White Night ตอนที่ 2-8

Reader Settings

Size :
A-16A+

บทที่ 2 (8)

“พย็อลอยากสวัสดีคุณลุงไหม”
อีซึงโดลองถาม แต่ลูกเสือไม่ตอบ แทกูกยองซึ่งนั่งเท้าคางอยู่เลยเป็นฝ่ายเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย
“จำเสียงคุณลุงได้หรือ”
แทอึนกยองหันขวับ
เสียง?
ลูกเสือทวนถาม แทกูกยองหัวเราะเนือย ๆ
“คุณลุงนี่ละคือคนที่สั่งให้เธอส่งเลือดให้แม่”
เสียง
“พี่ชายเธอกับคุณลุงคนนี้คือผู้ช่วยชีวิตเธอกับแม่ไงเล่า”
เสียง!
ทันใดนั้นอสูรน้อยก็กระโจนพรวดไปยืนจังก้าบนโต๊ะ แล้วจ้องอีวอนพโยเขม็ง ท่าเดินสี่เท้าตุปัดตุเป๋ของร่างเล็ก ๆ น่าเอ็นดู ทว่าคล่องแคล่วในที อีวอนพโยสบตาลูกเสือที่จับจ้องใบหน้าเขาอย่างสงบนิ่ง
เขาเอ่ยถามแทกูกยอง
“สติปัญญาดีจริง ๆ ทั้งที่ยังไม่ถึงวัยระลึกถึงความทรงจำตอนอยู่ในท้องแม่ได้แท้ ๆ”
“อืม คงแค่นึกออกได้ไวนิดหน่อยเท่านั้นแหละ”
“หมายความว่าไง จะบอกว่าพย็อลจำเสียงคุณวอนพโยได้หรือ”
อีซึงโดถามอย่างตื่นเต้น แทกูกยองพยักหน้ารับ
“แต่คงยังนึกทุกความทรงจำตอนอยู่ในท้องไม่ออกหรอก ที่จำเสียงได้คงเพราะตอนนั้นเจ้าจิ๋วกำลังอ่อนแอมาก เลยจดจ่อใช้พลังของตัวเองสุดตัว”
ซงแจฮีกระซิบบอกนัมคังอู “พระเจ้าช่วย น่าประทับใจจัง ดูสิคะน้องจำผู้มีพระคุณได้ด้วย” นัมคังอูรู้ดีว่าลักษณะดังกล่าวของอสูรไม่ได้เป็นเรื่องชวนฝันปานนั้น แต่จะปฏิเสธก็ใช่ที่ จึงพยักหน้ารับเงียบ ๆ
“ว้าว! พย็อลของเราจำคุณลุงได้นี่เอง ทักทายหน่อยสิ สวัสดีคุณลุงก่อน”
หวัดดี
คุณพระคุณเจ้า ยอมพูดทักทายด้วย อีซึงโดคิด
แทอึนกยองโบกเท้าหน้าข้างหนึ่งอย่างตั้งใจ จนถึงตอนนี้มีแค่เด็กหญิงนัมยอนจูเท่านั้นที่อสูรน้อยกระตือรือร้นทักทาย แต่อีวอนพโยตอบรับเสียงเรียบเฉย แตกต่างอย่างยิ่งกับอาการตื่นเต้นของอีซึงโด
“อืม ยินดีที่ได้เจอหน้ากันแบบนี้นะ”
หวัดดี คุณลุง หวัดดี
แทอึนกยองยกเท้าหน้าขึ้นลงซ้ำ ๆ อย่างตื่นเต้น อีซึงโดจับตามองลูกแล้วบอกอีวอนพโยเบา ๆ
“ลองอุ้มแกไหมครับ”
อีวอนพโยอุ้มลูกเสือทันที แทอึนกยองก็ยอมให้อุ้ม ไม่ขืนตัวแต่อย่างใด แถมยังขยับหางช้า ๆ ตบท่อนแขนอีวอนพโยเป็นจังหวะอันเป็นกิริยาที่มักแสดงออกยามอารมณ์ดีมาก ๆ อีกด้วย ยออึนแทกับแทอีกยองซึ่งนั่งต่อตัวต่อกันอย่างเมามันจนเกือบประกอบเสร็จยังถึงกับเดินมาดูฉากน่าอัศจรรย์ใจนี้ด้วยกันใกล้ ๆ
“อ๊า พระเจ้า!”
แม่นมเพิ่งยกเนื้อบดสำหรับลูกเสือเข้ามาเห็นเข้าก็สะเทือนใจจนหงายหลัง ยออึนแทพุ่งตัวเข้าไปรับถ้วยอาหารที่หล่อนทำหลุดมือได้ทันเวลา“ฮึบ” แทอีกยองเปล่งเสียงขณะพุ่งเข้าไปรับตัวแม่นมทันเวลาเช่นกัน ช่างเป็นฉากร่วมด้วยช่วยกันอันเหมาะเหม็งและชวนหัวดีแท้
“ทุกคนสุขสมใจกันหมด ยกเว้นนม! ได้ชื่นใจกันหมด ยกเว้นนม-ม-ม!”
แม่นมฟุบตัวลงทุบพื้นพลางคร่ำครวญ แทอีกยองตบบ่าหล่อนพลางกล่าวปลอบใจ “พย็อลก็ไม่ชอบผมเหมือนกันแหละ แม่นม” ซึ่งแน่นอนว่าคำปลอบนั้นไม่ได้ช่วยให้แม่นมคลายเศร้าลงแต่อย่างใด
ชินยองแอเป็นตัวชูโรงที่สร้างสีสันในงานเลี้ยงตลอดเวลา โดยมีซงแจฮีลูกคู่ผู้กระตือรือร้นคอยให้ความร่วมมือ ซงแจฮีเพิ่งเคยดื่มเหล้าเป็นครั้งแรกหล่อนเริ่มจากจิบเบียร์เบา ๆ แล้วลามไปดื่มเหล้าฝรั่งด้วย ทว่าขนาดดื่มถึงแก้วที่สี่แล้ว หน้าตาของซงแจฮีก็ยังคงแจ่มใส พูดจาชัดถ้อยชัดคำแสดงว่าหญิงสาวคอแข็งผิดคาด
ยอเจอุนเงียบกริบที่สุด เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการชมบรรยากาศงานเลี้ยงเงียบ ๆ หากแทอีกยองไม่ชวนคุยจ๋อย ๆ ยอเจอุนคงไม่ได้เอ่ยปากสักคำด้วยซ้ำ ชินยองแอเห็นแล้วแสนจะขัดใจ หล่อนถึงกับเดาะลิ้นพลางชี้หน้าติเจ้าตัวตรง ๆ ว่า “ไร้มนุษยสัมพันธ์ นายแย่ยิ่งกว่าแทกูกยองเสียอีก”ซึ่งยอเจอุนก็ไม่ปฏิเสธเสียด้วย
“เฮ้ เจ้าเงา นายก็ออกมาดื่มด้วยกันสิ”
“ผมไม่มีงานอดิเรกเป็นการทรมานสังขารตัวเองหรอกนะครับ คุณยองแอ”
“นี่นายกำลังว่าร้ายเจ้าบ้านของนายว่ามีงานอดิเรกชอบทรมานสังขารตัวเองหรือ”
แทซองมุนเงียบไปแค่ชั่วอึดใจก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างไหลลื่น
“เดิมทีท่านเจ้าบ้านของเราก็ไม่แตะของมึนเมาเหล้ายาเหมือนกันครับ แต่เป็นเพราะท่านคบเพื่อนผิด”
นัมคังอูผู้อยู่ดี ๆ ก็ถูกแว้งกัดถึงกับสบถ “บ้าฉิบ” แทกูกยองพยักหน้าอย่างพออกพอใจ
“ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เพราะหมอนี่ ฉันก็ไม่ดื่มเหล้าหรอก”
“เหมือนกันแหละโว้ย ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันก็ไม่สูบบุหรี่หรอก”
“แต่เขาว่ากันว่า ถ้าอยากรู้ว่าใครเป็นยังไง ให้ดูเพื่อนที่เขาคบนะคะก็พอ ๆ กันทั้งคู่นั่นละ”
“โอ้โห ดูแจฮีพูดจาเข้าข้างสามีตัวเองเสียก่อน ซึงโดของฉันจะไม่เถียงแทนบ้างเหรอจ๊ะ”
ทั้งที่เป็นงานเลี้ยงเรียบง่าย แต่บรรยากาศกลับสนุกสนานเป็นกันเองกิจกรรมในงานก็ทั่วไป เช่น ตัดเค้ก เต้นรำเปิดเพลงช้าเบา ๆ ใต้แสงเทียน
ชินยองแอไม่ดื่มเหล้า แต่เชี่ยวชาญเรื่องเกมในวงเหล้านัก เกมของหล่อนสร้างสีสันและเรียกเสียงหัวเราะให้งานครื้นเครง ใบหน้าแขกเหรื่อทุกคนดูเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ปกติไม่เคยทำมากทีเดียว
อีซึงโดหยุดดื่มเมื่อรู้สึกกรึ่ม ๆ พออารมณ์ดี ส่วนแทกูกยองกับนัมคังอูยังคงดวดเหล้ากันต่อ ทั้งคู่ทนอาการร้อนระอุในร่างกายไม่ไหวจนถอดเสื้อโยนทิ้งกันไปสักพักใหญ่แล้ว
พอเวลาเคลื่อนคล้อยไปถึงสี่ทุ่มกว่า ยออึนแทกับแทอีกยองก็ฝืนลืมตาไม่ไหว พากันหายไปนอนที่ชั้นบน ส่วนเด็กเล็กอีกสองหน่วยต่างก็หลับปุ๋ยไปในเปลเดียวกัน
แขกเหรื่อขอตัวกลับเมื่อใกล้เที่ยงคืน อีซึงโดตามมาส่งโดยกล่าวขอบคุณแขกทีละคนด้วยตัวเอง
เกิดความเงียบสงบคลี่คลุมคฤหาสน์หลังงานเลี้ยงเลิกรา อีซึงโดแวะจุ๊บราตรีสวัสดิ์ยออึนแทกับแทอีกยองที่ห้องของทั้งคู่ จากนั้นก็เข้าไปยังห้องของแทอึนกยองซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนตน ลูกเสือที่วันนี้ตื่นเต้นรื่นเริงเป็นพิเศษกำลังหลับสนิทเช่นกัน
“ฝันดีนะ”
อีซึงโดแตะริมฝีปากลงบนกระหม่อมลูกเสืออย่างแผ่วเบา ขนาดนอนหลับปุ๋ย เจ้าอสูรน้อยยังขยับเท้าหน้าดุกดิกพลางครางในลำคอตอบอีซึงโดปิดประตูห้องลูกเบา ๆ แล้วกอดเอวแทกูกยองรั้งเข้าหาตัว
“กูกยอง เราดื่มไวน์กันต่อที่สระจากุซซีไหม”
แทกูกยองเอียงคอช้า ๆ โน้มตัวลงแนบแก้มอุ่นร้อนบนหน้าผากอีซึงโด เขาหลับตารับสัมผัสนั้น
“ฉันไม่ได้เมาน่า”
“น่าสงสัย”
“ฉันไหวจริง ๆ แค่เสียดายเวลา ยังไม่อยากเข้านอนเลย”
“แหม นายก็เปิดโอกาสให้สิ เดี๋ยวคืนนี้สามีจะมอบของขวัญให้ถึงใจชนิดหายเสียดายเชียว”
แทกูกยองก้มหน้าถูไถแก้มตนกับแก้มเขา อีซึงโดซุกหน้ากับซอกคออีกฝ่ายแล้วสอดนิ้วลูบไล้เรือนผมอสูรหนุ่ม
“ราตรียังเยาว์นัก เจ้าเด็กน้อย”
“ฮะ ๆ” แทกูกยองขำ “ซึงโดเพี้ยนซะแล้ว”
บ่นเสร็จแทกูกยองก็กดอินเตอร์โฟนด้วยสีหน้าแช่มชื่น
“แม่นม เติมน้ำลงสระว่ายน้ำในร่มแล้วใช่ไหม…อืม วันนี้น่ะหรือ ดีทำได้ดีมาก ฉันกับซึงโดจะใช้สระ เตรียมน้ำอุ่นในสระจากุซซีให้ด้วย แล้วก็ขอไวน์สักสองขวด…จะจุดเทียนทำไม ไม่สิ ขอเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะสีนวล ๆสักสองสามโคมดีกว่า…อือ ใช่ จะล้างตัวก่อนค่อยเข้าไป อีกสักสิบหรือยี่สิบนาที อือ”
แจ้งธุระเสร็จ ทั้งคู่ก็เข้าห้องอาบน้ำด้วยกันโดยเลือกใช้ห้องที่อยู่ระหว่างห้องนอนกับสระว่ายน้ำในร่ม พวกเขาหยอกเย้าปาดฟองสบู่ให้กันและกัน รวมถึงแลกจุมพิตกันเป็นระยะ บางจังหวะรสจูบก็ลุกลามพัวพัน

คอมเมนต์

Chapter List