด็กชายต้องการ เขาจำได้ว่าไม่เคยพูดจาอ่อนโยนกับลูกเลย ซึ่งแทอีกยองเองก็ไม่ต้องการ หรือให้พูดตรง ๆ ก็คือไม่จำเป็นดูจะเป็นคำที่ใกล้เคียงกว่า
หากแทอีกยองออดอ้อนงอแงเหมือนมนุษย์เด็ก เช่น ขอให้อุ้มให้กอด ขอให้อ่านหนังสือให้ฟัง ถึงจะกระดาก แต่แทกูกยองก็คงจะยอมตามใจ ทว่าเด็กชายไม่เคยทุกข์ร้อนหรือร้องขอเกินกว่าที่พ่อปฏิบัติต่อตน
ลูกอสูรไม่ต้องการพ่อผู้ใจดี แต่ต้องการผู้นำที่จะช่วยค้ำจุนและปกป้องตนให้ปลอดภัย แม้ว่าทุกวันนี้แทอีกยองดูจะเห็นเขาเป็นพ่อที่ว่าง่ายจนกลายเป็นเพื่อนเล่นด้วยกันบ่อย ๆ ก็ตาม
“เรื่องอื่นจะยังไงไม่รู้ แต่อย่างน้อยฉันก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้วละ”
แทกูกยองเก็บซ่อนอาการเขินที่ถูกชมด้วยการเสเปิดประตูห้องน้ำแต่ทันใดนั้นอีซึงโดก็ตะครุบข้อมือเขาไว้ แทกูกยองเหล่มองแล้วเอียงศีรษะสายตาที่ช้อนมองตอบจ้องนิ่งและอ่อนเชื่อม อสูรหนุ่มหยุดคิดครู่เดียวก็ถามขึ้น
“ดีจัง ถึงเวลาที่ฉันจะถูกงาบแล้วใช่เปล่า”
อีซึงโดหลิ่วตาข้างเดียวแทนคำตอบ จากนั้นก็ขยับมาประกบปากทันที แม้แทกูกยองจะไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ อีกฝ่ายถึงเปลี่ยนท่าที แต่มีหรือที่เขาจะเสียเวลาเซ้าซี้ถามหาเหตุผล เขาไม่โง่พอจะทำลายบรรยากาศเป็นใจด้วยเรื่องหยุมหยิมหรอก
แทกูกยองเผยอปากรับจูบอย่างว่องไว ลิ้นอ่อนนุ่มสอดเข้าในโพรงปากของฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว อสูรหนุ่มเอียงศีรษะให้องศาของการแลกจุมพิตของพวกเขาทวีความลึกล้ำ
อีซึงโดหลับตา ผิวเปียกชื้นกับเนื้อนุ่ม ๆ ในปากของพวกเขาเบียดเคล้ากันหนักหน่วง รสชาติน้ำลายที่หวานล้ำทำให้สมองมึนงง อีซึงโดรู้สึกเสียววาบในช่องท้อง ไอร้อนวูบวาบจากท้องน้อยแล่นปราดไปถึงกลางกระหม่อม
แทกูกยองยกต้นขาข้างหนึ่งของอีซึงโดพาดไว้กับท่อนแขนของตนส่งผลให้ผิวระหว่างขาที่อ้ากว้างของอีซึงโดบดคลึงกับท้องน้อยอสูรหนุ่มตัวตนแข็งขึงของแทกูกยองขยับเสียดสีบริเวณร่องบั้นท้าย แนบชิดกระทั่งสัมผัสได้ถึงมัดกล้ามทั่วท้องน้อย อีซึงโดครางในลำคอเมื่อเกือบเสียหลักล้มเพราะยืนเขย่งรับน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว
แทกูกยองคว้าตัวอีซึงโดได้ทันเวลา ขาที่อ้ากว้างของอีซึงโดจึงยิ่งแนบสนิทไปกับเนื้อตัวของแทกูกยอง ตอนนี้ปลายเท้าของอีซึงโดไม่แตะพื้นแล้ว เขาถูกร่างแทกูกยองอัดติดผนังกระเบื้อง ทั้งที่อยู่ในท่าทางชวนหวาดเสียว ทว่าอีซึงโดกลับรู้สึกปลอดภัย เขาส่ายหน้าพูดด้วยเสียงหอบเมื่อริมฝีปากของอสูรหนุ่มแตะที่ปลายคาง
“ปะ…ไปที่เตียง…”
แทกูกยองขบเม้มติ่งหูอีกฝ่ายแล้วกระซิบ
“ตรงนี้ก็ได้ ฉันจะจัดการกับนายทั้งที่ยืนอยู่นี่ละ แนบชิดกันดีออก”
เสียงทุ้มแตกพร่ายิ่งฟังลามกขึ้นไปอีกเมื่ออยู่ท่ามกลางมวลอากาศชื้นแฉะโดยรอบ อีซึงโดสะดุ้งแล้วตัวสั่นเทา แทกูกยองบดขยี้ริมฝีปากลงไปบนผิวลาดไหล่ที่ขนลุกเกรียวนั้นแล้วขยับมือ เขาขยำผิวตรงก้นกบอีซึงโดและสอดนิ้วเข้าสู่โพรงทาง
“ทั้งลื่นทั้งเปียก”
อีซึงโดจิกเล็บกับไหล่ของอีกฝ่าย ลมหายใจของแทกูกยองชักขัดอสูรหนุ่มแหวกผิวบั้นท้ายแล้วสอดนิ้วเพิ่มเข้าไปอีก
“ข่วนฉันสิ จัดให้เต็มที่เลย ซึงโด”
เล็บที่ตัดสั้นทิ้งรอยแดงเหนือไหล่อสูรหนุ่ม มัดกล้ามบนต้นแขนอันแข็งแกร่งดุจศิลาของแทกูกยองกระตุกอย่างพึงใจ ทว่ารอยแดงนั้นจางหายไปเร็วยิ่งกว่าไอจากลมหายใจที่ลับหายกลางอากาศเสียอีก อีซึงโดกัดไหล่ของอีกฝ่ายที่กลับมาเรียบเนียน เขากดฟันอ้าปากแล้วใช้ลิ้นเลียไปทั่ว การกระทำนั้นส่งผลให้ท่อนเนื้อแนบชิดตรงร่องสะโพกยิ่งขยายใหญ่
“อา” อสูรหนุ่มเปล่งเสียงครางรัญจวนใจในลำคอ อีซึงโดแอ่นสะโพกเข้าหาเขาช้า ๆ พลางถูไถแก้มของตัวเองกับแก้มของอีกฝ่าย ไอร้อนจากผิวที่แนบชิดสร้างอุณหภูมิระอุดุจทั้งสองกลายเป็นหนึ่งเดียว
“มัวอดใจทำไม” อีซึงโดกระซิบ “ทั้งที่ฉันรอนายอยู่แบบนี้”
ได้ยินเสียงสบถเบา ๆ นิ้วมือของแทกูกยองที่ควักคว้านในโพรงทางถูกถอนออก แล้วร่างกายของอีซึงโดก็ถูกรุกรานด้วยท่อนเนื้อขนาดใหญ่ที่ร้อนลวกยิ่งกว่าอย่างรวดเร็วเสียจนปากทางยังไม่ทันได้ปิดลง
“อื้อ” ลมหายใจของอีซึงโดสะดุดจากกระทำที่แข็งขึง ร่างกายจิกเกร็ง แต่ก็ไม่ยอมหยุดขยับขยายและกลืนกินร่างกายของอีกฝ่ายอย่างสุดความสามารถ
“ทำเป็นเก่ง แล้วทำไมรับเข้าไปได้ไม่หมด ทำเป็นไม่เคยไปได้”
แทกูกยองพึมพำกระเซ้า อีซึงโดช้อนสายตาแดงก่ำมองมา ทว่าทำได้เพียงเก็บกักถ้อยคำที่จะเถียงให้หายลงคอไป
สีหน้าแทกูกยองเคร่งเครียดผิดกับคำพูดที่อุกอาจ นัยน์ตาวาววับคล้ายสัตว์ดุร้าย หากสัมผัสของอสูรหนุ่มยังคงอ่อนโยนเมื่อดูดเม้มริมฝีปาก จังหวะเนิบช้านั้นเปลี่ยนผิวอ่อนนุ่มให้เห่อแดง
“อยากขยับแล้ว”
คำพูดออดอ้อนเร่งเร้าเหมือนเด็ก ๆ หากน้ำเสียงกลับแตกพร่าวาบหวาม อีซึงโดผ่อนลมหายใจที่กลั้นไว้ทีละน้อย เขาพยายามฝืนผ่อนคลายความเกร็ง แต่ก็ทำได้ไม่ง่ายเลย
นี่เป็นการร่วมรักครั้งแรกในรอบเกือบสองสัปดาห์ การข่มอารมณ์ตื่นตัวที่ใกล้ระเบิดหลังจากอดใจสั่งสมมานานวันย่อมเป็นเรื่องยากสำหรับทั้งคู่
“ขอขยับนะ”
แทกูกยองจ้องลึกเข้าไปในดวงตาอีซึงโด ขณะเดียวกันก็ถูไถแก้มร้อนผ่าวลงกับแผ่นอก เล่นเอาอีซึงโดเลิกคิดรอให้เนื้อตัวผ่อนคลายลงอีกหน่อย หัวใจเขาหลอมละลายเพราะกิริยาออดอ้อนนั้นจนต้องพยักหน้ารับ
แก่นกายอสูรหนุ่มเบียดตัวในช่องทางอ่อนนุ่มจนสุดความยาว แรงผลักดันพรวดเดียวกดหนักถึงต่อมน้ำรัก อีซึงโดหวีดร้อง ช่องทางหลั่งน้ำหล่อลื่นเปียกปอนเนื้อตัวจนอีซึงโดปวกเปียกไปหมด
แทกูกยองถอนท่อนเนื้อแล้วผลักดันเข้าใหม่เต็มแรง บทรักเร่งร้อนเสียจนหาความใจเย็นไม่เจออีกต่อไป ทั้งไม่หยุดแค่จังหวะเดียว เจ้าบ้านหนุ่มยังคงกระแทกกระทั้นสะโพกอย่างต่อเนื่อง
สายตาของอีซึงโดหม่นมัว ร่างกายสะเทือนไปทั่วดุจมีลูกเห็บตกกระทบ เขาไม่เห็นและไม่ได้ยินสิ่งใดอีก มีเพียงสัมผัสสอดประสานกับอีกฝ่ายเท่านั้นที่แจ่มชัด แรงกระแทกตัวตนทั้งหนักหน่วงและรัวเร็วคล้ายไม่ยินยอมแม้แต่จะให้พักหายใจ
“ขอทำแรงกว่านี้ได้ไหม ฉันทำให้นายร้องดังกว่านี้ได้หรือเปล่า”
คอมเมนต์